เป็นรีวิวอาหารมื้อแรกในฝรั่งเศสของทริปนี้ Auberge du Lion d’Or เป็นร้านอาหารในเมือง Charly-sur-Marne เมืองเล็กๆในแคว้นแชมเปญ เราแวะมาทานอาหารที่นี่ก่อนไปชิมแชมเปญซึ่งลงไว้ในบล็อกเอนทรีก่อน คลิกที่นี่เพื่อเข้าไปอ่าน
การที่ท้องว่างแล้วชิมแชมเปญนี่ไม่เป็นผลดีเนอะ 😉 การชิมแชมเปญคือชิมแชมเปญจริงๆ ไม่มีอาหารให้บริการด้วย ดังนั้นต้องเป็นธุระของเราที่ควรทานอาหารไปก่อน เรามาถึงเมืองนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว ตอนแรกพุ่งไปที่ Champagne house เลยก่อนนึกได้ว่าควรทานอาหารก่อน เลยถามร้านอาหารที่เปิดเสียเลย อิอิ

Auberge du Lion d’Or เป็นร้านที่คุณลุงที่ Champagne house แนะนำมา จริงๆแล้วเป็นโรงแรมที่ร้านอาหารให้บริการ อยู่ติดถนนเลย ใกล้สะพาน หาไม่ยาก

หน้าร้านเป็นแบบนี้ มีป้ายเล็กๆติดไว้ เราจอดรถหน้าร้านแต่งงๆหาทางเข้าไม่เจอ เดินไปเข้าหลังร้านซะงั้น 555
 

 
หลังร้านเค้าร่มรื่น มีไม้เลื้อยกำลังเปลี่ยนสีสวยงามเลย คุ้มเนอะที่หลงมาเข้าทางนี้ อิอิ
 

 
เนื่องจากมาเข้าทางหลังร้าน คุณเชฟที่อยู่ในครัวเหลือบเห็นเลยเดินมาเปิดประตูหลังร้านให้ ^_^ ภายในร้านคนแน่นเลย มีพนักงานเสิร์ฟคนเดียวเดินไปมาอย่างกระฉับกระเฉง
 

 

 
แม้จะเป็นร้านอาหารโลคอลแต่มีเมนูอาหารภาษาอังกฤษนะคะ (ดีใจมากกก) เพื่อความประหยัดเราเน้นสั่งอาหารเป็นเซ็ทที่ทางร้านเตรียมไว้ อาหารเซ็ทของร้านนี้ราคา 14.90 ยูโร รวม entree (อาหารเรียกน้ำย่อย), main dish (จานหลัก) และ dessert หรือขนมหวาน แม้จะเป็นเมนูที่ fixed ราคาและเมนูแล้วแต่ทางร้านก็ใจกว้างมีให้เราเลือก 2-3 อย่างในแต่ละเมนู เรามีสมาชิก 4 คน สั่งอาหารคล้ายๆ กัน มาดูกันว่าเรากินอะไรบ้าง

เมนู entree จานนี้เป็นของหนึ่งค่ะ ชื่อเมนูยาวเหยียด สรุปว่า หน้าตาและรสชาติเหมือน quiche หรือคีชนั่นเอง (คีชเป็นพายชนิดหนึ่งแต่เป็นอาหารคาว ตัวไส้หรือ filling ทำจากไข่ ครีมและเนื้อสัตว์) จานที่หนึ่งสั่งมาเนื้อสัตว์คือเนื้อเป็ด
 

 
แม้เนื้อจะไม่ค่อยเหมือนเนื้อเป็ดเท่าไหร่และชิ้นเล็กแต่ให้อภัยค่ะเพราะตัวฐานที่เป็น pastry crust กรอบอร่อย หอมเนยมาก ตัวครีมก็อร่อย มีเนื้อชิ้นเล็กๆ ปน กินด้วยกันแล้วอร่อยมากๆค่ะ มีสลัดให้กินแกล้มด้วย หมดจานนี้หนึ่งเกือบอิ่มไปแล้วค่ะ เอิ้กๆ
 

 
entree อีกจานของฟูฟี เธออยากลองอะไรแปลกใหม่และแตกต่างจากเพื่อนๆ เลยสั่งเมนูนี้มา ตอนอ่านเมนูก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ จนกระทั่งอาหารถูกยกมาเสิร์ฟแล้วเธอก็ยังงงๆ 555 แต่เหมือนเมนูที่เราเคยกินที่ร้าน Bistrot du 7ème ร้านในปารีส เป็น plateau de charcuteri เป็น cold cut รสเปรี้ยวนิดๆ กินกับแตงกวาจิ๋วดอง เพิ่มความจี้ดขึ้นมาเหมือนกัน
 

 
มาดูจานหลักกันค่ะ หนึ่งสั่งสเต็กแล้วก็นั่งลุ้นว่ารสชาติจะออกมาเป็นยังไง จากประสบการณ์ที่กินร้านอาหารเล็กๆในปารีส สเต็กมักจะเหนียวแต่ก็ลองสั่งเพราะดูน่ากินกว่าอีกตัวเลือกซึ่งเป็นเมนูปลา พอมาเสิร์ฟแล้วหน้าตาดูดีเกินคาด ที่สำคัญเค้าย่างสเต็กไม่เหนียวเลย medium rare ตามที่ขอและเนิ้ออร่อยใช้ได้เลยค่ะ ดีใจ ปลาบปลื่มน้ำตาจิไหล กินหมดทั้งชิ้นเลย อิ่มมากกก
 

 
จานหลักอีกจานเป็นเมนูปลาย่าง ปลาน่าจะเป็นตระกูลปลาเทราท์ เป็นของเพื่อนแต่ขอชิมนิดนึง อิอิ ปลาย่างมาได้กำลังดี เนื้อปลาอร่อย ไม่คาวแต่ก้างปลาเยอะมากๆ
 

 
มาต่อที่เมนูขนมหวาน มีให้เลือก 3 อย่าง สั่งมากินทุกอย่างเลยค่ะ หนึ่งสั่ง Crème brûlée น่าตาน่ากินมากๆ เป็นรสมะพร้าวนะคะ เนื้อขนมมีเนื้อมะพร้าวเล็กๆให้ได้เคียว ตัวครีมค่อนไปทางนิ่มมาก แต่ไม่ถึงกับเละ ครีมอร่อยมากค่ะ ชอบๆ แม้น้ำตาลที่เผาด้านบนจะหวานไปนิด จานใหญ่มากนะคะ จริงๆ หนึ่งอิ่มมากตั้งแต่สเต็กแล้วแต่แข็งใจกินขนมจนหมดเพราะมันอร่อย 😉
 

 

 
ขนมอีกตัวเป็นของเพื่อนสั่งแต่หนึ่งขอแจมชิมด้วย เป็น chocolate cake รสเข้มหอมชอกโกแลตมาก เนื้อเค้กค่อนไปทางแห้ง เสิร์ฟมาพร้อมครีม ทำให้ไม่ติดคอ
 

 
ขนมตัวสุดท้าย เป็น apple tarte รสชาติธรรมดามากๆ ไม่ประทับใจเท่าไหร่ค่ะ ฟูฟีเธอสั่งมา
 

 

สรุปว่าอิ่มและประทับใจ อาหารไม่ได้อร่อยเลอเลิศแต่คุ้มค่ามากๆ บรรยากาศในร้านก็พอใช้ได้ พนักงานแม้จะมีแค่คนเดียวแต่ก็กระฉับกระเฉง อาหารรอไม่นาน ตอนเรียกเก็บเงินยังเมาท์กันอยู่ว่า 14.50 ยูโรนี่เฉพาะ main dish หรือเปล่า มันจะถูกไปไหม สรุปมื้อนี้จ่ายไป 14.50×4= 58 ยูโร ค่าน้ำฟรีเพราะเราสั่ง tap water หรือน้ำประปา คุ้มค่ามากกก อิ่มแปล้เลยค่ะ พร้อมไปชิมแชมเปญแระ ^_^

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***