Cedric Grolet Opera – ชิมครัวซองต์และขนมร้านเชฟขนมหวานระดับโลก

 
หลังจาก Croissant Hopping บล็อกก่อนหน้านี้ บล็อกนี้หนึ่งจะมาเจาะลึกเป็นร้านๆ ไป โดยขอเริ่มร้านที่ชอบที่สุดในทริปนี้ ซึ่งก็คือ Cedric Grolet Opera นั่นเอง เป็นร้านที่หมายมั่นเป็นมือมากว่าจะต้องมา เพราะหนึ่งติดใจเมื่อครั้งรีวิวขนมเชฟครั้งแรกตอนปี 2018 ซึ่งตอนนั้นเชฟกำลังเป็นเชฟดาวรุ่งพุ่งแรงมาก ได้รางวัล World chef pastry และขนมเสมือนผลไม้จริงของเชฟกำลังโด่งดังแบบที่สุด ตอนนั้นซื้อขนมที่ Cédric Grolet @ Le Meurice ซื้อขนมมามาหลายอย่างเลยค่ะ ขนมอร่อยมากทุกอย่าง ถูกจริตหนึ่งมาก ตามไปอ่านรีวิวย้อนหลังของหนึ่งได้ที่ ที่นี่ รอบนี้อยากกินครัวซองต์และขนมตัวอื่นๆ ของเชฟด้วย ใครที่ตาม IG เชฟจะรู้ว่า เชฟมีความถนัดในการตีความขนมดั้งเดิมในแบบใหม่ เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมากและขนมสวยมากด้วย เห็นแล้วเพลิดเพลินที่สุด แต่ใดๆ สิ่งที่หนึ่งชื่นชมมากในตัวเชฟอีกสิ่งคือ เชฟบาลานซ์รสของขนมได้เก่งมาก ซึ่งเป็นพรสวรรค์ที่หาตัวจับยาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเชฟเปิดร้านในอังกฤษและ NYC ด้วยค่ะ สยายปีกไปไกลมาก แต่เชฟยังมีตำแหน่ง executive pastry chefประจำโรงแรม Le Maurice

 
Cedric Grolet Opera เป็นร้านที่มีโต๊ะให้นั่งกินในร้านโดยอยู่ชั้น 2 โดนจะเสิร์ฟอาหารง่ายๆ เช่น อาหารเช้า แซนวิช มีเครื่องดื่ม ชา กาแฟให้บริการด้วย ช่วงเช้าจะขายขนมปัง, viennoiseries รวมทั้งครัวซองต์ ส่วนขนมหวานและเพสทรีต่างๆ จะมีช่วงเที่ยงถึงบ่าย หนึ่งไม่ได้นั่งกินข้างในนะคะ เพราะหลักๆ อยากกินครัวซองต์ และต้องไปกินร้านอื่นต่อ
 
การเดินทาง : Metro M3 ลงสถานี Opera เดินไปที่ร้าน 150-350 เมตร ขึ้นกับว่าออกประตูไหน
 
 

 
ก่อนจะไปรีวิวขนม ขอพูดถึงแพคเกจจิ้งของเค้าที่จะดูไม่เหมือนใคร และดูก็รู้ว่า “แพง”
ภายใต้โลกโก้เรียบง่าย สีของแพจเกจิ้งออกแนวคลาสสิค ถุงกระดาษหูหิ้ว ด้านในเป็นกระดาษเงินแข็ง วาวๆ ดูแพง ส่วนถุงกระดาษใส่ครัวซองต์หนากว่าทุกร้าน ด้านในเคลือบวาว น่าจะกันความเยิ้มของเนยในครัวซองค์ ด้านข้างเจาะรูระบายอากาศ คือ เฉพาะแพจเกจจิ้งก็ luxury และดูแพงแล้ว (เฉพาะค่าแพคเกจจิ้งถึงหนึ่งว่าก็ 1 ยูโรไปแล้ว หรืออาจะแพงกว่า เอิ้ก) กินเสร็จ ไม่กล้าทิ้งถุงเลยค่ะ เพราะมันแพง..หนึ่งเอากลับมาด้วยค่ะทุกคน เป็นที่ระลึก อิอิ
 

 

 
เอาล่ะ มาที่ขนมกันค่ะ วันที่ไป มีขนม 4 อย่างให้เลือกคือ plain croissant, au pain chocolat, vanilla flan และ apple turnover (Chaussons aux Pommes) ใจจริงอยากกวาดมาให้หมดเพราะชอบกินทุกอย่าง แต่หนึ่งกำลัง croissant hopping อยู่ และขนมควรกินเลย ไม่ควรซื้อเก็บ เลยตัดสินใจซื้อมาแต่ 2 ตัวคือ Plain croissant และ apple turnovers มาดูกันทีละตัวค่ะ

 
Plain croissant ราคา 4 ยูโร

 
– ราคาแรงที่สุด
 
– ชั้นขนมสวยมากกกก (แม้จะเป็นการรีดด้วยเครื่องแต่ก็สวยยยย) ขนมสีน้ำตาลเข้มจัด (ชอบมากขนมสีนี้เพราะรู้เลยว่าขนมจะหอมกว่าขนมสีซีด) ตัวใหญ่นะคะ อวบๆ เต็มมือ ขนมยังอุ่นๆ อยู่เพราะไปต่อคิวซื้อตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด อิอิ
 
– หนึ่งชอบดมขนมก่อนกินค่ะ ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนกันไหม กลิ่นขนมมีผลต่อความรู้สึกอร่อยของเรามากนะคะ จริงๆ มันถูกรวมไว้ในรสชาติด้วย ความอร่อยมีทั้งกลิ่นและรสรวมกัน ครัวซองต์ของ CG หอมมากค่ะ หอมกว่าทุกเจ้าที่ทำ croissant hopping รอบนี้เลย
 
– กัดคำแรก คือ อารมณ์ heavenly bite มันว้าวมาก เปลือกกรอบแบบ delicate ทะลุไปชั้นนุ่มเหนียวกำลังดีด้านในแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม ในขณะเดียวกันกลิ่นหอมของขนมพุ่งเข้ามาในปาก ขนมไม่หวานไป ไม่เค็มไป รสดีมาก เคี้ยวแล้วทั้งรสและกลิ่นฟุ้งในปาก อยากกินต่อไปให้หมดอย่างเร็วเลยค่ะ เป็นครัวซองต์ที่ถูกจริตหนึ่งมากที่สุด และขอยกเป็นที่ 1 ในดวงใจ the best สำหรับหนึ่งเลยค่ะ มีครบทุกอย่างที่หนึ่งชอบ (คำเตือน ขนมค่อนข้างริชนะคะ กินแล้วรู้สึกว่ามีเนยในปริมาณสูง หากใครไม่ชอบอาจจะรู้สึกว่าเยอะไป หรือเลี่ยนคำหลังๆ แต่ส่วนตัวแล้วหนึ่งชอบค่ะ)

Apple turnover (Chaussons aux Pommes) น่าจะประมาณ 7 ยูโร (ขออภัยหากราคาคลาดเคลื่อนไปบ้างนะคะ หนึ่งลืมราคาขนม)

 
– Apple turnover เป็นขนมไส้แอปเปิ้ลที่ห่อด้วยแป้งพัฟเพสทรี การที่ใช้แป้งพัฟเพสทรีห่อไส้ขนมในลักษณะพับทบครึ่งเป็นที่ของชื่อ “turnover”

 
– Classic apple turnover มีขึ้นรูปคล้ายกะหรี่พัฟนะคะ แต่ไม่จับจีบ และจะมีการกรีดลวดลายบนแผ่นพัฟเพสทรีก่อนอบ ขนมจะสีเข้ม ลายสวยงาม

 
-Cedric Grolet apple turnover ไม่ได้ขึ้นรูปแบบคลาสสิคนะคะ เชฟขึ้นรูปในแบบตัวเอง หนึ่งว่าคล้ายกับคัพเค้กเตี้ยๆ ชั้นหน้าขนมสวยมากกก ละเอียดกริ้บ รูปที่หนึ่งถ่ายอาจจะมึค่อยสวยขออภัยนะคะ ถ่ายจากมือถือ (ลืมถือกล้องไปเที่ยวด้วย) ขนมยังอุ่นเบาๆ บ่งบอกว่า ขนมเพิ่งอบเช้านี้ก่อนเปิดร้าน

 
– กัดคำแรก ว้าวววววกว่าครัวซองต์อีกค่ะ ตัวแป้งพัฟเพสทรีกรอบบางหอม ชั้นของแอ้ปเปิ้ล (apple compote) นุ่ม หอมซินนามอนในจะหวะที่กำลังดี ไม่ฉุนไปหรือน้อยไป ไส้แอปเปิ้ล texture ดีมาก รสก็บาลานซ์เปรี้ยวหวานได้ดีมาก รับกับรสของพัฟเพสทรีได้แบบพอดีเหมาะเจาะ ปริมาณของไส้ขนมก็กำลังดี อร่อยมากกกก รสเปรี้ยวนิดๆ ทำให้ขนมสดชื่นและไม่เลี่ยน หนึ่งประทับใจไส้แอ้ปเปิ้ลมาก รู้ว่าเลือกพันธุ์มาทำ

จบการรีวิว เขียนแล้วอยากกินอีกค่ะ หากใครที่ชื่นชอบในผลงานของเชฟ ขอให้ลองไปชิมขนมเชฟนะคะ ทั้งสองที่ อร่อยคนละแบบ สำหรับหนึ่ง ร้านนี้เป็นร้านที่ประทับที่สุดของทริปนี้ค่ะ

ป.ล.

1.ร้านนี้นำนำให้ไปแต่เช้า เพราะครัวซองต์จะมีเฉพาะตอนเช้า ร้านเปิด 9:30 น และจะหมดอย่างรวดเร็วเพราะมีนักท่องเที่ยวมาต่อคิวรอซื้อ หนึ่งไปถึงตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด มีคนมารอคิวแล้ว

2.วิธีการขายเค้าเหมือนของแบรนด์เนมค่ะ คือไม่ได้ปล่อยให้ลูกค้ากรูเข้าไปซื้อหรือต่อคิวด้านในร้าน แต่จะให้ลูกค้ารอด้านนอก โดยจะเรียยกลูกค้าเข้าไปทีละ 2 คน เมื่อเข้าไปจะมีพนักงานมานำเสนอว่ามีขนมอะไรบ้างเพื่อให้เราเลือก เมื่อเราเลือกแล้ว พนักงานจะจัดขนมใส่ถุง แล้วนำไปให้แคชเชียร์เอง ส่วนเราก็แค่หันหลังไปจ่ายเงินกับแคชเชียร์ ก่อนนะจะหยิบถุงขนมออกมา

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***