รีวิวปาเนตโตเนเจ้าดังจากอิตาลี


รีวิวปาเนตโตเนเจ้าดังจากอิตาลี

 
ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวที่ไปเที่ยวกันเองโดยมีหนึ่งเป็นหัวหน้าทัวร์ แว้บมามิลานเพราะหลักๆ อยากกินปาเนตโตเนค่ะ ^_^ ซื้อปาเนตโตเนมาทั้งหมด 6 เจ้า (8 กล่อง กับอีก 1 ชิ้น) โดยทั้งหมดเป็น artisanal panettone คือใช้ยีสต์ธรรมชาติ (SD) และใช้เวลาในการทำ 72 ชม จริงๆ หนึ่งอยากซื้อเยอะกว่านี้เพราะทำการบ้านไว้อย่างดีแต่ถึงเวลาขาดที่ลิสท์ไว้ไป 3-4 เจ้า เพราะพอไปถึงหน้างานคิดว่าไม่สามารถเพิ่มได้อีกแล้วเพราะกระเป๋าแน่นเกินจะขนย้ายได้สะดวกและร้านขายอยู่ไกลจากจุดที่พาพี่น้องเที่ยวเลยแอบเกรงใจ คิดว่าเท่านี้ก็น่าจะพอ(แล้ว) เก็บไว้ชิมโอกาสหน้าบ้างเนอะ อิอิ

หนึ่งหาข้อมูลว่าควรซื้อเจ้าไหน ที่ไหน จาก google ที่มีให้ทุกคำตอบ แล้วเลือกร้านที่อยู่ใกล้ Duomo ในระยะที่เดินไปซื้อได้สะดวก บางเจ้าที่ไม่ได้อยู่มิลานหนึ่งซื้ออนไลน์ให้ไปส่งที่โรงแรม การรีวิวเป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ซื้อมารีวิวเพราะความชอบส่วนตัวและเพื่อการศึกษาด้วยเพราะอยากหัดทำ มาเริ่มรีวิวกันเลยค่ะ

 
1. PECK

PECK เป็น gastronomy shop คือขายอาหารทั้งที่เป็นวัตถุถิบสดหรือปรุงแล้ว และวัตถุดิบคือคัดแบบพรีเมียมและคุณภาพสูงมา มีครบทุกอย่าง พาสต้า ชีส cold cuts ไวน์ และขนมหวาน PECK มีประวัติยาวนานถึง 130 ปี มีแม้กระทั่งร้านอาหารเป็นของตัวเอง ดูไปก็คล้าย Dean & Deluca นะคะ แต่ดูพรีเมียมกว่า ปาเนตโตเนของ PECK ติดโผปาเนตโตเนที่ดีที่สุดของมิลานในหลายเวบไซต์ ที่สำคัญ ร้านอยู่ใกล้ Duomo มาก เดินไป 300 เมตรถึงแล้ว ไปถึงก็ละโมบค่ะ จัดมา 2 รสคือ รสคลาสสิคและ orange, pineapple and ginger

ขอรีวิวรสคลาสสิคเป็นหลักนะคะเพราะจริงๆแล้วทั้งสองรสลักษณะภายนอกเหมือนกันมาก ต่างกันแค่กลิ่นและรสเท่านั้น

PECK Classic panettone 1 กก 36 ยูโร ห่อสีเหลือง อ่านจากวัตถุดิบคือ ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ตามลิงค์นี้นะคะ

ลักษณะภายนอก – พิมพ์ทรงเตี้ย ขนมสีเข้มจัด
กลิ่นหอม – กลิ่นหอมของส้มค่อนข้างชัด ได้กลิ่นแม้จะยังไม่ตัด
เนื้อขนม (open/close crumb) – เนื้อขนมเป็น close crumb แทบไม่มีมีโพรงใหญ่ๆ เลย เนื้อขนมฉ่ำน้อยที่สุดในทุกแบรนด์ที่ซื้อ
ความนิ่ม – ขนมนิ่มมาก (แต่ถือว่าเนื้อแน่นที่สุดในทุกตัวที่สั่งมาชิม)
รสชาติ– สิ่งดีงามที่หนึ่งชอบมากนอกจากความนุ่มของขนมคือ ส้มเชื่อมหอมและอร่อยมาก รสคลาสสิคของเค้ามีกลิ่นของส้มอ่อนๆ ลูกเกดเม็ดใหญ่และฉ่ำ เคี้ยวโดนผลไม้คือฟินมาก แต่ส่วนตัวรู้สึกหวานโดดไปนิดนึง แอบอยากให้เพิ่มเกลือจิ้ดนึงค่ะ

 

 
เนื้อขนมของ PECK แบบชัดๆ

 

 
ส่วนรส Orange, pine apple and ginger 1 กก ราคา 38 ยูโร ขนมมีกลิ่นขิงที่ค่อนข้างชัด แต่เป็นกลิ่นขิงที่หนึ่งรู้สึกเหมือนลูกเกดดำของบ้านเรา งงไหมคะ ตัวสับปะรดเชื่อมรสไม่ชัดมาก ทุกคนในบ้านไม่มีใครชอบรสนี้เลยค่ะ แต่หนึ่ง
ว่ามันโอเคนะ แต่ถ้าให้แนะนำ กินรสคลาสสิคดีกว่าค่ะ

 
2. Loison

แบรนด์นี้มาจาก Vicenza นะคะ หนึ่งสั่งออนไลน์มาเพราะไปอ่านเจอรีวิวแล้วดีมาก สั่ง Panettone Mandarin 1 กก ราคา 31.90 ยูโร ตัวนี้มา https://shop.loison.com/en/panettone/panettone-mandarin-late-from-ciaculli-1kg-frutta-e-fiori/

ลักษณะภายนอก
– พิมพ์ทรงเตี้ย ขนมสีเข้มจัด
กลิ่นหอม – กลิ่นหอมของส้มชัดมาก กลิ่นพุ่งตั้งแต่แกะถุงขนมเลยทีเดียว
เนื้อขนม (open/close crumb) – เนื้อขนมเป็น close crumb แทบไม่มีมีโพรงใหญ่ๆ เลย เนื้อขนมฉ่ำกว่าของ PECK
ความนิ่ม – ขนมนิ่มและฉ่ำกว่าของ PECK แต่ยังถือว่าค่อนข้างแน่นเทียบกับเจ้าอื่น
รสชาติ– ขนมรสชาติเข้มข้นมากค่ะ คือหวานมาก็เค็มตาม รสชาติแบบจัดจ้าน เข้าถึงง่าย ส้มเชื่อมให้มาเยอะมากค่ะ จัดเต็มจริงๆ แต่หนึ่งรู้สึกว่าส้มเชื่อมเค้าติดขมจิ้ดนึง ที่บ้านชอบเจ้านี้มากโดยเฉพาะหลานสาว กินไปคนเดียวเกือบครึ่งกิโล

 

 
3. Marchesi 1824

ร้านเก่าแก่ของมิลาน เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1824 จนถึงปีนี้ก็ 199 ปีแล้วค่ะ จริงๆร้านมีหลายสาขาแต่หนึ่งซื้อที่ The Galleria Vittorio Emanuele II ห้างสวยติดกับ Duomo นั่นเอง ขอบอกว่าร้านสวยมากค่ะ แต่คิวก็พอประมาณ ลูกค้าแน่นร้าน ตอนไปซื้อหนึ่งรีบมาก ไม่ได้ดูขนมตัวอื่นเลย พุ่งไปรับแค่ปาเน็ตโตเนและซื้อแบบสไลซ์เป็นชิ้นมา ชิ้นละ 3 ยูโรกว่าๆ ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของร้านได้ที่นี่


ลักษณะภายนอก
– ด้านนอกสีเข้มจัดคล้ายของแบรนด์อื่น
กลิ่นหอม – กลิ่นขนมอ่อนที่สุด ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะพอขนมถูกหั่นแบ่ง กลิ่นขนมก็กระจายออกไปไม่หอมจัดเหมือนแบรนด์อื่นที่ซื้อยกกิโลมา
เนื้อขนม (open/close crumb) – เป็นแบบผสม คือมีทั้ง close และ open crumb มีรู้ใหญ่ๆสลับบ้าง ขนมสีเหลืองจัด
ความนิ่ม – นิ่มมาก แต่รู้สึกว่าแห้งกว่าทุกเจ้าที่ซื้อ
รสชาติ – โดยรวมแล้วอร่อย แต่ความที่กลิ่นขนมไม่ชัดทำให้รู้สึกว่ารสขนมธรรมดามากๆ น่าจะเป็นเพราะซื้อขนมหั่นแยกมาแล้วหนึ่งไม่ได้กินทันที รอไปกินวันรุ่งขึ้น ทำให้ขนมเนื้อแห้งลง กลิ่นหาย ความอร่อยเลยหายไปด้วย
แบรนด์นี้หากมีโอกาสกลับไปมิลานอีกจะลองซื้อชิมใหม่อีกครั้งค่ะ แอบเสียดายเหมือนกัน

 

 

4. Niko Romito

ชื่อเหมือนคนญี่ปุ่น แต่เป็นเชฟชาวอิตาลีค่ะ จริงๆแล้วเชฟเป็นเชฟทำอาหารที่มีประวัติและแนวคิดในการทำอาหารน่าสนใจมาก เป็นเชฟที่เรียนรู้การทำอาหารเอง (self-taught chef) ที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับขนาดนี้คือเก่งมากเลยค่ะ ล่าสุดร้านอาหารเชฟที่ดูไบได้ดาวมิชลินไป แม้จะเน้นทำอาหารแต่เชฟมี Lab ขนมที่มิลานและทำปาเนตโตเนขายด้วย

หนึ่งซื้อ Classic panettone 1 กก ราคา 55 ยูโร เว็บไซต์ร้าน
คลิ้กที่นี่

ลักษณะภายนอก
– ทรงสูง ขนมสีเข้ม
กลิ่นหอม – กลิ่นหอมมาก
เนื้อขนม (open/close crumb) – เนื้อขนมมีลักษณะเป็นโพรงเปิดสลับกับ close crumb แต่มีโพรงค่อนข้างเยอะ
ความนิ่ม – นิ่มจัดเลยค่ะ สไลซ์เป็นชิ้นบางๆ คือตั้งไม่ได้เลยเพราะความนิ่มจัด
รสชาติ – อร่อยค่ะ เนื้อขนมฉ่ำแต่เป็นรสอร่อยแบบจืดหน่อย เป็นปาเนตโตเนที่หวานน้อยที่สุดในทุกเจ้า และมีรสท้ายที่ต่างจากเจ้าอื่นคือมีความมันของไขมันเนยและไข่ตอนท้าย ลูกเกดและส้มเชื่อมเค้าอร่อย (อีกแล้ว) ถ้าใครชอบขนมหวานน้อยแนะนำเจ้านี้ค่ะ

 

 

 

5. Oliveri 1882

เจ้าดังจาก Vicenza อีกเจ้า หนึ่งสั่งออนไลน์ให้ไปส่งที่โรงแรม Oliveri เป็นนามสกุลของตระกูล ส่วน 1882 เป็นปีที่ก่อตั้ง ถึงตอนนี้ก็ 140 ปี เจ้าของคือรุ่นที่ 6 แล้ว เจ้านี้ดังขนาดได้รับการโหวตให้เป็น Top Italain food ปี 2023 จากนิตยสารอาหารและไวน์ Gambero Rosso ด้วยความละโมบ หนึ่งสั่งมา 3 รสเลยคือ คลาสสิค, apricot salted caramel และ chocolate หนึ่งจะรีวิวรสคลาสิคเป็นหลักนะคะ รสอื่นเสริมให้ตอนท้ายเพราะจริงๆ ต่างกันแค่รส

รสคลาสสิค น้ำหนัก 900 กรัม ราคา 75 USD (รุนแรงเอาการ) เค้าขายปาเนตโตเนทั้งปี สั้งได้ที่

https://usa.olivieri1882.com/products/panettone-classico-3kg-900-gr

ลักษณะภายนอก – ทรงเตี้ย แต่โดมขนมสูงมาก สีเข้มจัด
กลิ่นหอม – กลิ่นหอมมาก
เนื้อขนม (open/close crumb) – เนื้อขนมมีลักษณะเป็นโพรงปิดสลับกับ open crumb แต่โพรงใหญ่ไม่ได้เยอะมากนะคะ
ความนิ่ม – นิ่มจัดเลยค่ะ สไลซ์เป็นชิ้นบางๆ คือตั้งไม่ได้เลยเพราะความนิ่มจัด โชคดีที่เค้าทรงเตี้ยเลยไม่คอพับคออ่อนมากไปเวลาไสลซ์เป็นชิ้นบาง
รสชาติ – อร่อยค่ะ เนื้อขนมและรสพอดีมากสำหรับหนึ่ง ขนมเนื้อไม่แห้งหรือฉ่ำไป รสชาติบาลานซ์มาดี ส้มเชื่อมดีอีกแล้วค่ะทุกคน ชอบส้มเชื่อมเค้า หอม อร่อย ชิ้นหนา ลูกเกดก็ฉ่ำ เม็ดใหญ่ เจ้านี้หากพูดโดยรวมเป็นเจ้าที่หนึ่งชอบที่สุด ถ้าต้องกินไปเรื่อยๆจนหมดหนึ่งยกให้ตัวนี้เป็นที่สุด ข้อเสียคือแพงมากค่ะทุกคน

 

 

 
เนื้อขนมสวยมากและสีเหลืองมาก

 

สำหรับรสช็อกโกแลต หนึ่งชอบนะคะ แต่สมาชิกที่บ้านไม่ค่อยชอบกิน เนื้อขนมเดียวกันแต่ใส่ช็อกโกแลตชิพแทนผลไม้แห้ง ส่วนตัว apricot salted caramel หนึ่งรู้สึกว่าไม่ค่อยโดดเด่นมาก ถ้าให้ซื้ออีกรอบ ขอเทใจให้คลาสสิคค่ะ

 
เจ้าสุดท้าย

6. Iginio Massari

เป็นเพสทรีเชฟที่เก่งมากและเคยได้รับรางวัล Best Pastry Chef in Italy ปี 2020 มีผลงานมากมายระดับมาสเตอร์ และเป็นเชฟครูที่ เชฟ Roy Shvartzapel เจ้าของปาเนตเนเนื้องโพรงเปิด (open crumb) อันโด่งดัง เป็นเจ้าที่หนึ่งจะไม่พลาดแน่นอนค่ะ ร้านอยู่ใกล้ Duomo มากเดินไป 200 เมตรถึง (และอยู่ใกล้ PECK ด้วย) ร้านใหญ่ สวยมาก แต่คิวยาวมากกก หนึ่งแทบไม่ได้ดูขนมตัวอื่นเลยเพราะคิวยาวเหยียด โชคดีที่ปาเนตโตเนแบบกล่องมีแถวให้แยกซื้อต่างหากและไม่มีคิวเลย
ซื้อแบบน้ำหนัก 2 กก ราคา 80 ยูโร เพราะมีขนาดเดียว กล่องสวยมากค่ะ ไปเยียมชมเว็บไซต์ร้านได้
ที่นี่

ลักษณะภายนอก
– ทรงสูง สีเข้ม หน้าขนมมีน้ำตาลไอซิ่งผสมเหล้า amaretto และถั่วอัลมอนด์ (ซึ่งบางส่วนหล่นไปอยู่ขอบขนม) ขนม สีเข้มจัด
กลิ่นหอม – กลิ่นหอม (มาก)
เนื้อขนม (open/close crumb) – เนื้อขนมมีลักษณะเป็นโพรงเปิดมากกว่าทุกเจ้า เนื้อขนมนุ่มจัด ฉ่ำและเนื้อเปียกกว่าทุกเจ้าเวลาไสลซ์เป็นชิ้นบาง ขนมตั้งไม่ได้เลยค่ะเพราะนิ่มมาก ต้องวางแนวนอนเท่านั้น
รสชาติ – อร่อยค่ะ อร่อยจัด หอม หวาน ส้มเชื่อมชิ้นโตมาก หนึ่งว้าวมากเพราะส้มเชื่อมอร่อยจริงๆ เห็นเม็ดวานิลลาในเนื้อขนมชัดและเยอะกว่าทุกเจ้า คือรู้สึกเครื่องเค้าจัดเต็ม รสหวานแต่หวานแบบอร่อย สมกับเป็นมาสเตอร์จริงๆค่ะ ยอม

 

 

 

สรุปโดยรวมหลังจากกินมาทุกเจ้า

 
ปาเนตโตเนรสคลาสสิคของทุกเจ้ามีลักษณะร่วมคือ ภายนอกสีเข้ม เข้มแบบน้ำตาลเข้มมากๆ กลิ่นหอม และขนมทุกเจ้านุ่มจัด นุ่มแบบ นุ่มเหมือนเค้ก (ถึงว่า เค้าถึงเรียกว่า panettone cake) นุ่มมากนุ่มน้อยแล้วแต่เจ้า ส้มเชื่อม ดีทุกเจ้า อร่อยทุกเจ้า หอม เนื้อหนา กลิ่นและรสไม่ปลอม หนึ่งชอบมากค่ะ และเนื้อขนมเค้าจะสีเหลืองค่อนข้างจัดเพราะใช้ไข่แบบ free range เลี้ยงแบบกลางแจ้ง และใช้เนยที่มีสีเหลือง (เนยทำจากน้ำนมของวัวที่ปล่อยเลี้ยงกินหญ้า) ทำให้สีเหลืองมากน้อยแล้วแต่เจ้า แต่เหลืองกว่าเจ้าที่ไทย ในส่วนของรสชาติหนึ่งคิดว่าน่าจะแล้วแต่คนชอบเพราะต่างกันเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเจ้าที่หนึ่งชอบมากที่สุด ยกให้ Iginio Massari เพราะกินแล้วว้าว มันรู้สึกตื่นเต้น ดูมีอะไร เนื้อขนมฉ่ำและดูเปียกไปนิด แต่ไม่ติดขัดอะไรเลย หนึ่งชอบความถึงเครื่องและการบาลานซ์รสหวานให้ไม่โดดของเค้า และอีกเจ้าที่ขอชอบมากพอๆกันคือ Oliveri 1882 ชอบในความพอดี ความลงตัวในทุกอย่างทั้งเนื้อขนม กลิ่น รส ที่พอดิบพอดี กินได้เรื่อยๆ จนหมดก็ไหว

มีอีก 2-3 เจ้าที่หนึ่งอยากชิม ปีหน้าหากได้ไปอิตาลี หนึ่งจะหาโอกาสไปชิม (ให้ได้)

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

1 Comments

FUFY
Reply February 5, 2023

ทุ่มเทจริงๆ รีวิวละเอียดมากค่า ขอบคุณสำหรับ
ข้อมูลดีๆนะคะ ^^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *