Fou de Patisserie Boutique – ร้านขนมที่รวบรวมความอร่อยจากทุกเชฟดังมาไว้ในร้านเดียว

“ปารีส” นอกจากจะเป็นเมืองโรแมนติกที่ใครๆก็อยากมาเที่ยวแล้วยังเป็นสวรรค์ของนักกินด้วยนะคะ มีให้เลือกทั้งอาหารคาวทั้งขนมหวาน เรียกได้ว่า “ครบ” มีให้เลือกมากมาย เมืองนี้มีร้านขนมอยู่เกือบทุกมุมเพสทรีถนน เชฟขนมหวานหรือเพสทรีเชฟดังๆ หลายคนอยู่ที่นี่ บางคนอยู่ตามร้านอาหารดังๆ ร้านอาหารมิชลินบ้าง โรงแรมบ้าง บางคนเปิดร้านของตัวเอง บางคนร้านมีแค่สาขาเดียว บางคนอาจจะมีที่มีสาขาทั่วปารีส สำหรับใครที่เป็นแฟนขนมหวานของเชฟต่างๆแค่ไปตามล่าหาร้านขนมและชิมก็แทบจะไม่ต้องเที่ยวกันเลยทีเดียว แต่หนึ่งมีร้านเด็ดมาแนะนำค่ะ

“Fou de Patisserie Boutique” ร้านขนมไอเดียสุดเก๋ คือรวบรวมเอาขนมเด่นๆดังๆ หรือ limited edition ของแต่ละเชฟดังในปารีสมารวบรวมไว้ในร้านเดียว ร้านนี้เพิ่งเปิดตอนปี 2016 นี่เองเจ้าของไอเดียเด็ดและเจ้าของร้านนี้คือ Julie Mathieu และ Muriel Tallandier สองบรรณาธิการหนังสือ Fou De Pâtisserie นิตยสารเกี่ยวกับขนมเพสทรีระดับไฮเอนด์ที่มีสูตรขนมพร้อมเคล็ดลับจากเชฟดังๆ ว่ากันว่าร้านนี้เปิดได้เพราะอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวของบบรรณาธิการสาวทั้งสองและเชฟนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามหนึ่งต้องขอกราบขอบคุณคุณบรรณาธิการทั้งสองที่เปิดร้านนี้ขึ้นมา เพราะทำให้การล่าขนมในปารีสของหนึ่งจบง่ายๆไม่ต้องเหนื่อยมากด้วยการเดินเข้าไปในร้านนี้ร้านเดียว อิอิ หลักๆร้านนี้จะมีขนมจากเชฟ 6 ท่านคือ

Cyril Lignac กับขนม equinox อันโด่งดังของเค้า
Christophe Adam เจ้าของร้าน Éclair de Génie ร้านเอแคลร์สุดฮิต (ที่ก็มีร้านของเชฟเองอยู่ห่างไปไม่กี่บล็อก)
Philippe Conticiniเจ้าของร้าน Patisseries des Reves ที่มี Paris Brest ที่อร่อยที่สุดในฝรั่งเศส
Hugues Pougetจากร้าน Hugo & Victor
Jonathan Blotจากร้าน Acide
Olivier Haustraete จากร้าน Boulangerie Bo

นอกจากนี้ยังมีขนมอร่อยจาก Jacques Genin, Gilles Marchal และ Pierre Hermé ที่มีมาเป็นพักๆ แต่ถ้าใครเห็นชื่อเชฟแล้วมึนงง ไม่รู้จักใครสักคนก็ไม่ต้องเครียดค่ะ เดินเข้าไปในร้าน สุ่มๆสั่งขนมมาสักชิ้น อร่อยแน่นอน ^_^

Location: ร้านอยู่บนถนน Rue Montorgueil ซึ่งถือเป็น street food ที่คนปารีเชียงรู้จักกันดี ไอเดียใหญ่มากแต่ตัวร้านจริงๆเล็กมาก แต่เป็นเล็กจิ๋วแต่แจ๋วเพราะด้านในอัดแน่นไปด้วยขนมและช็อกโกแลตนานา มีโต๊ะให้นั่งกิน 2 โต๊ะหน้าร้านสีม่วงหวานมากเชียว แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อกลับบ้านกัน

การเดินทาง : ลงสถานี Châtelet – Les Halles หรือสถานี Sentier แล้วเดินมาประมาณ 300 เมตร

 

 
ด้านหน้าเป็นขนมคลาสสิคทั้งหลายทั้ง madeleine, finacier ที่หน้าตาดูไม่ธรรมดาทั่วไป เห็นแล้วอยากกินไปซะทุกอย่างเลย ^_^

 
ตู้ขนมด้านในเป็นตู้ยาวแต่เก็บภาพมาได้เท่านี้เพราะมีลูกค้าท่าอื่นยืนเลือกขนมอยู่ ขนมชื่ออะไรของเชฟคนไหนมีป้ายบอกชัดเจน
 

 

 
หลังจากยืนลังเลๆว่าจะเลือกชิ้นไหนดี (ก็มันดูน่ากินไปหมด) ในที่สุดหนึ่งก็เลือกได้ เยอะขนาดนี้ไม่ต้องตกใจนะคะ เรากินกัน 4 คนค่า ^_^
 

 
ได้ขนมมาก็หาที่นั่งกินก่อนเลยเพราะขนมไม่ควรเก็บไว้นานเพราะอาจจะเละได้ ชิมชิ้นแรกเลย Canelé หรือกานาเล่ ขนมคลาสสิคชองฝรั่งเศส ถืมถ่ายรูปมาว่าเป็นผลงานของเชฟท่านไหน ตัวครัสท์ด้านนอกสีเข้มๆหอมกรอบ แต่เป็นกรอบแบบหนึบเพราะเกิดจาก caramelization ขนมด้านในเนื้อนุ่มหนุบหนับหอมกลิ่นเหล้ารัม + วานิลา กินรวมๆกันมันจะอารมณ์หนุบหนับๆแบบมีกรอบนิดๆ เป็นรสชาติและรสสัมผัสเฉพาะตัวมาก

 

 
อีกสามชิ้นที่เหลือมาดูกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง
 

 
ตัวนี้เป็นกลูเตนฟรีชีสเค้กจากร้าน Acide Macaron โดยเชฟ Jonathan Blot เป็นชีสเค้กตัวดังของเค้าเลยค่ะ ในแต่ละฤดูเค้าจะเปลี่ยนรสไปเรื่อยๆ แต่หน้าตาภายนอกเหมือนเดิม รอบที่ชิมเป็น yuzu honey ตัวฐานเป็นซาเบล( Sablé) กรอบๆ ตัดกับความนุ่ม(มากกก)ของตัวชีสเค้กที่ทางร้านใช้ ricotta cheese รสเบาๆ สอดไส้ด้วย yuzu confit กลีบดอกไม้ที่โรยด้านบนมีกลิ่นหอมด้วยนะคะ กินด้วยกันแล้วอร่อยมาก
 

 
l’Équinoxe หรือ Equinox ของเชฟ Cyril Lignac ขนมขายดีของร้าน หน้าตาโมเดิร์นแบบมินิมอลลิสต์ ฐานเป็น praline-speculoos ครัสท์ (บิสกิต ชอกโกแลต ถั่ว) ชั้นถัดมาคือสปองจ์เค้กบางๆตามด้วยครีมคาราเมลที่หอมวานิลาด้วย ส่วนตัวสีขาวที่หุ้มขนมทั้งหมดเป็น Bourbon vanilla ganache ที่เนื้อจะแน่นกว่ามู้สแต่รสก็แน่นด้วย หอมวานิลามาก หวาน มัน กินทุกชั้นของขนมพร้อมกันในคำเดียวอร่อยมากๆ
 

 
Apple tart จาก Hugo & Victor เป็นขนมที่ดูเบสิคมากแต่หนึ่งอยากลองเพราะหนึ่งชอบกิน ฐานทาร์ตเค้าขึ้นรูปเหมือนชิ้นเค้กที่ถูกตัดแล้ว สะดวก หยิบกินง่าย (แต่ท่าทางจะทำยาก) ลำพังตัวทาร์ตเองก็อร่อยแล้วค่ะ ความบางของทาร์ตกำลังดี กรุมาสวยกริ้ก ความกรอบ ความหอมเนยมีครบ ถัดขึ้นมาเป็นอัลมอนด์ครีมก่อนจะเป็นแอ้ปเปิ้ล อร่อย
 

 

 
Croissant Ispahan จากเชฟคนดังที่คนไทยน่าจะพอคุ้นหู Pierre Hermé ขนมตัวนี้ไม่ได้มีทุกวัน ไปเจอวันที่จะบินกลับไทยแล้ว วันที่ไปดีใจมากกกกกเพราะหนึ่งอยากกินครัวซองต์ตัวนี้มาก รีบสอยมาทันที ในภาพนั่งกินที่สนามบินค่ะ อิอิ หนึ่งชอบกินครัวซองต์มากและครัวซองต์ในปารีสอร่อยทุกร้านแต่ Croissant Ispahan เป็นอะไรที่พิเศษมาก เปลือกกรอบ ด้านในนุ่มเหนียวตามแบบฉบับครัวซองต์ทั่วไปแล้วยังมีสอดไส้อัลมอนด์เพสท์รสกุหลาบและมีเจลลีรสราสพ์เบอร์รีลิ้นจี่เป็นเซอร์ไพรส์ด้านในด้วย ด้านนอกมีโรยราสพ์เบอร์รีแคนดี้และน้ำตาลรสกุหลาบด้วย หนึ่งชอบรสนี้อยู่แล้ว กินแล้วฟินมาก
 

 

 
มาชิมเอแคลร์กันบ้างนะคะ หนึ่งเลือก Lemon basil eclair ของเชฟ Carl Marletti เพราะรู้สึกว่าแปลกดีอยากลองชิม ตัวเลมอนครีมด้านในรสเปรี้ยวสดชืนดีแต่หนึ่งไม่รู้สึกว้าวมาก มีกลิ่นของเบซิลอ่อนๆ
 

 

 
สุดท้ายกับทาร์ตของ Hugo & Victor เป็น clementine tart ทาร์ตส้มที่หนึ่งซื้อไปกินที่สนามบิน แต่เปิดกล่องมา กรี้ด!….เละ 555 ตัวฐานทาร์ตอร่อยตามมาตรฐานของร้านเค้าส่วนครีมส้มจริงๆก็อร่อยนะคะ แต่หนึ่งรู้สึกว่ารสมันเพลนๆเมื่อเทียบกับขนมอื่นๆที่มีความเวอร์วังหลายชั้น หลายรส
 

 
เป็นร้านขนมที่จิ๋วแต่แจ๋วและเป็นร้านโปรดในปารีสที่หนึ่งแวะไปได้ทุกวันถ้าร้านเปิด ใครไปเที่ยวปารีสแล้วอยากกินขนมอร่อยๆ แนะนำให้ไปลองชิมดูนะคะ ไปร้านเดียวได้กินขนมอร่อยจากหลายเชฟดังเลยล่ะ ^_^
 
ที่อยู่: 45 Rue Montorgueil, 75002 Paris, France
เวลาเปิด: เปิดทุกวัน
จันทร์-ศุกร์ เปิด 11:00-20:00
เสาร์ เปิด 10:00-20:00
อาทิตย์ เปิด 10:00-18:00

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***