Cherry Blossoms in Paris
ถ้าพูดถึง”ดอกซากุระ”ปุ้บ เราคิดถึงประเทศญี่ปุ่นคิดมาทันทีเลยใช่ไหมคะ แต่ถ้าพูดถึง cherry blossom คิดถึงอะไรหรือที่ไหนบ้างคะ จริงๆแล้ว “ดอกซากุระ” ก็คือ”ดอกเชอร์รี”นั่นเอง ต้นเชอร์รีมีหลายพันธุ์ทำให้มีดอกในหลายลักษณะ ดอกซากุระคือดอกเชอร์รีพันธุ์ oriental cherry ที่นอกจากจะพบในญี่ปุ่น ยังพบได้ในเกาหลีและจีนด้วย จริงๆแล้วต้นเชอร์รีมีปลูกในหลายประเทศนอกจากจะมีที่ญี่ปุ่น จีน เกาหลีแล้วยังมีที่ยุโรป อเมริกาและแคนาดาด้วย แต่ต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นทำให้เกิดกระแสการชมดอกซากุระโด่งดังระดับโลกจริงๆ ช่วงสปริงหรือฤดูใบไม้ผลิดอกเชอร์รีทั่วโลกก็พร้อมใจกันเบ่งบาน บล็อกเอนทรีนี้หนึ่งไม่ได้จะพาชมดอกซากุระที่ญี่ปุ่น แต่จะพาไปชม cherry blossoms in Paris กันค่ะ
ปารีสเป็นเมืองที่สวยงามและน่าเที่ยวทุกฤดู แต่มาเที่ยวช่วงสปริงเมืองดูสวยสว่างและสดใสขึ้นมากๆ สวนสาธารณะต่างๆมีดอกไม้บานสะพรั่งรวมทั้งดอกเชอร์รีด้วย อากาศก็อุ่นขึ้น เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวที่สุดเลย หลังจากที่หนึ่งไปเที่ยวปารีสติดกันสองทริปห่างกันสองเดือน ขอเทคะแนนให้ช่วงสสปริงแบบรัวๆ เพราะอะไรดูภาพในบล็อกนี้แทนคำตอบได้เลย ^_^
หนึ่งไปเที่ยวช่วงปลายเดือนเมษายน (18-25 เมษายน 2016) ไปถึงดอกเชอร์รีบานสะพรั่งแล้ว ช่วงวันแรกๆที่เห็นบางต้นยังมีดอกตูมอยู่บ้าง แต่พอท้ายๆทริป ดอกเชอร์รีก็พร้อมใจกันเบ่งตามเต็มที่ full bloom กันหมด ตามสวนต่างๆยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดที่เบ่งบาน สีสันสดใสเห็นแล้วสดชื่นมากๆ เป็นช่วงที่เมืองนี้มีชีวิตชีวา cherry blossoms in Paris มีจุดไหนน่าชมหรือน่าไปเที่ยวบ้างตามมาชมกันเลยค่ะ
1. Tour Eiffel
ขึ้นมาเป็นอันดับแรกเพราะหอไอเฟลถือเป็นไอคอนและเป็นแลนด์มาร์คของปารีส หอไอเฟลมีนิคเนมน่ารักๆว่า The lady iron เธอจะดูมุ้งมิ้งขึ้นมาทันทีเมื่อมีดอกเชอร์รีบานเป็นฉากหน้าหรือฉากหลัง ต้นเชอร์รีจะกระจัดกระจายที่สวนรอบๆฐานของหอไอเฟลและ Champ de Mars สวนที่ทอดยาวไปจนถึง École Militaire ถ้ามีเวลาลองเดินหาดูนะคะ รูปนี้ถ่ายที่ถนน Avenue Gustave Eiffel ถ้ายืนหันหน้าเข้า Champ de Mars จะอยู่ตรงฐานไอเฟลด้านขวามือ อีกจุดยอดนิยมที่คนชอบไปเก็บภาพคือ Avenue Du General Ferrie แต่หนึ่งไม่ได้เดินหาถ่ายแค่รอบๆฐานหอไอเฟล อ่านเจอมาว่าดอกเชอร์รีที่จุดนี้จะบานเร็วกว่าจุดอื่นในปารีส อาจจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่หนึ่งไปเที่ยวช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายนก็ยังเห็นดอกเชอร์รีบานสะพรั่งอยู่
การเดินทาง
Champ de Mars / Tour Eiffel station – RER C
Ecole Militaire station – M8
Bir-Hakeim station – M6
Trocadéro station – M6, M9
ลงได้หลายสถานี แต่หนึ่งขอแนะนำให้ลงสถานี Trocadéro เก็บภาพหอไอเฟลสวยๆ ก่อนเดินไปชมดอกเชอร์รี
2. Notre Dame
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปารีส ไปเที่ยวช่วงสปริงมีโอกาสเห็น cherry blossoms แบบสวยๆเป็นของแถมด้วย จุดชมอยู่ที่สวนทางทิศใต้ของโบสถ์ มีต้นเชอร์รีอยู่หลายต้น มีทั้งดอกชมพูและขาว จุดนี้มีสนามเด็กเล่นเล็กๆและมีม้านั่งแบบยาวให้นั่งเล่น ชมดอกไม้ ชมเด็กฝรั่งเศสเล่นทราย สบายอารมณ์
การเดินทาง
St-Michel Notre Dame station – RER B
St-Michel Notre Dame station – RER C
Cité station – M 4
รูปปั้นของ Pope Saint John Paul II กับสวนเล็กๆที่มีดอกสีชมพูสะพรั่งด้านหลัง
ไปเดินสองรอบ ได้สองอากาศ สองสีฟ้า แต่ดอกไม้ก็ยังสวยงาม
ดอกเชอร์รีสีขาวก็มีนะ แบบกลีบซ้อน ดูบอบบางมาก
3.Rue de la Bûcherie
อยู่ใกล้แค่เดินข้ามสะพานจาก Notre Dame มาทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Seine มีจุดชมดอกเชอร์รีเล็กๆ แต่น่าสนใจและอยากแนะนำ
สวนเล็กๆหน้าร้านอาหาร จะมีต้นเชอร์รีอยู่สองสามต้นที่มองเห็นได้ตั้งแต่อยู่ฝั่ง Notre Dame
อยู่ติดกับร้านอาหารเลยคือหน้าร้านหนังสือ Shakespeare and Co.ตรงนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆ ไม่ใช่เพราะมีต้นเชอร์รีเยอะนะคะแต่เด็ดตรงตัวร้านเองเลย Shakespeare and Co.เป็นร้านหนังสือเก่าแก่ที่มีทั้งหนังสือใหม่ หนังสือมือสอง หนังสือหายากที่นักอ่านตามหา มีมุมห้องสมุดให้นักอ่านนั่งอ่านตามชอบและยังเคยเป็นฉากหนังเรื่อง Midnight in Paris และ Before Sunset ด้วย (ใครเคยดูมั่ง ^_^)แต่ที่หนึ่งชอบมากๆคือภายในร้านค่ะ! ภายในร้านดูยังมีความดั้งเดิมของตัวอาคาร เพดานไม้ ชั้นหนังสือแบบเก่าและหนังสือจำนวนมากมายมหาศาลจากพื้นจรดเพดาน ทุกมุมของร้านถูกจัดให้มีชั้นวางหนังสือ คือคนรักหนังสือเห็นคงต้องกรี้ด เป็นร้านหนังสือในปารีสที่มีหนังสือภาษาอังกฤษเยอะมากๆ หนึ่งแปลกใจมากว่าเค้าทำสต็อคหนังสือยังไง เพราะกะด้วยสายตาหนึ่งว่าน่าจะเป็นพันๆเล่ม ชั้นสองของร้านมีมุมห้องสมุดที่มีหน้าต่างเปิดเห็นดอกเชอร์รีบานและยังเห็น Notre Dame ด้วย อยากจะเรียกว่าเป็น Philosopher outlook จริงๆ ภายในร้านห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีรูปมาให้ชม มีแต่รูปภายนอกแบบนี้นะคะ ใครไปเที่ยวแถวนั้นอยากให้แวะชม หรือแวะซื้อหนังสือเค้าค่ะ ควรค่าแก่การแวะ คอนเฟิร์ม
ถัดจากร้านหนังสือ Shakespeare and Co.มีสวนเล็กๆ Square René Viviani มีต้นเชอร์รีอยู่ตามมุมสวนสองสามต้น มีม้านั่งด้วย เดินเข้าไปชมหรือนั่งเล่นได้
4.Champs-Élysées
ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ช่วงสปริงนอกจากจะมีร้านสวยๆให้ช้อปปิ้งจริงหรือเดินดูของแล้ว ตลอดริมถนนยังมี cherry blossoms ใหได้ชมด้วย ต้นเชอร์รีจะกระจัดกระจายตามสวนตลอดถนนเส้นนี้ หนึ่งเริ่มเดินตั้งแต่ช่วงสถานีรถไฟ de la Concorde จนถึงสถานี Franklin D. Roosevelt ช่วงนี้ริมถนนซ้ายขวามีสวนเล็กๆ และในสวนมีต้นเชอร์รีอยู่หลายต้น และยังได้เก็บภาพถนนชองเซลิเซส์โดยที่มีฉากหลังเป็นประตูชัยหรือ Arc De Triomphe
การเดินทาง
แนะนำลงสถานี de la Concorde (M1,M8, M12) หรือ Franklin D. Roosevelt (M1, M9)
ตั้งใจมาถ่ายภาพนี้ตอนพระอาทิตย์จะตกค่ะ
แถมจุดนี้อีกนิด ถ้าเดินจากถนนชองเซลิเซส์ไป Pont Alexander III จะผ่านหน้า Grand Palais ซึ่งตรงข้ามคือ Le Petit Palais จะมีสวนเล็กๆและมีต้นเชอร์รีด้วย หนึ่งถ่ายตอนสองทุ่มกว่าๆ แสงเริ่มจะหมดแล้ว สีดอกไม้เพี้ยนไปนิดนึง
5.Jardin des Plantes
เป็นหนึ่งใน Botanical garden หลักๆของปารีส อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Gare Austeritz สวนนี้มีต้นไม้หลากหลายชนิดและมีต้นเชอร์รีอยู่หลายต้นทั้งดอกขาวและดอกชมพู แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยคือมี “เชอร์รียักษ์” ซึ่งถือว่าเป็นต้นเชอร์รีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปารีสเลยก็ว่าได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอนะคะ เพราะหาง่ายมากๆ หนึ่งไปเมโทรสาย M5 ลงสถานี Quai de la Rapée แล้วเดินข้ามสะพานหลังสถานีจะเห็นสวนเลย เดินเข้าจากประตูด้านหน้าเข้ามาเรื่อยๆจะเห็นต้นเชอร์รีตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง
การเดินทาง
Jussieu Station- M7, M10
Quai de la Rapée Station – M5
นางเอกของสวนอยู่ตรงนี้เอง ต้นเชอร์รีใหญ่ยักษ์ ดอกกำลังเบ่งบานสะพรั่งและเนื้อหอมมากด้วย ใครๆก็ชอบดอกไม้ มีทั้งคนปารีเชียงทีมานั่งพักผ่อนหย่อนใจและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก
มุมจากใต้ต้นเชอร์รียักษ์ ด้านหน้าเป็นพิพิธภัณฑ์ Galerie de l’évolution แถมนางแบบกิติมศักดิ์ให้ด้วย เธออยู่ตรงนั้นนานมาก รอไม่ไหว เลยต้องให้เป็นนางแบบจำเป็นซะเลย อิอิ
ใกล้ๆต้นเชอร์รียักษ์มีต้น white cherry กำลังออกดอกบานสะพรั่งเช่นกัน ต้นไม่สูงมาก กิ่งแทบจะแตะพื้น ดอกเชอร์รีสีขาวต้นนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย สีขาวดูบอบบาง มีนักท่องเที่ยวยืนดมกันหลายคนเลยเพราะกลิ่นเค้าหอมๆ
รอบๆสวนมีพิพิธภัณฑ์ 4 แห่ง เกี่ยวกับธรรมชาติ (Grande Galerie de l’Évolution, Mineralogy Museum, Paleontology Museum and the Entomology Museum ใครที่สนใจสามารถเข้าชมได้นะคะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศส)
6. Parc de Sceaux สถานที่สุดท้ายที่อยากนำเสนอมากๆ เพราะเป็นจุดดอกเชอร์รีที่ใหญ่ที่สุดในเขตปารีส
ตัว Parc de Sceaux อยู่โซน 3 แต่อยู่ใกล้ central city เดินทางสะดวก และมี cherry blossoms ให้ชมเป็นสวนเลย สามารถนั่งปิคนิก หรือไปนอนเล่น นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้ เนื่องจากตัวสวนมีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะ หนึ่งขอแยกรีวิวอย่างละเอียด ที่นี่
ปารีสช่วงดอกไม้บาน สวยงามมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูอื่นเลย ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าสามารถชมดอกเชอร์รีได้ที่ไหนบ้างในปารีสแชร์มาได้เลยนะคะ จะได้เก็บเป็นข้อมูล ถ้ามีโอกาสจะตามไปเก็บภาพบ้าง เพราะยังอยากกลับไปเที่ยวเมืองนี้อีก ^_^
ดอกเชอร์รีที่ปารีสจะบานช่วงไหน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปี อาจจะบานช้าหรือเร็ว แต่หนึ่งแนะนำให้ไปสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนเมษายน โอกาสจะเห็นดอกเชอร์รีตามจุดต่าง บานสะพรั่งมีสูง ดอกเชอร์รีที่ Parc du Sceaux จะถือว่าบานช้ากว่าจุดอื่น คือจะบานเต็มที่ช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนเมษายน |
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
July 1, 2016ตามมาชมด้วยคนจ้า ^_^