cherry blossoms ที่ Parc de Sceaux
หลังจากบล็อกเอนทรีที่แล้วหนึ่งพาชม cherry blossoms ตามจุดต่างๆ(ที่หนึ่งไปเที่ยวมา) ใน central Paris บล็อกเอ็นทรีนี้จะพาไปชม cherry blossoms ที่ Parc de Sceaux ค่ะ ขอบอกว่าภูมิใจนำเสนอมากจนต้องแยกมาเขียนอีกเอ็นทรีหนึ่งเลยเพราะ Parc de Sceaux เป็นจุดชมดอกเชอร์รีที่ใหญ่ที่สุดในเขตปารีส อยู่ไม่ไกลจาก central city เดินทางง่าย และไม่ต้องจ่ายค่าเข้าชมด้วย มันดีจริงๆนะ อยากแนะนำให้มา จะมาแบบครึ่งวัน เต็มวัน มาปิคนิคใต้ต้นเชอร์รี มานอนเล่น มาออกกำลังกาย แล้วแต่ชอบนะคะ แต่แนะนำว่ามีเวลาให้ที่นี่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงรวมการเดินทางด้วยจะดีที่สุดค่ะ
Parc de Sceaux เป็นสวนในเมือง Sceaux อยู่ใน Zone 3 ห่างจาก central Paris แค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ตัวสวนขนาดใหญ่ ออกแบบโดย Andre Le Notre landscape architect ชาวฝรั่งเศสที่เป็นคนออกแบบสวนสวยๆ Versailles, Tuileries Garden และ Fontainebleau ภายในสวนมีสวนสไล์ฝรั่งเศสขนาดย่อมๆ หลายจุด มีสวนเชอร์รีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีชมพู นอกจากนี้ยังมี Chateau de Sceaux (ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Ile de France), grand canal และ cascade fountains ช่วงสปริงดอกเชอร์รีบานสวยงามมาก ที่นี่มีเทศกาล hanami ด้วยนะคะ โดยจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนเมษายน ใครสนใจรายละเอียด คลิกทีนี่
การเดินทาง
RER B สายที่จะไป Robinson, Antony, Massy-Palaiseau หรือ Saint-Remy Ies-Chevreuse
จากรูป RER B จะมีขาแยกออกเป็นสองขา สามารถลงสถานี Sceaux, Parc de Sceaux หรือ La Croix de Berny ก็ได้ แต่ขอแนะนำให้ลงสถานี La Croix de Berny เพราะลองกูเกิลดูแล้วระยะทางเดินใกล้สุดแต่ต้องขึ้นรถไฟขบวนที่จะไป Antony, Massy-Palaiseau หรือ Saint-Remy Ies-Chevreuse นะคะ ไม่ใช่ Robinson
เมื่อถึงสถานี La Croix de Berny พออกจากรถไฟ อย่าเพิ่งออกจากสถานี มองหาสะพานข้ามไปชานชาลาอีกฝั่งของสถานี เดินข้ามไปแล้วออกจากสถานีฝั่งนั้น จะมองเห็นสวนอยู่ทางขวามือ เดินตามถนนไปเลยค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที
สวนเปิดทุกวันตั้งแต่ 7:00 – 21:30
มีแผนที่มาให้ดูก่อนนะคะ เดินจาก สถานี RER มาถึงประตูสวน หนึ่งแนะนำให้เดินไปทางซ้ายมือ (สวนเชอร์รีจะอยู่ประมาณลูกศรสีแดง) เลียบคลอง(grand canal)ด้านนี้ไปจะเพราะสวนเชอร์รีอยู่ฝั่งนี้ ตอนหนึ่งไป ยังไม่รู้ว่าสวนอยู่ตรงไหน ตัดสินใจเดินไปทางขวาซึ่งขอบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดจริงๆ เพราะต้องเดินเลาะริมคลองขนาดใหญ่ไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ กว่าจะวกกลับมาฝั่งซ้ายได้เดินไปหลายกิโลเมตรเลยเพราะระหว่างทางไม่มีจุดข้ามได้
มุมจากหน้าประตูสวนเห็น grand canal อยู่ด้านหน้า ถ้าอยากถึงเร็ว เดินไปที่คลองแล้วเลียบไปทางซ้ายนะคะ แต่…หนึ่งไปทางขวา เลยต้องเดินชมวิวไปเรื่อยๆเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร โชคดีที่อากาศกำลังดี ไม่หนาวหรือร้อน เดินรับลมชมน้ำ ชมสวนไปเรื่อยๆ (แม้ในใจจะกรีดร้อง)
เดินมาถึงตรงนี้ถึงได้เห็นว่า เชอร์รีอยู่ฝั่งตรงข้ามจ้า…แต่สายไปเสียแล้ว T_T
ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆละกันเนอะ 😉
จุดนี้คือ The Cascades เป็นทางน้ำไหลแบบขั้นบันไดที่ไหลลง grand canal แต่ตอนที่ไปเค้าไม่เปิดน้ำ
ภายในสวนมีรูปปั้นอยู่หลายจุดให้ได้ชื่นชมงานศิลปะท่ามกลางธรรมชาติไปด้วย
หลังจากเดินอ้อมไปหลายกิโล ในที่สุดเราก็เดินมาถึงสวนเชอร์รีที่กำลังออกดอกสวยงาม กรี้ดดด
ไม่ได้นับเลย น่าจะมีหลายสิบต้นอยู่ ดูจากลำต้นแล้วแต่ละต้นอายุไม่ใช่น้อยๆ สวนเชอร์รีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็ก กำลังดีเลยค่ะ
ดอกเชอร์รีเป็นสีชมพูกลีบซ้อนทั้งหมด กำลัง full bloom แต่ยังเห็นมีดอกตูมอยู่บ้างเล็กน้อย
หนึ่งไปถึงประมาณ 9 โมงกว่าๆ ของวันธรรมดา อากาศดี มีคนไปวิ่งออกกำลังกายวิ่งรอบสวนเชอร์รี พอสายๆเริ่มมีคนมานั่งพักผ่อนหย่อนใจใต้ต้นเชอร์รี มาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นครอบครัวก็มี มีคนจีนมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย โล้งเล้งเบาๆ
หลังจากชมดอกเชอร์รีจนพอใจได้เวลาไปสำรวจจุดอื่นๆบ้าง จากสวนเชอร์รีเดินขึ้นบันไดไปจะมีจุดชมวิวมุมนี้เห็น grand canal ที่ทอดยาวไปทางด้านประตูทางเข้าสวนอยู่สุดตาพู้นๆ
ส่วนนี้มีชาโตว์ตั้งเด่นอยู่ Chateau de Sceaux ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Ile de France สามารถเข้าชมได้ ค่าเข้าชม 3 ยูโร แต่หนึ่งไม่ได้เข้าไปค่ะ
สวนหน้าชาโตว์ที่สองข้างเท่ากันและหน้าตาเหมือนกันตามแบบสวนสไตล์ฝรั่งเศส
สนามหญ้าใหญ่หน้าตาเหมือนสนามฟุตบอลที่สามารถเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ หรือนั่งปิคนิคก็ได้ หนึ่งไม่ได้เดินไปสำรวจปลายด้านนู้นนะคะ เพราะแค่นี้ก็เดินไปร่วม 8 กิโมเมตรแล้ว บอกตรงๆว่าเหนื่อยค่ะ อิอิ
ต้นไม้เขียวสดชื่นระหว่างทางเดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังของชาโตว์
ได้เวลากลับแล้ว ขากลับแวะไปเก็บภาพ cherry blossoms อีกรอบด้วยความประทับใจ <3
เป็นสถานที่แนะนำสำหรับที่ใครอยากดู Cherry blossoms ในเขตปารีสเพราะไม่ไกล เดินทางง่าย และสวยค่ะ คอนเฟิร์ม ^_^
Tips * ดอกเชอร์รีที่ Parc du Sceaux จะถือว่าบานช้ากว่าจุดอื่น คือจะบานเต็มที่ช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนเมษายน * มีเวลาให้ที่นี่อย่างน้อยสามชั่วโมงนะคะ แต่แนะนำให้มาครึ่งวันเป็นอย่างน้อย * ไปวันธรรมดาช่วงเช้าดีกว่าไปช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อเลี่ยงมหาชนที่แม้จะไม่มากเหมือนที่ญี่ปุ่น แต่ได้ชมดอกไม้โดยที่มีคนไม่เยอะมากก็ปลอดโปร่งดีนะ * เตรียมอาหารเที่ยงไปนั่งปิคนิคใต้ต้นเชอร์รี รับรอง |
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
July 2, 2016เดินไปทั้งวันแค่ 22km 3 หมื่นกว่าก้าว เบาๆ