Tromso
หลังจากวางแผนและเตรียมตัวสำหรับ road trip กันไปแล้ว ได้เวลาเที่ยวกันแล้วค่ะ ^_^ บล็อกเอนทรีนี้จพาไปเที่ยวตอนเหนือของประเทศก่อนเลยค่ะ Tromso-Lofoten สองสถานาที่นี้อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และอยู่เหนือเส้น Arctic Circle ทำให้เกิดปราฏการณ์ธรรมชาติคือ midnight sun หรือพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อนและ polar night หรือกลางคืนยาววมากกว่า 24 ชั่วโมงในฤดูหนาว เรามาฤดูร้อนค่ะ แน่นอนว่าได้สัมผัสพระอาทิตย์เที่ยงคืนแน่นนอน แต่เราชอบกันแค่ไหนคอยติดตามนะคะ ^_^
สำหรับ Tromso หรือที่คนนอรีวีเจี้ยนเรียก “ทรุมโซ” เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ได้ชื่อว่าเป็น “The capital of the Arctic” ว่าแต่เรามาทำอะไรกันที่เมืองนี้? จะเรียกได้ว่ามา “แวะเที่ยว” ก็ไม่ผิดนักเพราะเราตั้งใจเที่ยวเมืองนี้แค่ครึ่งวันก่อนจะขับรถไป Lofoten ต่อ เราบินจากออสโลมาใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง สนามบินที่ทรุมโซเล็กๆน่ารักมากค่ะ มีไวไฟฟรีด้วย รับรถเช่าเสร็จเราเอ๋อไปนิดหน่อยเพราะรู้สึกว่ารถที่ได้เล็กกว่าที่คิดไว้ หลังจากใช้ความพยายามบรรจุกระเป๋า 5 ใบที่ท้ายรถ(ที่ดูเหมือนจะแคบ) แต่สุดท้ายก็ทำได้! ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเรจอยู่ที่นั่นจริงๆ ^_^ รถพร้อม คนพร้อม GPS พร้อม เที่ยวกันได้เล้ยยยย แต่เดี๋ยวก่อนนะ รถมันวิ่งเลนขวาใช่ไหม ช่วยกันเตือนคนขับด้วยนะ ห้ามเผลอเด็ดขาด ปล รถเกียรืกระปุกด้วยนะขอบอก หนึ่งขับมือแรกแต่บอกเลยว่า งงมาก โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนเกียร์ คือรถก็ส่ายที อิอิ
เที่ยวกันค่ะ เมืองทรุมโซเที่ยวไม่ยาก(จริงๆเที่ยวง่ายทุกเมือง) สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆกันแต่เรามาเมืองนี้ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ร้านรวงส่วนใหญ่ปิด เมืองดูเงียบๆเหงาๆหน่อย โชคดีว่าจุดที่เราไปเที่ยวยังเปิดให้บริการ
ทรุมโซเป็นเมืองที่เสียค่าจอดรถบางจุดโดยจ่ายที่เครื่องอัตโนมัติ
พุ่งมาที่นี่ก่อนเลย The Arctic Cathedral ถือเป็น Landmark ของเมืองเลยก็ว่าได้ ถูกออกแบบสไตล์โมเดิร์นโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก landscape ของนอร์เวย์ทางตอนเหนือ ทำให้โบสถ์มีความเฉพาะ
ได้แต่มุมด้านข้างเพราะมุมตรงย้อนแสงค่ะ จุดที่โบสถ์ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ สามารถชมวิวเมืองจากจุดนี้ได้
ไปต่อไปที่ Fjellheisen Cable Car เลยโบสถ์ไปนิดหน่อย เป็นจุดชมวิวเมืองบนภูเขา Storsteinen Mountain ที่สูง 1,380 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลทำให้เห็นวิวเมืองแบบพานอรามา สวยงามตระการตา กระเช้าเปิดให้บริการตลอดปี ไม่หยุดวันอาทิตย์และช่วงหน้าร้อนเปิดบริการถึงตี 1 เพื่อให้นักท่องเที่ยวชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์เที่ยงคืน
ขับรถแป้บเดียวถึงที่หมาย จ่ายเงินค่าที่จอดรถที่เครื่องอัตโนมัติด้านหน้า หลังจากยืนสังเกตการณ์อยู่นานประกอบกับถามคนก่อนหน้าได้ความว่า ค่าจอดรถชั่วโมงละ 25 NOK ใช้บัตรเครดิตรูด คือเราต้องกะเองว่าจะอยู่กี่ชั่วโมงก็รูดบัตรไปแล้วเครื่องจะให้ ticket มาเอาไปแปะไว้หน้ารถ ถ้าเราอยู่ไม่ถึงที่รูดไว้ก็มารูดคืนเงินได้ จัดไปตามนั้นค่ะ
ลานจอดรถและจุดซื้อตั๋วและขึ้นกระเช้า
ค่าขึ้น cable car 150 NOK ไปกลับ + ภาษีอีก 8% รอคิวนิดหน่อยไม่นานมาก จุดที่ให้รอมี free WIFI ใช้พลางๆขณะรอ
เราได้คิวแล้วววว ความสูงไม่มากเท่าไหร่ กำลังดีหนึ่งไม่กลัว อิอิ ชมเมืองสวยๆ
ขึ้นมาด้านบนมีคาเฟขายขนม กาแฟ ไอติม เบาๆ และจุดชมวิว แต่เราสามารถเดินออกมาชมวิวภูเขาได้ตามสะดวก
ขึ้นมาข้างบนมีนักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ละคนชิลกันมากกกและวิวก็สวยมากเช่นกัน
สุดหล่อประจำทริป ^_^
หลังจากชิลกันบนเขาแล้วก็ถึงเวลาไปสำรวจเมืองกัน ก่อนเที่ยวแวะกินพิซซ่าเติมพลังกันก่อน พอท้องอิ่มจะเริ่มเดินเที่ยวฝนก็เทลงอีก เสียใจเบาๆ T_T
จตุรัสในเมือง ดูเมฆสิค่ะ ฝนกำลังมาาาาาา
ดอกไม้แถวจตุรัส สีสดดอกโตมากกก ตอนแรกคิดว่าเป็นดอกไม้ปลอม พอเดินไปดูใกล้ๆ อุ้ย ของจริงนี่นา สวยเกินจริง
โซนท่าเรืออันเงียบสงบในวันอาทิตย์ จริงแถวนี้มีพิพธภัณฑ์หลายแห่ง
ปิดท้ายด้วยภาพสาวสวยที่สุดในทริปค่ะ 😉 จากเมืองนี้ตอนสี่โมงเย็น ขับรถมุ่งหน้าไปเที่ยว Lofoten สนุกแค่ไหน ติดตามตอนต่อไปค่า ^_^
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
May 27, 2016ทรุมโซๆๆๆ ^_^