Bergen & Flam


หลังจากเที่ยวธรรมชาติสุดสวยที่ Lofotenไปแล้วมาเที่ยวบรรยากาสเมืองๆกันบ้างนะคะ หนึ่งขอรวบ 2 เมืองคือ Bergen & Flam เลย โดยส่วนตัวชอบเมือง Bergen มากๆแต่ไม่รู้ว่าเมืองนี้ชอบเราหรือเปล่าเพราะเธอต้อนรับเราด้วยสายฝน T_T นี่ยังไม่นับการที่เรามาถึงเมืองนี้โดยที่กระเป๋าเดินทางตามมาไม่ทัน! เหตุเกิดจากการที่เรากระหืดกระหอบไปเช็คอินที่ทรุมโซอย่างเฉียดฉิว จริงๆคิดว่าจะตกเครื่องแล้วด้วยซ้ำแต่สุดท้ายก็ขึ้นเครื่องมาทัน นึกว่าจะรอดแล้วปรากฏว่า…กระเป๋าไปอยู่ที่ไหนไม่รู้แต่ไม่ใช่ Bergen! มาถึงแต่ตัวและหัวใจจริงๆแทนที่จะได้ไปเดินเที่ยวเก๋ๆในตัวเมืองเร็วๆ ต้องมาวุ่นวายตามหากระเป๋าอยู่เกือบชั่วโมงแต่สุดท้ายเราต้องไปเช็คอินที่โรงแรมโดยไร้กระเป๋า จนท ของสายการบินรับปากว่าจะส่งกระเป๋าตามไปนะ..แต่ไม่รู้วันนี้จะทันไหม…ร้องไห้หนักมากค่ะ T_T จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงโดยไม่มีกระเป๋าคะ เสื้อผ้า หน้าผม (นมปลอม) อยู่ในนั้นหมด คู่หูหนึ่งเอากล้องไว้ในกระเป๋าด้วยค่า ทำอะไรไม่ได้ค่ะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างน้อยยังมีกระเป๋าเงินอยู่กับตัว การแก้ปัญหาของแต่ละคนก็ต่างกันไปนะคะ เราอยู่กันอย่างไรโดยไร้กระเป๋าให้ท่านผู้อ่านจินตนาการตามสะดวกเลยนะคะ 5 คน 5 แบบ บอกเลย ^_^ สรุปเราได้กระเป๋าเดินทางตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้นก่อนออกเดินทางไป Flam ข้าวของไม่เสียอะไร โอเคเที่ยวต่อได้ 😉

ถึงกระนั้นหนึ่งก็ชอบเมืองนี้มากๆ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดในทุกเมืองที่ไปเที่ยวมาในนอร์เวย์และดูเหมือนจะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดด้วย มีทั้งความเก่าความใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัวและมีนักท่องเที่ยวหนาตากว่าทุกเมืองด้วยบ่งบอกความฮอตฮิตของเมืองนี้นะคะ

เราพักที่โรงแรม Scandic Byparken อยู่ในตัวเมืองเดินทางสะดวกมากๆ นอนสบาย และอาหารเช้าจัดหนักมาก เป็นโรงแรมที่เราทุกคนโหวตให้ว่าดีที่สุดในทริป จากโรงแรมเดินไปที่ท่าเรือและ fish market ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของเมืองใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีระหว่างทางมีร้านช้อปปิ้งมากมายหลายร้านแต่ดูได้อย่างเดียว ซื้อไม่ไหวเพราะแพงมากกกก แต่เพื่อนร่วมทริปไปช้อปเครื่องชงกาแฟ Nespresso เธอว่าถูกกว่าที่เมืองไทยแถมได้ tax refund ด้วย

ที่พักเรา จริงๆตามแผนคือเราจะได้เช็คอินโรงแรมตอนสองทุ่มแล้วเดินเที่ยวเพราะพระอาทิตย์ตกช้ามาก แต่พอวุ่นวายเรื่องกระเป๋าทำให้ล่าช้ากว่าจะถึงโรงแรมก็ปาไปสามทุ่มกว่าๆ เราเช็คอินเสร็จรีบพุ่งไปหาอะไรกินกันก่อนเลยเพราะหิวมาก ร้านอาหารละแวกนั้นปิด 5 ทุ่ม ร้านอาหารที่เราไปกินคืนนี้อร่อยมากกกก ทำให้วันแย่ๆของเราดีขึ้นมาทันที เรากินอะไรเดี๋ยวหนึ่งรีวิวเรื่องกินแยกต่างหากนะคะ
 
 

 
 
มีเวลาเที่ยว Bergen (หรือแบเก้นแบบที่นอวีเจี้ยนออกเสียง)แค่ครึ่งวันเช้าเพราะเราจะนั่งรถไฟไปเมือง Flam (ฟลัม) ตอนบ่าย ถามว่าเวลาแค่นี้พอไหม ตอบเลยว่าไม่พอ แอบเสียดายอยากอยู่ให้นานกว่านี้แต่แผนเราวางไว้แล้ว ที่พักที่ฟลัมจองไว้แล้วเลยต้องรันตามแผนค่ะ

เดินเที่ยว Bergen วันฝนพรำ ฝนตกๆหยุดๆตลอดๆ ต้องกางร่มเดินเที่ยวเลยแต่เมืองนี้ก็ยังมีเสน่ห์มากมาย เดินไป Harbor & fish market จุดท่องเที่ยวสุดฮิตของเมือง ระหว่างทางชมเมืองไปเรื่อยๆ เป็นเมืองที่น่ารักจริงๆ
 
 

 
 
ถึงแล้วค่ะแถบท่าเรือ มี Bryggen อันโด่งดังที่อยู่ใน list มรดกโลกของ UNESCO ถือเป็น bryggen ที่สวยงามที่สุดเลยค่ะ ปกติ bryggen มีอยู่ทุกเมืองแต่ของที่นี่สวยที่สุดเลยภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก ได้ชื่นชมแค่แว้บๆเพราะกางร่มอยู่ ฝนตกกกก T_T
 
 

 
 
ใกล้ๆ bryggen เป็น fish market หนึ่งชอบมากค่ะปกติชอบเดินตลาดอยู่แล้วด้วย ขนาดตลาดไม่ใหญ่มากแต่ดูน่ากินและดูครึกครื้นสมเป็นตลาด แม่ค้า พ่อค้า ขายของกันเก่งมากๆ เพิ่งเคยเห็นฝรั่งหัวทองขายของเก่งขนาดนี้ ของขึ้นชื่อเค้าก็อาหารทะเลทั้งหลาย คาเวียร์ แซลมอน เนื้อปลาวาฬ King crabs แบบที่เห็นที่ญีปุ่นก็มีด้วยนะ
 
 

 
 
อาหารทะเลเค้าสดจริงๆค่ะ อยากแนะนำให้กิน King crab คืออร่อยมากกก อร่อยกว่าที่ญี่ปุ่น บอกเลย หอยเชลล์ก็หวานอร่อยยย นอกจากอาหารทะเลผลไม้สดพวกเบอร์รี่ก็อร่อยยยย สู้กับสตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นได้สบายเลยและราคาไม่แรงด้วย
 
 

 
 
จาก Bergen เราไปเที่ยว Flam (ฟลัม) เดิมทีเมืองนี้ไม่อยู่ในแผนเพราะโดยส่วนตัวไม่ชอบการเที่ยวโดยการที่ตัวนั่งอยู่บนรถไฟ แต่หลังจากปรับแผนไป มา เกิดวันว่างขึ้นเลยใส่เมืองนี้เข้ามาทีหลังเลยกลายเป็นเมืองที่เตรียมตัวไม่ดีนัก ซื้อตั๋วรถไฟได้แพงเพราะซื้อที่สถานีรถไฟเลย แต่ถ้าใครจะไปแนะนำให้ซื้อตั๋วรถไฟผ่าน norway in a nutshell เพราะจะได้ราคาถูกกว่าแถมมีล่องเรือเสร็จสรรพ

เราไปค้างที่ Flam โดยไม่ได้ล่องเรือ โดยนั่งรถไฟจาก Bergen ไปต่อรถไฟที่ Myrdral (เมียดรัล) ใช้เวลาประมาณ 2 ชมครึ่ง ความจริงไม่ได้เปลี่ยนรถไฟหรอกค่ะนั่งขบวนเดิมนั่นแหละแต่ตั๋วบอก transfer งงกันไปพักนึงต้องถามพนักงานเพื่อยืนยัน จาก Myrdral ไป Flam ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

Flam railway ว่ากันว่าเป็นทางรถไฟสายที่สวยที่สุดในโลกและเป็นสายที่ชันมากที่สุดแห่งหนึ่ง ระยะทางไม่ไกลมากแค่ 20.2 กม เท่านั้นใช้เวลาสร้างนานกว่า 20 ปี รถไฟขบวนนี้จะวิ่งช้าและจอดให้นั่งท่องเที่ยวลงไปชมวิวบางจุด เราไม่ค่อยได้ลงไปเพราะฝนตกค่ะถ่ายรูปบนรถไฟมาก็เบลอ เง้อ
 
 

 
 
ส่วนตัวแล้วรู้สึกเฉยๆกับทางรถไฟสายนี้ (แอบลำเอียง)บวกกับค่าเดินทางที่หนึ่งคิดว่าราคาสูงไป แต่ถ้าให้แนะนำคือแนะนำให้ไป-กลับโดยไม่ต้องค้างคืนเหมือนเรา Flam เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักแต่ถ้าไม่ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งก็ไม่คุ้มถ้าจะค้างคืน…แต่เราค้างค่ะ 555

ที่พักเราที่ฟลัม ดีงามทุกอย่างเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่ครบและน่าอยู่มาก เสียอย่างเดียวไกลมากกก ต้องเดิน 20 นาทีจากสถานีรถแถมเราต้องเดินไปที่พักท่ามกลางสายฝน T_T
 
 


 
 
วันรุ่งขึ้นเรานั่งรถไฟกลับไป Bergen มีเวลาเดินเล่นที่ Bergenประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะบินไป Alesund ทริปนี้บินแหลกจริงๆ;) ลึกๆอยากกลับมาเที่ยว Bergen อีกเพราะรู้สึกเหมือนยังเที่ยวไม่เสร็จ ยังไม่ได้ขึ้นไปชมวิวบนมุมสูงเลย คิดว่าถ้ามีโอกาสและมีทรัพย์จะกลับมาแน่นอนค่ะ ^_^
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ
 
 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

กินอะไรอร่อยที่ Norway
August 31, 2015
Alesund-Geiranger
August 31, 2015
Hamnoy
Lofoten III
August 23, 2015
Reine, Lofoten
Lofoten II
August 22, 2015
eggum, norway
Lofoten I
August 14, 2015
Tromso
Tromso
August 14, 2015
Norway as I see it
July 31, 2015
Road trip Norway
Road trip Norway
July 29, 2015
แผนเที่ยว Norway
แผนเที่ยว Norway 2015
July 29, 2015

1 Comments

FUFY
Reply May 31, 2016

ต่อคิวรอไปอีกรอบนะ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *