Lofoten II


มาเที่ยว Lofoten กันต่อนะคะ หลังจากเที่ยว Lofoten Iตอนสองหนึ่งจะพาเที่ยวที่ไหนบ้าง อารัมภบทก่อนนิดนึงว่า Lofoten เป็นหมู่เกาะที่ทำอาชีพการประมงมาช้านานและปัจจุบันยังทำอยู่ ในระยะหลังๆนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาที่นี่มากขึ้นทุกปี มาเที่ยวอะไรกัน มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างที่นี่ ตอบได้เลยว่ามากมายและเหมาะมากสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ภูเขา ทะเล ตกปลา hiking พายเรือคายัค ดูนก และมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เมืองแต่เมืองมีขนาดเล็กๆ สงบและมีเสน่ห์ของตัวเอง หนึ่งและเพื่อนๆวางแผนมาชมความงามทางธรรมชาติของที่นี่และมา “hiking” หรือปีนเขาค่ะ ถือเป็นโปรแกรมไฮไลท์ของทริปเลยล่ะ บอกไว้ก่อนว่าสมาชิกเราปกติเที่ยวกันชิลมาก ปีนเขาเนี่ยไม่ค่อยเลย ร่างกายก็ไม่ได้ฟิตปั๋งอะไรสภาพป้าๆลุงๆตามยถากรรม อิอิ แต่มาที่นี่เราจะมาปีนเขากันค่ะ เพราะคนวางแผนทริป(หนึ่งเอง)จัดมาแบบนี้ 😛

เราพักที่รอยต่อระหว่าง Hamnoy กับ Reine วันที่สองอากาศไม่ต่างจากวันแรกเลยคือขมุกขมัว เมฆลอยเต็มฟ้าและแน่นอนพอไม่มีแสงอาทิตย์อากาศก็เย็นนนราวกับเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี วันนี้จะเป็น Hiking day ขึ้นเขา Reinebringen ตอนเช้าแต่พออากาศไม่ดีเลื่อนไปช่วงบ่ายแทนละกัน ช่วงนี้ไปซ้อมปีนเขาอีกลูกแทนเบาๆ สรุปว่าวันนี้เราจะปีนเขากันสองลูกนะจ้ะ….จัดไป เราไม่ได้มาที่นี่กันบ่อยๆ

เขาลูกแรกที่เราจะไปปีนอยู่ที่เมือง Ballstad ต้องขับรถจากที่พักไปประมาณ 1 ชั่วโมง ไปถึงเมืองแบบงงๆ เมืองเล็กก็จริงแต่ไม่รู้ว่าเขาที่ว่ามันอยู่ตรงไหน ต้องไปแวะซุปเปอร์มาเก็ตถามทางและช้อปปิ้งไปในตัว ในที่สุดเราก็เจอทางขึ้นเขาค่ะ (ถามทางมาเรื่อยๆ) ภูเขาลูกนี้คือ Ballstadheia ความสูงไม่มาก เดินไม่ยากเพราะเดินอ้อมตามไหล่เขาไป แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ อากาศเย็นๆนี่ต้องถอดทีละชิ้นเลยทีเดียว
 

 
เมืองที่เห็นข้างล่างคือ Ballstad เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่อายุกว่าหนึ่งพันปีแล้ว
 
ขึ้นมาจนถึงจุดชมวิวแล้ว จริงๆสามารถเดินขึ้นไปได้อีกแต่หมอกเมฆเยอะมาก (ไหนว่าแดดจะออกไง เที่ยงแล้วนะ T_T)
 

 
ลงกันดีกว่า ใช้เวลาขึ้นและลงเขาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถือว่าไม่เหนื่อยมากนะึะ ซ้อมๆก่อนไปเจอของจริง 😉 กลับไปขึ้นเขาอีกลูกที่ Reine ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ฟ้าเหมือนกำลังจะเปิด วี้ดวิ้ววว ลุงๆลงไปกันแล้ว แต่ป้ายังอยู่ข้างบน ฮ่าๆ
 

 
ขับรถกลับไป Reine ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง ฟ้าค่อยเริ่มเปิดจริงแต่ไม่ใช่ตอนเที่ยงค่ะ มันคือบ่ายสาม! เอาเถอะแค่นี้ก็ดีใจมากมายแล้ว

กลับมาที่ Reine ค่ะในที่สุดฟ้าก็เปิด เมฆค่อยๆลดลงไปเรื่อย กรี้ดดดด ดีใจมากกกกที่สุด ได้เวลาไปปีน Reinebringen กัน!

Reinebringen เป็นภูเขาในเขตเมือง Reine (เรนเน) เป็นภูเขาสูง 448 เมตรจากระดับน้ำทะเลที่เป็นจุดสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวมาปีนกันเพราะอยู่ใกล้ เดินทางสะดวกและวิวที่สวยมากกกกก
ทางขึ้นเขาไม่ง่ายนะคะ คุณฝรั่งที่เคยมาปีนแล้วลงบล็อกไว้กล่าวว่า ความยากอยู่ปานกลางถึงยาก ส่วนรูปหล่อที่ information center บอกว่ามันเป็นทางที่อันตราย โปรดระวังและดูแลตัวเองด้วย คุณต้องมีรองเท้าที่ดีนะถึงจะขึ้นไปได้ อย่างไรก็แล้วแต่ เราเตรียมใจมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว ไปปีนเขากันเลยค่ะ

แต่….

ก่อนถึงจุดปีนเขาแวะชมวิวนิดนึงนะ จุดชมวิวเมือง Reine (อยู่ห่างจากที่พักเราไม่ถึง 10 นาทีขับรถ) และอยู่ติดถนนหลักเลยค่ะ ถัดจากป้ายชื่อเมืองนิดเดียวจอดรถตรงลานจอดรถ(ที่รถเยอะๆ เพราะใครๆก็มาที่นี่) แล้วจะได้วิวนี้
 

 

 

 
สวยงามมากมาย ภาพไม่สามารถบรรยายได้ครบ หนึ่งลื้มปริ่มน้ำตาไหลพราก(ขอดราม่าแพร่บ)…คือมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้ค่ะ ภาพวิวนี้เลย มันเหมือนฝันเป็นจริงไปครึ่งนึง อีกครึ่งนึงคือต้องไปปีนเขาก่อน
เขาลูกนี้เลยที่เราจะปีนกัน อยู่ใกล้ๆจุดชมวิวเมืองเรนเนนี่แหละ แนะนำให้จอดรถตรงจุดชมวิวแล้วเดินไปนะคะ
 

 
จากจุดจอรถเดินมาทางอุโมงค่ะ ระยะไม่ไกล ( ภาพถ่ายตอนลงจากเขาแล้วนะคะ ) สามารถเข้าทางปลายเปิดอุโมงค์อีกด้านนะคะ จะมีถนนเบี่ยงเข้ามาคล้ายๆกัน
 

 
เดินเข้ามาถนนข้างอุโมงค์จะเห็นลูกศรสีขาวแบบนี้ เดินตามไปเลย
 

 
เลี้ยวตามลูกศรเข้าไปเลยค่ะ รวมระยะทางประมาณ 300 เมตรได้
 

 
ป้ายเตือนก่อนขึ้น
 

 
ถึงจุดนี้ลุยยยย! เราใช้เวลาในการปีนทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่งที่ยาวนานเพราะอยากให้ถึงแต่ไม่ถึงเสียที ช่วงแรกๆทางยังยังไม่ชันมาก ทางเป็นโคลนแต่พอเดินได้ไม่ถึงกับเละมากและมีต้นไม้ให้เกาะๆ พอหลุดช่วงต้นไปร้อนมากกกกเพราะมีแต่หญ้าเตี้ยๆ ไม่สามารถบังแดดได้และเริ่มมีหินสไลด์ เราค่อยๆกระดืบๆขึ้นไประหว่างขึ้นก็มีนักท่องเที่ยวที่ลงมาคอยให้กำลังใจ เราขึ้นเขากันตอน 6 โมงเย็นตอนนั้นฟ้าเปิดสนิท แดดอย่างกับ 10 โมงบ้านเรา – -” ส่องหน้าเต็มๆเลยค่ะที่สำคัญคือมันชันและไม่มีจุดให้พักเลย ต้องยืนพักเองเท่านั้น

แต่รางวัลมีให้สำหรับคนไม่ท้อถอยค่ะ ^_^ ในที่สุดเราก็มาถึงจุดชมวิวจุดแรก คือว่ามันสวยมากกกกก

อยากเป็นคนยืนตรงจุดนั้นเองแต่กลัวความสูง เลยส่งเพื่อนไปแทน อิอิ แค่ยืนกดชัทเตอร์อยู่ในเข้ามายังใจสั่น บอกเลย
 

 

 
ขึ้นมาสูงอีกนิดนะ จุดนู้นที่เห็นเสื้อส้มๆก็เป็นอีกจุดชมวิว แต่เห็นทางขึ้นแล้ว จขกท ไม่รอดค่ะ คือมันชันและสูงมาก ป้าใจหวิว จิเป็นลม
 

 
สวยทุกมุม ไม่เสียแรงที่ตากแดดหน้าดำขึ้นมา
 

 
เบื้องหลังรูปสวยมักมีเรื่องเล่านะคะ 😉
 

 
สุดท้ายสำหรับวิวบนนี้กับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสน่ารักทั้งคู่เลยค่ะ (หน้าตาก็ดี อิอิ) ผู้หญิงเธอบอกว่า “Once in the life time” เห็นด้วยทุกประการ!
 

 
มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญอีกช่วง “ลงเขา” คือปกติการลงเขาง่ายกว่าขึ้นใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่กับทุกกรณี ขาลงเราใช้เวล 1 ชั่วโมงครึ่งเท่ากับขาขึ้นพอดิบพอดี แถมรู้สึกปวดเข่ามาก หรือเข่าเราเสื่อมไปแล้วนะ
 

 
กว่าจะลงจากเขา สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ตปิดหมด เราต้องกลับที่พักไปต้มมาม่ากินอีกมื้อ แต่เราฟินกับวิวมากกกกจนกินอะไรก็อร่อยแล้วล่ะค่ะ ^_^ <3  
 
เป็นวันที่สุขใจที่สุดอีกหนึ่งวันของทริปนี้ค่ะ แม้ว่าจะกลับมาต้มมาม่ากินที่ที่พัก ไม่ได้พักหรูและเจ็บเข่าจากการปีนเขามากแต่รู้สึกคุ้มค่าที่สุดค่า
ตอนต่อไปติดตามวันสุดท้ายที่ Lofoten ของเรา เราพักที่ไหน และคำแนะนำเล็กๆน้อยๆสำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปที่นี่ ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่า ^_^

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

กินอะไรอร่อยที่ Norway
August 31, 2015
Alesund-Geiranger
August 31, 2015
Bergen
Bergen & Flam
August 23, 2015
Hamnoy
Lofoten III
August 23, 2015
eggum, norway
Lofoten I
August 14, 2015
Tromso
Tromso
August 14, 2015
Norway as I see it
July 31, 2015
Road trip Norway
Road trip Norway
July 29, 2015
แผนเที่ยว Norway
แผนเที่ยว Norway 2015
July 29, 2015

1 Comments

FUFY
Reply May 31, 2016

คนบางคนรองเท้าพังก็บ่ยั่นเด้อ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *