เที่ยวไปกินไปใน Iceland day 3; ทักทาย East Iceland ที่เมือง Egilsstaðir & Seyðisfjörður
เที่ยวไปกินไปใน Iceland day 3; ทักทาย East Iceland ที่เมือง Egilsstaðir & Seyðisfjörður
เที่ยวสนุก กินอร่อยที่ตอนใต้ของไอซ์แลนด์ในบล็อกเอ็นทรีที่แล้ว คลิ้กอ่านได้ที่นี่ วันนี้เราจะขับรถขึ้นไปทางตะวันออกของประเทศกันบ้าง ตามแผนที่วางไว้ (อย่างสวยหรู)คือ ช่วงเช้าขับรถไปจนถึงเมือง Seyðisfjörður ช่วงบ่ายเราจะเทรคกันเบาๆซัก 5 กม เพื่อไปจุดชมวิวที่เห็นเมืองอยู่เบื้อล่างและมีฟยอร์ดอยู่เบื้องหลัง สวยงามราวภาพในฝัน แต่…ตื่นขึ้นมาพบว่า ฝนตกทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะซิส ตกตั้งแต่เมือง Höfn เมืองที่เราพักคืนก่อนเดินทาง ตกไปตลอดทางจนถึงเมือง Seyðisfjörður ที่เรามาพักคืนนี้ แถมตกต่อจนถึงวันรุ่งขึ้นอีก สรุปว่าไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย #รองไห้หนักมาก ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่พยายามคิดบวก มองโลกให้สวยไว้ (พยายาม)มองหาว่ามันมีอะไรอย่างอื่นให้เราได้ชื่นชมในวันที่ฝนตกแบบนี้ แล้วมันก็มีนะ อย่าทำเป็นเล่นไป มันคือ! การได้ไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในเมือง Egilsstaðir ที่ขอบอกว่ามันคูลมาก การได้พักที่พักที่เป็นที่พักที่ดีที่สุดของทริป การได้ทำอาหารกินเองแบบไม่ต้องสะเทือนใจกับราคาอาหาร และการใช้เวลาด้วยกัน เมาท์มอยตั่งต่าง…มันก็ดีเหมือนกันนะ ^_^
ภาพรวมการเดินทางของเราในวันนี้ เดินทางจากเมือง Höfn ไปทิศตะวันออกของประเทศ
ดูเส้นทางที่เราขับแบบใกล้ๆ เราวิ่งตามที่ google บอกให้ไปค่ะ ว่าไงก็ว่าตามพี่กูเกิ้ล ^_^
ระยะทางแค่ 213 กม ดูไม่เยอะมาก แต่ถนนประเทศนี้เล็กๆ สภาพถนนในวันฝนตกก็ดูไม่จืดเลยค่ะ ถนนเละ เป็นหลุมเป็นบ่อ บางช่วงทัศนวิสัยแย่มาก มองเห็นทางข้างหน้าแค่ 3 เมตรก็มี และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้น มือขับเราวันนี้ ไม่เคยขับรถพวงมาลัยซ้ายมาก่อน ไม่เคยขับรถเที่ยวต่างประเทศมาก่อน และไม่เคยขับรถเองนานขนาดนี้มาก่อนแม้แต่ในประเทศก็เถอะ ซึ่งพี่แกก็ไม่ได้บอกกล่าวพวกเราแต่ประการใด! ยังคงขับไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายทาง แล้วค่อยมาเฉลยให้เราตื่นเต้นทีหลัง!
สภาพถนนที่ถือว่าค่อนข้างดีสำหรับวันนี้ ที่แย่กว่านี้และแย่สุดๆไม่ได้เก็บภาพมา เพราะนั่งลุ้นอยู่ >_<
จากที่ควรจะใช้เวลาสามชัวโมงนิดๆ เราขับมา 4 ชม กว่าจะมาถึงเมือง Egilsstaðir จุดเช็คอินของเราคือปั๊มน้ำมันตรงทางแยกก่อนเลี้ยวเข้าเมือง Seyðisfjörður ซึ่งเป็นปั๊มขนาดใหญ่ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้าน Subway และห้างเล็กๆด้วย เหมาะมากเพราะเราต้องเติมน้ำมันรถและเติมอาหารสำหรับสมาชิกในทริป
ในขณะที่เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่เลือกกิน Subway หนึ่งกินสิ่งนี้ค่ะ Skyr หรือสเกียร์ หนึ่งในอาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ มันคืออะไรดียังไง หนึ่งเขียนไว้ที่ 12 Food you cant miss in Iceland
สำหรับเพื่อนที่กิน Subway ได้ยินแว่วๆว่าอร่อย แต่..ราคารุนแรงใช้ได้ คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 750-800 บาท เบาๆ ^_^
กินเสร็จได้เวลาช้อปปิ้งของในซุปเปอร์มาร์เก็ต คืนนี้เราจะพักบ้านพักที่มีครัว เพื่อเป็นการประหยัด มื้อเย็นเราจะทำอาหารกินกันเอง รวมทั้งมื้อเช้าวันถัดไปด้วย และซุปเปอร์ที่เรามาช้อปวันนี้คือ Bónus supermarket นั่นเอง
Bónus supermarket เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีสาขาอยู่ทุกหัวเมืองขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ ขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้างตามขนาดของเมืองและประชากรแถวนั้น และดูว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมากมายเพราะเป็นทางเลือกในการกินอาหารแบบ “ถูก”ในประเทศที่แซนวิชในร้านอาหารราคา 4-500 บาท! จริงๆแล้วซุปเปอร์มาร์เก็ตในไอซ์แลนด์มีหลายเจ้า เราเคยแวะซื้อของที่ Kronan ซึ่งใหญ่โตและมีของให้เลือกมากมาย ราคาพอกับ Bónus และดูเหมือนว่า Bónus จะมีสาขามากกว่า
กลับมาที่ Bónus supermarket สาขาเมือง Egilsstaðir ต้องบอกว่าเป็นสาขาที่ใหญ่มาก มีทั้งของกิน ของใช้ในบ้านครบ มามาดูกันว่า เค้ามีอะไรขายและราคาเท่าไหร่บ้าง เน้นของกินที่ต้องเอาไปปรุงนะคะ เพราะเป็นของที่เราจะซื้อพอดี ในส่วนของอาหารสำเร็จรูปที่มีมากมายนั้นเราไม่ได้ซื้อมาแต่อย่างใด
ของที่มีขายน่าจะนำเข้าเกือบทั้งหมด มีทุกอย่างที่อยากได้สำหรับการทำอาหาร อยากรู้ว่าคิดเป็นเงินไทยราคาเท่าไหร่เอา 3 หารนะคะ
ที่ชอบมากคือ ขนมปัง ถูกมากกกกค่ะ น่าจะเป็นอาหารที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับปริมาณ มีทางเลือกเยอะมากด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา 555 ขนมปังเค้าส่วนใหญ่จะเป็นแนวที่คนแถบยุโรปกินกันคือมีเนื้อให้เคียว เปลือกกรอบหน่อย หาแบบนิ่มยวบยาบแบบบ้านเราไม่มีนะคะ ในส่วนของผักและผลไม้มีให้เลือกมากมายเช่นกัน
มาถึงสวนที่น่าตื่นเต้นและคูลสุดๆ คือห้องนี้ค่ะ a walk-in fridge! เป็นห้องขนาดใหญ่ที่เปิดความเย็นระดับตู้เย็น เดินเข้าไปแล้วคูลลลล จริงๆนะ
ข้างในเต็มไปด้วยอาหารและวัตถุดิบที่ต้องการความเย็นเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นพวกเนื้อสัตว์ แฮม เบคอน อาหารสำเร็จรูปต่าง โยเกิร์ต สเกียร์ใดๆ เดินเลือกเดินหยิบได้เลยแบบคูลๆ บรื๋อ ขอบอกว่าหนึ่งต้องวิ่งออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่เป็นพักๆเพราะมันหนาวจริงๆ
เนื้อ มีให้ครบทุกชนิด ที่เห็นเยอะมากกว่าหมูและเนื้อวัวคือเนื้อแกะ
ไก่ก็มีให้เลือกทุกส่วน อยากได้ส่วนไหน
เบคอนและแฮมต่างๆ ราคาน่าคบนะคะ ไม่ต่างจากราคาทางบ้านเรา จริงๆอยากบอกว่าถูกกว่าด้วยซ้ำ และคุณภาพดีด้วย อร่อย อิอิ
ให้ทายว่าคืออะไร ฟูฟีใบ้ให้ในรูปขวามมือด้วย….มันคือ หัวใจแกะ คนไอซ์แลนด์กินเครื่องในสัตว์เหมือนบ้านเราเลย ^_^
ช้อปกันเต็มอิ่มเราได้ของมามากมาย ส่วนใหญ่เป็นอาหารสำเร็จเย็นนี้และเช้าวันรุ่งขึ้น มีทั้งไข่ ขนมปัง ตะโพกไก่ พอร์คช้อป หอยเชลล์ (ขนาดยักษ์และราคาน่ารักมาก) ปีกไก่ แฮม เบคอน ผักสำหรับสลัด มันฝรัง มะเขือเทศ แอ้ปเปิ้ล เมลอน เห็ด นม เราตกลงกันว่าใครอยากกินอะไรให้หยิบได้เลย แล้วมาหารกัน ไม่ต้องเกรงใจ จัดเต็มกันไปเลย
รถอิ่ม คนอิ่ม ของพร้อม เดินทาง (ท่ามกลางสายฝนกันต่อ) ระยะทางจากเมือง Egilsstaðir ไป Seyðisfjörður ประมาณ 27 กม น่าจะเป็นเส้นทางที่สวยมากถ้าอากาศดี แต่เราไม่มีวาสนาได้เห็นความสวยงามนั้น (สะอื้นเบาๆ) จริงๆแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักที่เมือง Egilsstaðir เพราะเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าและอยู่บนทางหลวงเส้น 1 แต่เราไม่อยากเหมือนใคร 😉 ความตั้งใจคืออยากไปเดินเล่นและเทรคชมวิวที่เมือง Seyðisfjörður แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำ เวลาที่เหลือทั้งหมดเราใช้ที่กระท่อมน้อยที่พักของเรา ซึ่งขอบอกว่าดีมากกกก ก ล้านตัว
ที่พักเราชื่อ Langahlid Cottages & Hot Tubs จองผ่านbooking.com ดีงามพระรามเก้ามากในทุกสิ่งอัน ทั้งโลเคชันที่ติดกับฟยอร์ด เห็นน้ำ เห็นเขา ภายในที่พักมีให้ครบ กระท่อมนึงนอนให้ 5 คน โดยแต่ละห้องแยกกันเป็นสัดส่วน เตียงนอนนุ่มสบาย ห้องน้ำดี มีห้องครัวที่เล็กแต่อุปกรณ์ครบ เตาอบพร้อม มุมนั่นเล่นมีวิดีโอหนังให้ด้วย และที่สำคัญมีอ่างน้ำร้อนให้แช่ไป จิบไวน์ ชมวิวไปด้วย เป็นอะไรที่ดีที่สุดของวันนี้เลย
ได้เวลาแช่น้ำอุ่นๆ จิบไวน์ไป ชมวิวไป ฝนก็ตกปรอยๆ ไป
ฟินกับแล้วก็ไปช่วยกันเตรียมอาหาร ทำไปหลายอย่างมาก อร่อยทุกเมนู (ขอโม้) ถ่ายรูปไม่ทัน มีแค่ตัวอย่างมาประกอบ อิอิ
เมลอนแฮม อาหารอิตาเลียนก็มา เมลอนหวานมากและแฮมดีมากกกก อร่อยค่ะ
พอร์คช้อป
เบียดๆกันกิน อร่อยดีนะคะ กินไปเมาท์ไป ^_^
กินเสร็จฝนก็ยังไม่หยุดตก เราก็แห้วแสงเหนือกันไปอีกวัน ไม่เป็นไร ยังมีอีกหลายวัน #ชีวิตต้องมีหวัง ตอนต่อไปจะพาขับรถขึ้นไปทางเหนือของประเทศ มาดูกันว่ามีอะไรน่าชมน่าเที่ยวบ้าง
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
September 24, 2018เป็นทริปที่อาหารการกินอร่อยมั่กๆ ถ้าไม่มี 2 วันสุดท้าย จะสรุปเลยว่าสิ่งที่ประทับใจที่สุดในทริปคืออาหาร 555