Yosemite National Park
แม้ว่าพื้นที่ปาร์คจะใหญ่มากๆ แต่ทักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเที่ยวและพักที่ Yosemite Valley ซึ่งคิดเป็นพื้นที่แค่ 1% ของปาร์ค ดังนั้นถ้ามาช่วง high season หรือหน้าร้อนจะแออัดมากค่ะ หนึ่งไปช่วงซัมเมอร์รถติดเลยค่ะ ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่ช่วงพีคๆอย่าลืมวางแผนจองที่พักล่วงหน้านานๆด้วยนะคะ เพราะที่พักที่อยู่ใกล้มีค่อนข้างจำกัด หนึ่งไปที่นี่สองครั้งคือต้น ต.ค. และ ก.ค. บรรยากาศต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเที่ยว Yosemite NP ให้ทั่วจริงๆคงต้องใช้เวลา 3 วันขึ้นไป แต่หนึ่งอยู่แค่ 2 วัน ทั้งสองรอบ ถามว่าพอไหม พอค่ะเพราะหนึ่งไม่ได้เทรคเทรลยาวๆ แค่ขับรถจอดเดินตามจุดที่สั้นๆ และเที่ยวตามจุดที่รถเข้าถึง รูปที่นำมาให้ชมส่วนใหญ่เป็นภาพช่วงหน้าร้อนนะคะ เป็นช่วงที่ต้นไม้ต้นหญ้าเขียวชะอุ่ม น้ำเยอะ มีบริการ free shuttle bus ไปจุดต่างๆ รอบๆ Yosemite Valley แต่ข้อเสียคือร้อนมากก ค่อนข้างแออัดโดยเฉพาะที่ Yosemite Valley ถึงขนาดรถติด ไม่มีที่จอดรถเลยทีเดียว และที่พักใกล้ๆเต็ม งานนี้เราก็กระเด็นไปพักไกลอีกแล้ว เสียเวลาในการขับรถ เข้า ออกปาร์คนานเลยค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.yosemitehikes.com/
http://www.nps.gov/yose/index.htm
จากแผนที่มีทางเข้าหลายทาง หนึ่งเคยเข้า – ออก 3 ประตู ทางทิศตะวันตก ทางเข้า Tioga Pass มักจะปิดหน้าหนาว ก่อนเดินทางเช็คก่อนนะคะ ว่าประตูที่เราจะเข้าเปิดหรือไม่ แต่ถ้าไปช่วงหน้าร้อนไม่มีปัญหาค่ะ
Yosemite มีที่พักภายในปาร์ค มีตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงแคมป์กราวด์ เช็คคร่าวๆในแผนที่ ถ้าไปหน้าร้อน แนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ
ตอนจ่ายเงินค่าเข้าที่ด่าน จนท จะให้แผนที่มาซึ่งมีประโยชน์มากๆ เราวางแผนการเที่ยวตามจุดต่างๆตามที่เอกสารแนบมาเลยค่ะ ในเอกสารจะมีข่าวสารอัพเดท การเตรียมตัว ข้อแนะนำสำคัญๆให้อ่านก่อนเที่ยวด้วย
เราเที่ยวแบบนี้ค่ะ
Day 1 ขับรถจาก LA เข้าปาร์คทางทิศใต้ผ่าน Oakhurst ถึงประมาณบ่ายนิดๆ เที่ยวก่อนเลยค่ะ ครึ่งวันแรกเราเดินเที่ยวกันที่ Mariposa Grove of Giant Sequoias ก่อน ส่วนนี้อยู่ทางใต้ของปาร์ค เป็นป่าต้นไม้ยักษ์อายุเก่าแก่ ต้นที่เก่าแก่ที่สุดอายุกว่า 2400 ปี
การเที่ยวมีให้เลือก 2 ทางคือเดินหรือนั่ง tram tour ซึงจะมีให้บริการช่วง พค-ตค เราตัดสินใจเดินกันค่ะ เข้าไปจอดรถในที่จอดรถ เอาแผนที่ (ราคา 50 cents) แล้วเดินกันเลยค่ะ
จากแผนที่เราเดินกันไม่ครบหรอกค่ะ ถึงแค่ Faithful Couple ก็เดินกลับ
ต้นทางพร้อมนางแบบสวยๆ ^_^
Fallen Monarch (ภาพนี้ตอนไปรอบแรก ใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็น)
Bachelor & Three Graces เค้าเข้าใจตั้งชื่อนะคะ ^_^
หนุ่มโสดและสาวงามทั้งสาม อิอิ
Grizzly Giant ต้นไม้ยักษ์ที่เก่าแก่ที่สุด อายุประมาณ 1900-2400 ปี ดูลักษณะกิ่งเค้าเหมือนในหนังเวทย์มนต์เลย
เดินต่อไปอีกเจอ California Tunnel Tree
Faithful Couple ต้นใหญ่มากกกก
ด้านหน้าเหมือนต้นเดียว
มาดูด้านหลังถึงเห็นว่าเค้าเป็นสองต้นนะ
ใช้เวลาเดินเที่ยว 2 ชั่วโมงคิดว่าพอแล้วสำหรับสนยักษ์ ไปเที่ยวจุดอื่นกันบ้างดีกว่า เราขับรถเข้าไปใน Yosemite Valley เพราะยังมีเวลาเหลือพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ไปที่ Tunnel View ก่อน
Tunnel View เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพมากที่สุดเพราะเข้าถึงง่าย จอดรถเสร็จเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงจุดชมวิวแล้ว และวิวจุดนี้ก็สวยงามที่สุด
เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา คือ El Capitan, Half Dome, Sentinel Rock, Sentinel Dome และน้ำตก Bridalveil
จากนั้น ขับรถต่อไปชมน้ำตก Bridralveil ใกล้ๆ ขับรถไปไม่ไกล จอดรถแล้วเดินต่อไปอีกไม่ไกลนัก น้ำตกไหลแรงมากๆ ถ้าไปช่วงซัมเมอร์นะคะ เข้าใกล้มากไม่ได้ เปียกปอนกันหมด
สายน้ำตกไหลลงเป็นลำธารที่ไหลเชี่ยว
พระอาทิตย์ราแสงแล้ว เราตั้งใจจะเก็บแสงสวยๆของวันแต่เมฆมาเยอะจนฟ้าเป็นสีขาว T_T แวะ Cook Meadow ก่อน ด้านหลังเป็น Upper & Lower Yosemite Falls ก่อนกลับที่พัก
จบวันแรกด้วยการเข้าที่พัก หนึ่งไปสองรอบ รอบแรกพักโรงแรมในปาร์คเพราะจองล่วงหน้านาน รอบที่สองไปช่วงซัมเมอร์และวางแผนกระชั้นมาก จองที่พักได้ไกลมากๆค่ะ ขับรถออกไปเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว
Day 2 เที่ยวใน Yosemite Valley เป็นจุดที่คับคั่งมากช่วงซัมเมอร์ รถติดเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังพอเคลื่อนที่ไปได้ สถานที่ต่างๆใน Yosemite Valley มีหลายจุด มีเทรลให้เดินหลายเทรล ถ้าไม่อยากขับรถทางปาร์คมีบริการ free Shuttle bus ไปตามจุดต่างๆ ข้อมูลเพิ่มเติมไปขอได้ที่ Visitor center ส่วนเราเน้นขับรถเองเช่นเคย อาศัยจังหวะเก้าอี้ดนตรีแย่งที่จอดรถกันเล็กน้อย เตียมแซนวิชมากินเป็นอาหารเที่ยงเพราะจุดทานอาหารมีแค่ไม่กี่จุดและคนเยอะ เราขี่เกียจรอคิวและตั้งใจเที่ยวแบบจัดเต็มเลย
จุดท่องเที่ยวต่างๆ รอบไ Yosemite Valley
เราเริ่มที่ Cook & Sentinel Meadows หาที่จอดรถแล้วเดินเที่ยว โปรดสังเกตรถนะคะ ยาวววเลย >_<
Swinging Bridge
ข้ามมาอีกฝั่งถนนเป็นทุ่งหย้ามี Half Dome เป็นฉากหลัง
ไป Mirror Lake ต่อ ต้องขับรถไปจอดอีกจุดแล้วเดินต่อประมาณไมล์นิดๆ
ถึงแล้ววว Mirror Lake พยายามดูให้เป็นกระจกหน่อยนะคะ แฮ่
จบเส้นทางนี้เราไปแวะ Lower Falls trail แต่เดินกันไม่จบเส้นทาง ตัดสินใจไป Glacier Point ต่อเพราะเกิดอาการขี้เกียจซะงั้น แต่ก็ได้รูประยะไกลมาอวดนะคะ 😉
จุดสุดท้ายของวันที่เราแวะคือ Glacier Point เป็นจุดชมวิวของ Yosemite Valley มุมสูง เพราะอยู่สูงถึง 980 เมตรเหนือ Curry Village จุดนี้จะปิดช่วงหน้าหนาว ถ้าจะขึ้นไปชมเช็คเส้นทางก่อนนะคะ เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวแต่ถนนดีค่ะ เราไปช่วง ก.ค. ยังเห็นหิมะที่ยังละลายไม่หมด แต่อากาศไม่หนาว วันนี้เราชมพระอาทิตย์ตกจุดนี้
เป็นจุดที่สวยมากค่ะ ขึ้นมาอากาศเย็นๆ มองเห็น Yosemite NP ในมุมสูงได้เกือบทั่วเลย
จุดชมวิวรอพระอาทิตย์ตกดิน เราใช้เวลาอยู่ที่สักพักก่อนขับรถกลับ
เป็น NP ที่หนึ่งชอบนะคะ เพราะสามารถขับรถจาก LA ไปถึง ไกลหน่อยแต่ช่วยกันขับหลายๆคนก็สนุกดี ไปสองฤดูก็สวยทั้งคู่ เคยเห็นรูปฤดูหนาวก็สวยไม่แพ้กันเลย เรียกได้ว่าสวยทุกฤดูเลยทีเดียว เป็น NP ที่หนึ่งอยากแนะนำให้ไปเที่ยวถ้าได้ไปแถวฝั่งตะวันตกของเมกาไม่ว่าจะจาก San Francisco หรือ LA จริงๆถ้าไม่อยากเดินเยอะ เอาแค่จุดหลักๆ เที่ยว 1 วันยังได้เลย เห็นทัวร์จีนจัดกันจากซานฟรานแบบ one day trip แต่หนึ่งว่าไหนๆก็ไป มีเวลาให้เค้าซักนิดก็ดีนะคะ
ปิดท้ายด้วยสมาชิกทริปหน้าร้อนค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะค้า
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
- October 26, 2015
- 1 Comment
- 3
- California, Road trip, USA
FUFY
June 10, 2016วู้วววว บล็อกนี้ยาวเชียว