Uncle Tom’s cabin @Khoakho บ้านดินฟาร์มสเตย์ที่เขาค้อ

ทริปเขาค้อเป็นทริปครอบครัวสั้นๆช่วงสุดสัปดาห์ ไม่ได้มาเขาค้อนานมากๆ มารอบนี้รู้สึกแปลกตาไป มีที่พักสวยๆ เก๋ๆ คาเฟท์น่ารักๆ จุดท่องเที่ยวให้ถ่ายรูปเยอะขึ้นมาก (ก็มันตั้งยี่สิบปีผ่านมาแล้วนี่เนอะ ;)) สำหรับที่พักของเราทริปนี้เราเลือกที่พักแบบฟาร์มสเตย์ชื่อน่ารักๆ “กระท่อมน้อยของลุงทอม” หรือ “Uncle Tom’s cabin @Khoakho” เป็นครั้งแรกที่ได้ลองมาพักฟาร์มสเตย์ หนึ่งชอบมากๆเลยอยากเอามาแชร์

เขาค้อมีที่พักให้เลือกเยอะมาก หลากสไตล์ หลายราคาให้เลือก ตอนที่เลือกที่พักน้องสาวเป็นคนหา หลังจากพยายามจะจองที่พักแห่งหนึ่งซึ่งหนึ่งค้านว่าดูมันออกจะแพงไปนิด ไม่สมราคา เธอเลยส่งที่พัก “กระท่อมน้อยของลุทอม” มาให้ ลองเข้าไปอ่านรีวิวใน booking.comเห็นเป็นที่พักแนวฟาร์มเสย์ มีผักให้เก็บเองบวกกับราคาที่สมเหตุสมผลหนึ่งรีบจองทันทีผ่าน หนึ่งเลือกจองแบบราคาพิเศษ ไม่มี free cancellation หลังจองปุ้บ ลุงทอมโทรมาคอนเฟิร์มการจองพร้อมเสนอให้ข้อมูลการเดินทางทันที ไม่เคยเห็นที่พักที่ไหนแอคทีฟขนาดนี้ และวันเดินทางลุงทอมก็โทรมาถึง 2 รอบเพื่ออำนวยความสะดวก #ประทับใจ ^_^

เนื่องจากเป็นทริปสั้นๆแค่เสาร์ อาทิตย์ และเราออกเดินทางกันเสาร์เช้า กว่าจะได้เข้าที่พักก็ช่วงพระอาทิตย์ตกดินพอดี คุณลุงทอมคงเห็นว่าเราจะไม่เช็คอิน(เสียที)โทรมาสอบถามความเรียบร้อย ^_^ ที่พักอยู่ตำบลทุ่งสมอ เดินทางสะดวก มีป้ายบอกทางชัดเจน แผนที่ใน google ถูกต้องเป๊ะ ขับรถผ่านชุมชนเข้ามาเห็นปลูกผักไฮโดรไปนิกส์กันหลายบ้าน กระท่อมลุงทอมอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ช่วงทางขึ้นเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินแล้วต้องแวะจอดเก็บภาพ

ภาพจะเบลอๆ นอยซ์เยอะๆหน่อย เพราะยืนถ่ายด้วยสองขาตัวเองเท่านั้น ไม่มีขาตั้งกล้องแต่อย่างใด 😉

ไปถึงที่พักลุงทอมมารับด้วยตัวเอง การเช็คอินง่ายมากค่ะ เดินตามพนักงานไปที่ที่พักได้เลย ลุงทอมหาคนมาช่วยยกกระเป๋าให้ด้วย สะดวกและรวดเร็วมาก เอาของไปเก็บเสร็จเราก็ออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารของที่พักเลยเพราะหนึ่งอ่านรีวิวมาว่าพิซซ่าอร่อย ^_^ ร้านอาหารของที่พักเป็นอาหารอิตาเลียนแบบง่ายๆ มีตัวเอกคือพิซซ่าเตาถ่านที่อบกันในครัวให้เราเห็นกันเลยนอกจากนี้ยังมีเมนู สปาเตตี้ คาโบนารา สลัด แบบง่ายๆ เมนูมีไม่เยอะมากแต่ก็หลากหลายพอ เราไปพักช่วงปลายหนาวแล้วอากาศเย็นๆสบายๆ นั่งกินบนโต๊ะกลางแจ้ง คือดี เสียอย่างเดียวตอนหัวค่ำยุงเยอะไปนิดแต่ก็มีบริการสเปรย์กันยุงให้ มาดูมื้อค่ำเราว่าสั่งอะไรไปบ้าง

จานแรก ซีซาร์สลัด จานนี้เลิฟมากกกก ปกติหนึ่งชอบกินซีซาร์สลัดอยู่แล้ว จานนี้เรียกได้ว่า farm-to-table เลยก็ว่าได้เพราะผักและมะเขือเทศเด็ดมาจากสวนของที่นี น้ำสลัดโฮมเมดที่ทำได้อร่อยมาก ผักสดมาก กรอบมาก แต่ที่ปลื้มปริ่มที่สุดและทุกคนในโต๊ะฮือฮา
(ยกเว้นเด็ก เพราะกินไปเป็น) คือ “มะเขือเทศเชอร์รี” คือมีความสด กรอบ หวานมากกก น้องสาวที่ปกติไม่กินมะเขือเทศถึงกับออกปากชม เกิดการเแย่งกันกิน(มะเขือเทศ) พนักงานเห็นเราแย่งกันกินเลยจัดเฉพาะมะเขือเทศใส่โถเล็กๆมาเพิ่มให้ฟรี น่ารักมากๆ

เมนูทานเล่น (สังมาให้เด็กทาน) ไก่ทอดไสตล์เกาหลี แป้งกรอบมากๆๆ น้ำซ้อสหวานหน่อยแต่อร่อยจริงๆ แย่งกันกินจนต้องสั่งเพิ่ม

เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ พิซซา นั้นเอง พิซซ่าของที่นี่มีแต่แบบบางกรอบตามแบบฉบับบอิตาเลียนพิซซ่า เราสั่งมา 2 หน้าคือ พาร์มาแฮม และซีฟู้ด อร่อยใช้ได้เลยค่ะโดยเฉพาะพาร์มาแฮม แย่งกันกิน (อีกแล้ว)

คาโบนาราของหลานชาย

หลานสาวเธอไม่ค่อยอินกับอาหารอิตาเลี่ยนเลยขอข้าวไข่เจียวหมูสับ ซึ่งครัวทำมาให้เป็นพิเศษเลย

แจกันบนโต๊ะอาหารมีความเก๋เพราะไม่ได้ปักดอกไม้เหมือนที่อื่นแต่ตกแต่งด้วยผักสดที่เด็ดมาจากแปลงแทน ผักสามารถเด็ดกินได้เลยเพราะล้างทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้ว หนึ่งและพี่สาวแกะกินจนเหี้ยนเลย ชอบค่ะ ^_^

ทานกันอิ่มนั่งเมาท์ต่อกันนิดหน่อยก็แยกย้ายไปนอน เนื่องจากไปถึงที่พักก็มืดแล้วเลยไม่มีโอกาสเก็บภาพห้องพักมาให้ชมเลยค่ะ เราพักกระท่อมดิน มีน้ำอุ่น(สะใจมาก)อาบ เตียงอาจจะแข็งไปนิด แต่ยังอยู่ในระดับที่นอนได้สบาย กลางคืนเงียบสงบดีมากค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชินเสียงนกร้องตอนเช้าๆอาจจะตกใจนิดหน่อยช่วงเช้าๆ

ที่พักมีหลายแบบให้เลือกคือ กระท่อมดิน รถคาราวานและเต้นท์ ราคาต่างกันไป รถคาราวานมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ เก๋ไปอีกแบบนะคะ

หน้าทางเข้าใกล้ห้องอาหารมีแปลงสตรอเบอร์รีเล็กๆ เห็นน้องพนักงานกำลังเก็บเพื่อไปเตรียมเป็นอาหารเช้า น้องบอกปลอดสารพิษ เก็บทานได้เลย

สตรอเบอร์รีลูกเล็กๆน่ารักตะมุตะมิ แต่หวานมากกก อมเปรี้ยวนิดๆ อร่อยสุดค่ะ

มาดูมื้อเช้ากันค่ะ มื้อเช้ารวมในค่าที่พัก (แต่มื้อเย็นไม่รวมนะคะ) อาหารจัดมาแบบน่ารัก แต่จัดเต็มนะคะ มีทั้งแบบไทยคือข้าต้มหมู (อร่อยมากๆ)และแบบนอก ไส้กรอก ไข่ดาวและสลัด เช้านี้มีน้ำสลัดให้เลือกสองแบบคือน้ำสลัดซซาร์และน้ำสลัดงาญี่ปุ่น

แน่นอนที่สุดค่ะ ผัก ผลไม้เด็ดมาจากต้นสดๆเลย น้ำสลัดอร่อยมากกก เรากินสลัดกันคนละ 2-3 จาน กินสตรอเบอร์รีและมะเขือเทศสดๆ ไปนับไม่ถ้วน ฟิน ^_^

น้ำสตรอเบอร์รีคั้นสดๆ รสชาติดีมากกกก สดชื่น

ทานเสร็จแล้วขอไปดูแปลงผักของที่นี่ ซึ่งเป็นผักไฮโดรโปนิกส์แต่เรามาช่วงพักแปลงใหญ่พอดี แต่มีแปลงเล็กที่ปลูกเพื่อกินเองและทำอาหารให้แขกกิน น้องพนักงานน่ารักและใจเย็นกับเรามาก ไม่ว่าเราจะถ่ายรูปนานแค่ไหน ถามเยอะแค่ไหนก็ยังให้บริการเต็มที่ ได้ความรู้มากมายจากน้องเรื่องผักไฮโดรโปนิกส์

ถัดจากผักไปดูแปลงมะเขือเทศกันต่อค่ะ ซึ่งหนึ่งชอบมากๆเพราะปลายปีที่แล้วไปเที่ยวไอซ์แลนด์ มีร้านอาหารที่เอาฟาร์มมะเขือเทศมาทำร้านอาหาร ไอเดียดีมาก ชอบมาก แปลงปลูกเค้าคล้ายแปลงปลูกของลุงทอมเลย ตื่นเต้นๆ ไม่คิดว่าจะมีที่เมื่องไทย น้องพนักงานบอกว่าแปลงนี้เป็นแปลงผักอัจฉริยะ สามารถควบคุมการรดน้ำผ่านโทรศัพท์มือถือได้และเป็นแปลงปลอดสารอย่างแท้ทรู เก็บแล้วชั่งน้ำหนักเอากลับมาทานที่บ้านได้เลย

ประทับใจค่ะ แม้ที่พักจะไม่ได้สวยเวอร์มีดอกไม้บานสะพรั่ง มีจุดชมวิวสุดสะพรึง หรือมีห้องพักสวยหรู แต่ความเป็นธรรมชาติ การได้มีโอกาสเก็บพืชผักจากแปลงสด(ได้ความรู้ด้วย) ได้ทานลิ้มรสอาหารแนว farm-to-table ซุ่งอร่อยมากๆบวกกับการบริการอย่างเป็นกันเองทำให้รู้สึกประทับใจมากๆเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาที่พักแนวฟาร์มสเตย์ที่เขาค้อขอแนะนำเลยค่า

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***