Solvang, Danish town ใน California
เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นที่ตั้งรกรากของ Danish-American ที่ย้ายมาปักหลักตั้งแต่ปี 1911 เมืองที่มีงานก่อสร้างและสถาปัตยกรรมแบบ Danish นอกจากนี้เมืองยังตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา Santa Ynez Valley ซึ่งมีการปลูกองุ่นและผลิตไวน์กันมาก ทำให้ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมามากมายในแต่ละปี หากใครเป็นคอหนังอาจจะเคยได้ดูภาพยนต์เรื่อง Sideways (คศ 2004) ภาพยนแนวคอมมิดี้ถ่ายทำที่นี่เองค่ะ
รู้จักกันคร่าวๆแล้ว ไปเที่ยวกันเลยค่ะ หนึ่งไป 3 ช่วงคือ มกราคม กุมภาพันธ์ และกรกฏาคม แต่หนึ่งไม่ได้แยกเดือนกันค่ะ อาจจะงงๆหน่อยว่าทำไมบางรูปต้นไม้หัวโกร๋นแต่บางรูปทั้งดอกไม้ทั้งใบมีเต็มต้นเลย;)
ช่วง กพ เป็นช่วงที่มีดอกไม้บานค่ะ ถ่ายบนรถตอนวิ่งจาก Santa Barbara
มาถึงแล้ว จอดรถแล้วเดินเล่นกันเลยค่ะ เมืองเค้าไม่ใหญ่มาก จุดเดินเที่ยวก็มีจุดหลักคือตรงนี้แหละ
ถนนหลักของเค้า
มองไปอีกมุม เห็นกังหันลมที่ดูแล้วนึกไม่ถึงว่าเดินอยู่ในอเมริกา
เดินเลยมานิดหน่อย คล้อยมาด้านหลัง
มาดูด้านหน้าบ้าง ร้านรวงแถวนี้มีเอกลักษณ์ของเค้า
ร้านแถวนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านชิมไวน์ โรงแรมและร้านขายของที่ระลึก
ช่วงดอกไม้บานดูแล้วสดชื่นจริงๆค่ะ
เดินไปเรื่อยๆเจอกังหันลมอีกแห่ง เมืองนี้มีกังหันหลายแห่งค่ะ
เดินชมเมืองไปเรื่อยๆค่ะ
รถม้า Hønen หรือ the Hen พานักท่องเที่ยวชมเมืองแบบไม่ต้องเมื่อย เริ่มเย็นแล้ว แสงเริ่มจะหมด
มาดูข้าวของที่มีขายบ้าง หนึ่งถ่ายรูปมาไม่หมดนะคะ เพราะเยอะมากๆ
งานผ้าแบบนี้หนึ่งชอบมากๆ
ถ้วยชามก็น่ารัก แต่ราคาสูง เลยได้แต่ชม
ของที่ระลึกที่ราคาไม่สูงมากนักแต่ดูสวยงาม
มาที่นี่ที่ขาดไม่ได้คือชิม Aebleskivor ออกเสียงยากค่ะ 😉 เป็น Danish pancakes ที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมแทนที่จะเป็นแผ่นแบบที่เราคุ้นเคย นิยมรับประทานทั้งคาวทั้งหวาน ร้านที่ขึ้นชื่อคือ Solvang Restaurant เพราะหนึ่งเคยชิมร้านอื่นรสชาติไม่อร่อยเลย แต่ร้านจะปิด 6 โมงเย็นนะคะ
ร้านนี่อยู่ใกล้กันค่ะ แต่ถ่ายมาเพราะร้านน่ารักดี Solvang Restaurant อยู่ขวามือค่ะ ป้ายเล็กๆที่ตอนแรกเราเดินผ่านเฉยเลย
มาถึงร้านใกล้จะปิดแล้ว เรารีบสั่งอาหารมาเลย หนึ่งขอหม่ำกับไอศครีมวานิลาค่ะ ขณะนั่งรออาหารก็ชมร้านไป เป็นร้านที่ใหญ่และแต่งร้านได้น่ารักจริงๆ
มาแล้วค่ะ….จานนี้หนึ่งจัดการเอง อร่อยดีค่ะ 🙂
อิ่มท้องแล้ววไปหาไวน์ดื่มกันค่ะ จริงๆแล้วในเมืองมีร้านให้ชิมไวน์มากมาย แต่เราเลือกที่จะขับรถออกจากตัวเมืองนิดหน่อยเพื่อชิมไวน์ที่ไร่องุ่นเลย แต่ช่วงที่เราไปชิมไวน์เป็นฤดูหลังเก็บเกี่ยวไปแล้วจึงไม่มีรูปไร่องุ่นที่มีชีวิตชีวามาฝากนะคะ
อากาศเย็นๆ มาชิมไวน์กันค่ะ ถ้าหนึ่งจำไม่ผิดคือจ่าย 10 USD จะได้ชิมไวน์หลายชนิด น่าจะประมาณ 10 ++ ชนิด โดยสามารถแชร์กับเพื่อนได้ (ใจกว้างดีค่ะ ชอบจัง :)) ถ้าไม่ชอบไวน์ชนิดไหนสามารถเทใส่ภาชนะที่เค้าเตรียมไว้ให้ (พูดง่ายๆคือเททิ้ง)
ไวน์ที่ให้ชิมมีทั้งบ่มเองในไร่และนำเข้าจากต่างประเทศ
ชิมเสร็จเราจะได้แก้วใบที่เราใช้กลับบ้านเป็นของที่ระลึกด้วยค่ะ
ชิมเสร็จไม่ถึงกับเมาค่ะ แค่มึนๆ 🙂
วันนี้เลยขอจบทริปแบบมึนๆ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
- July 5, 2015
- 1 Comment
- 0
- California, Road trip, USA
FUFY
April 16, 2016เออ มึนทั้งคนเขียน คนอ่านเลย 555