Road trip Norway
นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม การขับรถเที่ยวเป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้ชื่นชมและสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด แต่ขับรถในนอร์เวย์ต้องเตรียมตัวยังไง ยากไหม เราจะขับกันได้หรือเปล่า หนึ่งขอเล่าจากประสบการณ์ที่ไปสัมผัสมานะคะ
Road trip Norway
* ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและฟยอร์ดมากมาย ถนนหนทางในเส้นทางท่องเที่ยวของนอร์เวย์ส่วนใหญ่เป็นทางโค้ง ทางขึ้น-ลงเขา ถ้าทำแผนแล้วเห็นระยะทางไม่กี่กิโลเมตรใน Google อย่างเพิ่งคิดว่าใกล้นะคะ เพราะระยะทางแค่ 60-70 กิโลเมตร ปกติรถที่วิ่งบนถนนจะเบาบางแต่ถ้าเจอรถบ้านที่วิ่งได้ไม่เร็วมาก และถนนโค้งไปมาและแคบทำให้แซงยากจะเพิ่มเวลาในการขับรถเข้าไปอีก เราเจอที่ Lofoten มีรถบ้าน รถพ่วง เยอะมากกว่าที่อื่น
* รถพวงมาลัยซ้าย ขับเลนขวา
* ถนนในทริปที่หนึ่งไปเป็นถนนสองเลนและเลนเดียว หนึ่งเดาว่าน่าจะเป็นแบบนี้ทั่วเพราะทั้งประเทศพื้นที่ 385,178 ตารางกิโลเมตรมีประชากรแค่ 5,136,700 คน การมีถนนสองเลนและเลนเดียวก็สมเหตุสมผล จริงไหมคะ
สภาพถนนจาก Alesund ไป Geiranger ถนนสองเลน สภาพถนนดีมาก ความกว้างของถนนกำลังดี ไม่แคบมาก
* สภาพถนนเป็นอย่างไร แล้วแต่เมืองที่ไปนะคะ ถนนในเมืองและจุดท่องเที่ยวมักจะดี แต่บางจุดที่อยู่ไกลออกไป เช่น Lofoten ถนนจะแคบมากๆ เวลามีรถสวนเกร็งกันทั้งคนขับคนนั่งเลยทีเดียว แต่ช่วงที่ถนนแคบเค้าจะมีจุดพักให้จอดเพื่อรถสวน หรือจอดให้รถข้างหลังแซง ถนนบางเส้นไม่มีเส้นกลางถนนถ้วย
ถนนที่ Lofoten ซ้ายเป็นเขา ขวาเป็นทะเล ถนนแคบ ไหล่ถนนก็แคบ มีจุดที่แคบลงกว่านี้อีกซึ่งจะมีป้ายบอกว่าถนนจะแคบลงแล้วนะ
ถนนที่ Lofoten ในเขตชุมชนค่ะ สังเกตว่าไม่มีเส้นกลางถนนแต่มีเส้นขอบแทน และไหล่ทางแคบมากๆ
* นอกจากถนนแล้วที่ต้องกล่าวถึงคืออุโมงค์และสะพาน เนื่องสภาพภูมิประเทศที่เป็นทั้งภูเขาและเกาะแก่ง ดังนั้นการขับรถข้ามสะพานหรืออุโมงค์เป็นเรื่องปกติเวลาขับรถข้ามเมือง นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีอุโมงค์เยอะมาก ทั่วประเทศมีถึง 900 แห่ง มีทั้งเจาะภูเขาและลอดใต้ทะเล ความยาวตั้งแต่สั้นๆถึงอุโมงค์บางจุดเจาะในเขาและยาวได้ถึง กิโลเมตรเลย ก่อนเข้าอุโมงจะมีป้ายบอกความยาวของอุโมงค์ด้วย ถ้าใครกลัวที่แคบก็เตรียมหลับตาไว้เลยค่ะ ^_^ ทริปนี้เราเจออุโมงยาวสุดประมาณ 4 กิโลเมตร
* ป้ายสัญลักษณ์จราจร มีที่แปลกตาไปบ้างและที่ควรรู้คือ
= attraction
= Viewpoint
= traditional food and rural tourism
= Natural protected area
“Norwegian-road-sign-640.20” by Peter J. Acklam
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Road_signs_in_Norway
* การจอดรถชมวิว แม้ว่าทิวทัศน์ข้างทางจะสวยงามมากแต่การจอดรถชื่นชมความงามหรือเพื่อถ่ายรูปก็ไม่ได้ทำเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ เมื่ออยากทำนะคะ ควรทำในจุดที่ปลอดภัยหรือจุดให้จอดเท่านั้นไม่เช่นนั้นอาจสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ถนนท่านอื่นและเกิดอันตรายได้
ใกล้ทางขึ้นจุดชมวิว Dalsnibba บนถนนสาย 63 มีจุดให้จอดชมวิว
* รถเช่า เราเช่ารถจากเวบที่กูเกิลมาแล้วเปรียบเทียบราคาเอาที่ถูกที่สุดค่ะ การหารถเช่าสำหรับสมาชิก 5 คนในทริปเราเจอปัญหาเล็กๆคือรถขนาด wagon ไม่มีเกียร์ออโต้ให้เลือก คือมีแต่เกียร์กระปุก ทำให้เหลือคนขับรถในทริปแค่สองคนคือหนึ่งและฟูฟีเท่านั้น T_T
ขับเกียร์กระปุกเลนขวาหนึ่งก็เพิ่งเคยขับนะคะ เปลี่ยนเกียร์ทีรถส่ายที อิอิ
รถที่เราได้ครั้งแรกคือ Audi
เช่าครั้งที่สองได้ Citroën ส่วนตัวชอบคันนี้มากกว่าเพราะขับสบายกว่า
ราคารถเช่ารวมประกันแบบต่ำสุด ตอนรับรถพนักงนจะถามว่าจะอัพเกรดประกันด้วยหรือไม่ซึ่งก็แล้วแต่เลยค่ะ เราไม่ได้อัพเกรด
ภายในรถมี GPS ให้ มีคู่มือรถที่เป็นภาษานอร์เวย์ให้ด้วยนะ (แล้วใครจะอ่านออกเนี่ย)
รถที่เราเช่าเป็นเครื่องดีเซล น้ำมันดีเซล ลิตรละ 12.5-13.8 NOK
* การเติมน้ำมัน น้ำมันรถเติมเองโดยสามารถขับรถเข้าไปที่ปั๊ม เติมน้ำมันที่หัวจ่ายได้เลยแล้วค่อยเดินไปจ่ายเงินที่ช้อป เน้นความเชื่อใจเพราะไม่มีการล็อกหัวจ่าย
ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่บนถนนในช่วงที่หนึ่งไปคือนักท่องเที่ยวและขับรถกันดีมากๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากยุโรปด้วยกันเอง รัสเซีย อังกฤษ ส่วนเอเซียที่เห็นเยอะคือเกาหลีและจีนเห็นบ้าง
ขับรถเที่ยวในนอร์เวย์จะว่ายากก็ไม่ยาก ง่ายก็ไม่ง่าย แต่หนึ่งรับรองว่าสนุกและไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนค่ะ
บล็อกเอนทรีหน้าหนึ่งจะพามองนอร์เวย์ในสายตาของหนึ่งนะคะ ตามอ่านได้ที่นี่
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
May 26, 2016อิอิ เห็นแล้วคิดถึงตอนเที่ยว สนุกรอไว้ละ ^_^