การเดินทาง มีสถานีเมโทรที่ใกล้หลายจุด ถ้าอยากตรงดิ่งไปเครมลินก็ลงสถานี Alexandovsky แต่ถ้าอยากพุ่งมาที่จตุรัสแดงก็สามารถไปลงที่สถานี Okhotny Ryad แต่จริงๆระยะเดินจาก 2 สถานีนี้ไม่ไกลกันเลยค่ะ ระหว่างทางชวมสวนสวยๆไปด้วย ไม่เหนื่อยเลย

ถ้าออกมาจากสถานี Okhotny Ryad จะเห็นมุมนี้ค่ะ เห็นตึกสีแดงๆด้านหน้านั่นแหละ ใช่เลย จุดที่หนึ่งยืนถ่ายรูปจุดนี้เป็นหลังคาของ Okhotny Ryad ช้อปปิ้งมอลล์ใต้ดินซึ่งมีทางเชื่อมกับสถานีเมโทร ไม่มีรูปด้านในมาให้ชม แต่เป็นห้างที่ทันสมัย มีร้านรวงให้ช้อปปิ้งมากมาย มีหลายยี่ห้อที่เราคุ้นตา อาหารก็มีครบสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา KFC, เบอร์เกอร์คิง แมคโดนัลด์ โซนอาหารเค้ามีร้านให้เลือกหลากหลาย มีห้องน้ำสะอาดด้วยค่ะ แต่ต้องจ่ายเงิน 20 RUB การที่มอลล์อยู่ใต้ดินเพื่อไม่ให้ไปบดบังความสวยงามของเครมลินและจตุรัสแดงนั่นเอง ส่วนหอคอยสีแดงขวามือสุดก็คือเครมลินนั่นเอง อยู่ติดกันเลยค่ะ
 

 
เราเดินกันแค่ชั้นที่เทียบได้ว่าเป็นหลังคาของมอลล์ แต่ความสูงเท่ากับถนนด้านข้าง ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใส และมีโดมเล็กๆ หลายโดม โดมที่ใหญ่ที่สุดได้ยินมาว่าคือนาฬิกาแดด ซึ่งมีน้ำพุเล็กๆมากมายอยู่รอบๆ
 

 
นาฬิกาแดดที่ว่า ใหญ่โตจริงๆ หนึ่งพยายามหาวิธีดูเวลา แต่ดูไม่เป็นค่ะ แหะๆ
 

 
มาเดินเที่ยวจตุรัสแดงกันดีกว่า ช่วงบ่ายวันนี้เมฆก้อนใหญ่ๆ มาปิดแสงไว้ เป็นความทุกข์ใจของคนชอบถ่ายรูปจริงๆ T_T

ตึกสีแดงขนาดใหญ่ที่เห็นเป็นพิพิธภัณฑ์ (historic museum) ด้านหน้ามีรูปปั้นจอมพล กิออร์กี ชูคอฟ (Georgy Zhukov) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหภาพโซเวียต และผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของโซเวียต ที่ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นผู้บัญชาการกองทัพแดงในการปลดปล่อยสหภาพโซเวียต จากการรุกรานของนาซีเยอรมนี ได้รับเหรียญรางวัลวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติสูงสุดของสหภาพโซเวียตถึง 4 ครั้ง
 

 
ที่มาของชื่อ “จตุรัสแดง” หรือ “Red Square” ไม่ได้มาจากเพราะสีของอาคารแถวนี้ หรือไม่ได้แสดงถึงลัทธิคอมมิวนิสต์นะคะ แต่มาจากภาษารัสเซีย “krasnaya” ซึ่งแปลว่าสวย หรือ สีแดง

จตุรัสแดงมีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่น้อยกว่าเครมลินนิดหน่อย คือในยุคที่เพราะเจ้าอีวานที่ 3 ทรงบูรณะเครมลินขึ้นมาใหม่ กำแพงเครมลินด้านที่ติดกับจตุรัสแดงมีความหนาเป็นพิเศษเนื่องจ่างเป็นจุดที่ไม่มีกำแพงธรรมชาติกั้นเหมือนด้านอื่นๆ และทรงรับสั่งให้เคลียร์พื้นที่นอกกำแพงฝั่งนี้เพื่อเป็นจุดตั้งปืน ในยุคแรกๆมีชื่อเรียกมาหลายชื่อ ผ่านการเปลี่ยนแปลงมามากมาย พื้นที่จุดนี้ ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ประกอบพิธีกรรมมากมาย ในปี 1990 จตุรัสแดงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ปัจจุบันเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมระดับชาติหลายงาน รวมทั้งงานแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ๆจากวงดังๆหลายวง เช่น Linkin Park, Shakira, Red Hot Chili Peppers< -------------- เดินเข้ามาแล้วมองย้อนกลับไป เห็นกำแพงเครมลินและ Nikolskaya (St Nicholas) tower  
 
State historic museum ส่วนโบสถ์ที่เห็นด้านหลังคือ Kazan Cathedral

 

 
ไม่มีภาพของจตุรัสโล่งๆมาให้ชม เนื่องจากพื้นที่ถูกกั้นเตรียมงาน International military music festival ที่จะจัดขึ้นต้นเดือน กย เห็นป้ายโฆษณาไว้ แต่ทำไมต้องรีบกั้นกันเป็นเดือนก็ไม่รู้ T_T เนื่องจากสมาชิกเราอยากเข้าห้องน้ำ เลยแวะมานี่ก่อนค่ะ ห้าง Gum (วิกิบอกว่าออกเสียง กูม-Goom) เป็นห้างที่เก่าแก่ มีมานานแล้ว ในอดีตเป็นที่จำหน่ายสินค้าของเมืองในยุคนั้น ปัจจุบันเป็นห้างหรูหรา ที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะมา
 

 
ไหนๆเข้ามาก็เดินชมนิดนึง ภายในจัดห้างดูหรูหรา มีของแบรนด์เนมขายมากมาย แต่ที่น่าแปลกใจคือมีโต๊ะตีปิงปองค่ะ ! มีหลายโต๊ะด้วย หนึ่งเข้าใจว่าคงมีแค่ช่วงนี้ค่ะ เค้าให้เล่นฟรีด้วยนะคะ ทีมเราเลยจัดไปครึ่ง ชม เหงื่อออกเลยค่ะ 😉 ไม่น่าเชื่อว่ามาเที่ยวแล้วจะได้ตีปิงปอง
 

 
เดินเข้าไปด้านในนิดหน่อย จุดนี้มีน้ำพุไหลเย็น คนเยอะมากๆ
 

 
มุมด้านนอกห้าง
 

 
ตรงข้ามห้าง Gum จะเห็น Lenin’s Mausoleum หรือสุสานของ วลาดิมีร์ เลนิน ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิส หัวหน้าพรรคบอลเชวิกที่ทำการปฏิวัติล้มล้างระบบกษัตริย์ของรัสเซียในปี พ.ศ. 2460 เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและเป็นเจ้าของแนวคิดส่วนใหญ่ในลัทธิเลนิน ศพของเลนินได้รับการอาบน้ำยาตั้งไว้ให้ประชาชนเคารพในสุสานที่จตุรัสหน้าวังเครมลินจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเกียรติอย่างสูงสุด น่าเสียดายที่เราเข้าไม่สามารถเข้าไปสุสานได้เนื่องจากมีการปิดพื้นมี่ มีเหล็กกั้น มีอะไรขวางเต็มไปหมดเลยค่ะ เข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆผ้านลูกกรงเอา ได้มุมแบบนี้มา
 

 
ไปต่อที่ไฮไลท์ของจตุรัสแดงเลยค่ะ St Basil’s cathedral อยู่ใกล้กันนิดเดียว แต่ต้องเดินอ้อมไปไกลเพราะเค้ากั้นพื้นที่ไว้ โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเมื่อมาเที่ยวมอสโค
 

 
สร้างโดยพระเจ้าอีวานที่ 4 หรือกษัตริย์อีวานผู้โหดร้าย เพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกลในปี ค.ศ. 1552 ผลจากชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้เป็นปึกแผ่น มหาวิหารออกแบบโดยสถาปนิกชื่อปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ออกแบบให้มีโดม 8 โดมล้อมรอบโดมที่ 9 ที่อยู่ตรงกลาง ทำให้อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณซึ่งรับอิทธิพลมาจากไบแซนไทน์(โดมทรงหัวหอม)กับสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ารัสเซียนกอธิก

พระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานามอีวานผู้โหดร้าย (Ivan The Terrible)
 

 
ด้านหน้าของมหาวิหารเป็นอนุสาวรีย์ทองสำริดเช้าชาย Dmitry Mikhaylovich Pozharsky และ Kuzma Minin ผู้นำทหารขับไล่กองทหารจาก Polish-Lithuanian Commonwealth ออกจากกรุงมอสโคว์ได้สำเร็จ
 

 
ดูมุมไวด์เบลอๆจากเลนส์ไวด์เพี้ยนๆของหนึ่งบ้าง เลนส์ไวด์หนึ่งเธอเอ๋อเหมือนเจ้าของ ไม่ยอมโฟกัสภาพ
 

 

 
มาถึงที่แล้ว ไม่พลาดเข้าชมภายในโบสถ์ ค่าเข้าชม 100/50 RUB (บุคคลธรรมดา/นักเรียน) เปิด 11:00-17:00 น ปิด วันอังคาร

เราใช้บัตรนักเรียน ลดเหลือ 50 RUB คุ้มมากๆ แต่ค่ากล้อง DSLR 160 RUB กล้อง compact ไม่ต้องเสียเงิน แต่ถึงกระนั้นก็รู้สึกว่าคุ้มค่ะ สวยมากๆ
 
เข้ามาเจอภาพของพระเจ้าอีวานที่4 และโมเดลของโบสถ์
 

 
ภายในตกแต่งงดงามมากๆ แต่ละโดมจะตกแต่งไม่เหมือนกัน และทางเชื่อมจะเป็นภาพลายผนังที่ลวดลายแปลกตา สวยงามจริงๆ
 

 

 

 

 

 
ชมกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ออกมาด้านนอกกันค่ะ เรารอจนฟ้าเปิดเพื่อถ่ายรูป ซึ่งโชคยังพอเข้าข้าง ได้เห็นฟ้าสีฟ้าตอน 1 ทุ่มพอดี 🙂
 

 
ปิดท้ายของวันด้วยดอกไม้สดใส หมดไป 1 วันเต็มๆสำหรับมอสโค ^_^
 

 
ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันค่ะ

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***