Opera Ganier
Opera Garnier หรือ Palais Garnier เป็น Opera House หรือเรียกแบบไทยเต็มยศคือ โรงอุปรากร ชื่อ Garnier นั้นเรียกตาม Charles Garnier สถาปนิกชาวฝรั่งเศสผูออกแบบนั่นเอง Garnier ออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศสนั้นยากนักสำหรับหนึ่ง ถ้าใครอยากรู้ว่าออกเสียงอย่างไรคลิ้กเข้าไปฟังได้ที่นี่ โรงละครโอเปราแห่งนี้สร้างในปลายศตวรรษที่ 18 มีที่นั่งทั้งหมด 1,979 ที่นั่ง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยเวอร์วังอะลังการที่สุดและแพงที่สุดในยุคนั้นและปัจจุบันก็ยังเปิดใช้อยู่
Opera Garnier เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปารีสที่หนึ่งชอบมากๆ เพราะอะไร…
1. เดินทางง่ายมาก เดินออกจากเมโทรปุ้บ เจอเลยไม่ต้องเดินไกล
2. สวยงามมากๆ สวยงามแค่ไหนตามไปชมในภาพได้ เห็นแล้วบ่งบอกถึงความมั่งคั่งของฝรั่งเศสในยุคนั้นได้ ว่ากันว่าเป็นโรงละครโอเปราที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของปารีสแม้จะได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนไอเฟลหรือลูฟ
3. สถานที่ไม่ใหญ่มาก เดินชมไม่นานก็ทั่ว
4. นักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเหมือนจุดท่องเที่ยวหลักจุดอื่นเช่นไอเฟล ลูฟ หรือแม้แต่โบสถ์ Notre Dame นั่นคือเราสามารถเที่ยวเดินชมสถานที่แห่งนี้อย่างสะดวกสบายใจ
5. อยู่ใกล้ Galleries Lafayette & Printemp ห้างดังที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินช้อปปิ้ง ใกล้แบบเดินจึ๊กเดียวถึง หลายคนบอกว่า เฮ่ย..ไม่ได้อยากช้อปปิ้งของแบรนด์เนม ไม่ช้อปของแบรนด์เนมก็ได้ค่ะ แต่ขอบอกว่า ภายใน Galleria Lafayette ตัวอาคารสวยมากแวะไปเก็บรูปก็ยังดี และนอกจากนี้ตึกที่เป็น gourmet เค้าของกินเยอะมากๆ มีทุกอย่างอร่อยๆที่นี่ บอกเลย
ข้อดีตั้งหลายประการขนาดนี้ ทำไมจะไม่แวะมาล่ะ..เนอะ ว่าแล้วก็ตามมาเที่ยวกันค่ะ
การเดินทาง
M3, M7, M8 – Opera Station
M7, M9 – Chausée d’Antin La Fayette
RER A – Auber station
ค่าเข้าชม สามารถซื้อได้ก่อนเข้าเลย
Self-Guided tour – คือเที่ยวเองไม่มีไกด์ให้ ราคา 11 ยูโร (2016) โดยซื้อหน้าประตูทางเข้าซึ่งจะเป็นตู้ซื้ออัตโนมัติ
Guided tour – ราคาจะสูงขึ้นมาและมีหลายเจ้าที่ขาย หาซื้อออนไลน์ แต่สามารถซื้อได้หน้าทางเข้าโดยจะมีเคาเตอร์จำหน่ายและจัดเป็นรอบๆ
Highlight
– The Grand Staircase
– The Grand Foyer
– The Auditorium
– Chandelier
ควรรู้ก่อนไปเที่ยว
1. โดยทั่วไปเปิดทุกวัน 10:00 – 17:00 หรือ 17:30 แล้วแต่ช่วงฤดู แต่เนื่องจากเนื่องจากโรงละครปัจจุบันยังเปิดใช้สำหรับการแสดงบัลเลต์และอาจมีอีเวนต์สำคัญบางงานจัดที่นี่ ดังนั้นควรเช็ควัน เวลา ก่อนไปเที่ยว สามารถเช็คได้ ที่นี่
2. สำหรับผู้ที่ใช้ pass แบบต่างๆ ค่าเข้าชมที่นี่รวมอยู่ใน Paris Pass แต่ ไม่รวมใน Museum pass
ตามหนึ่งไปเที่ยวเลยดีกว่า มาดูว่า Opera Garnier จะสวยงามอย่างที่เข้าร่ำลือมาหรือเปล่า
หนึ่งไปช่วงปลายเมษนนะคะ วันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากๆ ขึ้นเมโทรโดยไปลงสถานี Opera station ขึ้นมาจากสถานีเมโทรหันหลังปุ้บก็เจอเลยค่ะ
จริงๆแล้วด้านนี้เป็นด้านหลังค่ะ ถ้าจะซื้อบัตรเข้าชมต้องเดินอ้อมไปด้านหน้า รูปปั้นต่างๆที่เห็นล้วนแต่มีชื่อทั้งนั้นนะคะ ระหว่างเสาชั้นสองเป็นรูปปั้นของนักดนตรีชื่อดัง เช่น Beethoven Mozart
วันที่ไปมีนักดนตรีอิสระมาเล่นเปิดหมวกด้วย เล่นได้โปรมากๆ
เข้าไปชมด้านในกันค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จเดินเข้าไปเลย ไม่มีแผ่นพับหรือแผนที่ให้นะคะเพราะหนึ่งซื้อแบบเดินเที่ยวเอง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะสถานที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีจุดให้ชมไม่กี่จุด เดินยังไงก็ครบ ไม่หลงทางแน่นอน (ปล ด้านในค่อนข้างมือ หนึ่งปลื่น WB ไปมา รูปก็เดี๋ยวเหลือง เดี๋ยวแดงนะคะ ;))
ทางเดินก่อนถึง The Grand Staircase เป็นการอุ่นเครื่องก่อนด้วยความอะลังแบบเบาๆ ^_^
The Grand Staircase เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ บันไดที่ตรงก่อนจะแยกซ้าย ขวา สถาปิกที่ออกแบบคือคุณ Charles Garnier ตั้งใจออกแบบให้ขั้นบันนไดตรงนี้เหมือนโรงละครและผู้ที่มาเข้าชมละครโอเปรา (มักจะแต่งตัวกันเต็มที่) เป็นหนึ่งในนักแสดงด้วย บันได้จึงกล้างใหญ่ แถมแยกซ้าย ขวาเพื่อให้ผู้ที่มาสามารถมองเห็นกันได้ ตัวบันไดทำจากหินอ่อนสีขาวจากอตาลี
ลองเปลี่ยน WB เป็นสีร้อนๆ ดู ลองนึกจินตนาการว่ามียุคนั้นที่มีคนแต่งตัวชุดจัดเต็มมาชมโอเปรา น่าจะเหมือนในหนังที่เคยดูนะคะ ^_^
จาก The Grand Staircase เดินขุ้นมาจะถึงโถงเล็ก ก่อนถึง The Grand Foyer โถงตรงนี้จะมีระเบียงให้สามารถมองเห็น The Grand Staircase มุมบนด้วย
ไฮไลท์อีกจุด The Grand Foyer เป็นห้องที่สวยงามมากกกกก ราวกับเป็นพระราชวังเลยค่ะ เดิมเป็นห้องสำหรับวาดภาพ การตกแต่งทำให้หนึ่งคิดถึงโถงในพระราชวังแวซายเลย
ไปชมไฮไลท์อีกจุด The Auditorium หรือห้องการแสดงนั่นเอง เป็นห้องชมขนาดใหญ่มีที่นั่งเกือบ 2,000 ที่นั่งโดยที่นั่งถูกออกแบบให้มองเห็นเวทีได้
อีกหนึ่งไฮไลท์อยู่บนเพดานห้อง Auditorium นี่เองค่ะ นั่นคือ The Chandelier เป็นแชนเดอเลียร์ที่ทำจากบรอนซ์และประดับประดาด้วยคริสตัลน้ำนักมากถึง 7 ตัน!! หนักขนาดนี้ไปแขวยอยู่บนเพดานได้ยังไง..เค้าใช้ตัวถ่วงน้ำหนัก (Counterweight) หนึ่งอ่านเจอว่าเค้าต้องใช้ตัวถ่วงน้ำหนักหลายตัว และหนึ่งในนี้เคยแตกทะลุเพดานลงมาโดนท่านผู้ชมจนเสียชีวิตด้วย เรื่องราวนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจในบางฉากของ The Phantom of the Opera ด้วย (น่าจะเป็นฉากที่มีแชนเดอเลียหล่นลงมา จำได้ไหมคะ)
ดูจากรูปเหมือนเล็กนะคะ จริงๆแล้วใหญ่ค่ะ อยู่ตรงกลางกรอบภาพวาดสวยงาม
เดินชมไปเรื่อยๆ ส่วนของ Library-Museum of the Opera เป็นห้องสมุดเก่าแก่เกี่ยวกับโอเปรา แม้จะอยู่ใน Opera Garnier แต่ดูแลโดย Music Department of the National Library of France
ออกมาแล้วค่ะ มีรูปปั้น คิดว่าน่าจะเป็นบุคคลสำคัญของวงการดนตรีและละครโอเปรา แต่หนึ่งไม่รู้จัก แหะๆ
ก่อนออกเป็นห้องจำหน่ายของที่ระลึก ส่วนใหญ่เกี่ยวกับบัลเลต์และโอเปรา มีของฝากน่ารักๆ ด้วย
เป็นสถานที่ที่อยากแนะนำมากๆ ถ้ามาเที่ยวปารีสค่ะ เดินชมที่นี่เสร็จก็ไปช้อปปิ้งต่อที่ Galleries Lafayette หรือ Printemp ได้เลย 😉
รู้หรือไม่
* Opera Garnier ถือเป็นงานระดับมาสเตอร์พีชของสิ่งก่องสร้างยุคศตวรรษที่ 19 และใช้เงินมากมายมหาศาลในการสร้างคือประมาณ 36 ล้านฟรังค์ * The Phantom of the Opera นวนิยายคลาสสิคอันดด่งดัง ผลงานของนักเขียนชาวฝรั่งเศส Gaston Leroux โดยได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ของ Opera Garnier * แชนเดอเลียขนาดใหญ่น้ำหนักร่วม 7 ตันเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าบังเวทีสำหรับผู้ชมชั้น 4 ปัจจุบันถือเป็นไอคอนของโรงละครแห่งนี้ * Opera Garnier เป็นต้นแบบมีโรงละครและอาคารสำคัญๆหลายแห่งทั่วโลกเช่น Thomas Jefferson Building of the Library of Congress ใน Washington, D.C. และ The Hanoi Opera House iในเวียดนาม |
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
- August 5, 2016
- 2 Comments
- 2
- Paris
FUFY
August 10, 2016Chandelier น่ากลัวมาก กรี๊ดดดด
adrenalinerush
August 11, 2016อาราย ตอนไปเห็นถ่ายรูปอย่างเดียว ไม่เห็นจะกลัวเลย