Old town Nuremberg


มาเที่ยว Nuremberg ต่อนะคะ หลังจาก เที่ยว Nuremberg ตอนที่ 1 ไปแล้ว คุณไกด์กิติมศักดิ์ก็พาจ้ำๆๆ เดินเที่ยวต่อโดยไม่ยอมเสียเวลาเลยค่ะ บล็อกเอนทรีนี้จะพาเที่ยว old town ของ Nuremberg Smiley

ก่อนอื่นมารู้จัก Old town กันคร่าวๆก่อนนะคะ เมืองเก่าแห่งนี้มีอายุยาวนาน มีหลักฐานการบันทึกตั้งแต่ปี คศ 1300 โดยมีกำแพงเมืองความยาวกว่า 5 กม รอบล้อมตัวเมืองเก่าไว้ ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆหลายจุด ถ้าเดินทางมาเที่ยวเองทางรถไฟ ก็สามารถเดินเข้ามาในเมืองเก่าได้ทางทิศใต้ได้เลย และสามารถเดินเที่ยวได้เลยสบายๆ

 
 


 
 
credit ภาพจาก about.com

จุดหมายต่อไปคือไปชมบ้านของศิลปินท่านนี้ค่ะ เรียกศิลปินคงไม่ผิดนะคะ Albrecht Durer เป็นจิตกรและนักคณิตศาสตร์ที่โด่งดัง มีผลงานมากมาย มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับศิลปินท่านนี้เมื่องครั้งเดินทางไปอิตาลีและได้พบกับ Michelangelo ในผับ เค้าได้วาดรูปผีเสื้อบนแก้วเครื่องดื่มและวาดเหมือนมากจน Michelangelo ใช้มือปัดเพราะคิดว่าเป็นผีเสื้อจริง

 
 

 
 

จากรูปปั้นเดินไปไม่ไกลก็ถึงเวิ้งที่เป็นบ้านของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้แล้วค่ะ จุดนี้เป็นจุดที่มีกรุ้ปนักท่องเที่ยวมาอยู่ไม่ขาดสาย มีป้อมเมืองเก่าและหอคอยเป็นแบล็คกราวน์
 
 

 
 

มาสะดุดตากับเจ้ากระต่ายตัวนี้ค่ะ หนึ่งสงสัยว่าทำไมต้องเป็นกระต่าย ถามคุณไกด์ได้คำตอบว่า Albrecht Durer มีผลงานภาพวาดสีน้ำรูปกระต่าย ซึ่งคงโด่งดัง ศิลปินยุคใหม่จึงทำรูปปั้นกระต่ายตัวนี้ขึ้นโดยมีรายละเอียดที่ดูเกินจริงหลายอย่าง

 



 
 

อยู่ตรงนี้เองค่ะ บ้านของท่านศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ชมจากข้างนอกไกลๆ บ้านเป็นแบบยุโรปโบราณคือมีตัวไม้แบบนี้ เรียกไม่ถูกแหะๆ ภาษาปะกิดเรียก timber-frame house ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานของ Albrecht เองและศิลปินท่านอื่น หนึ่งไม่ได้เข้าไปชมค่ะ เวลามีจำกัด
 


 
 

เนื่องจากเป็นเวลาเกือบบ่ายโมงแล้ว ป้าอิ๋วคิดว่าเราควรจะทานอาหารเที่ยงกันให้เรียบร้อยก่อนเที่ยว เราเลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าร้านอาหารใกล้ๆนี่แหละ อยู่ข้างบ้านท่านศิลปินเลย Smiley

 
 
หนึ่งได้เรียนรู้เกร้ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับมารยาทการรับประทานอาหารบนโต๊ะอาหารของคนเยอรมันจากการเดินทางครั้งนี้ด้วย ซึ่งแน่นอนค่ะแตกต่างจากของคนไทย คนเยอรมันจะไม่มีการแชร์อาหาร จานของใครก็ของใคร รับผิดชอบของตัวเอง ไม่รับประทานเหลือและไม่ลุกจากโต๊ะอาหารถ้ายังมีคนในโต๊ะทานยังไม่เสร็จ นอกจากนี้ร้านอาหารจะไม่เสิร์ฟจานเปล่าสำหรับคนที่ไม่สั่งอาหารเพื่อมาแบ่งหรือแชร์จานจากเพื่อนด้วยค่ะ ถ้าเดินทางเที่ยวคนเดียวคงไม่มีโอกาสได้รู้นะคะ

มาเยอรมันนอกจากไส้กรอกแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ ขาหมูเยอรมันนั่นเอง พอหนึ่งได้ทราบว่าต้องจัดการอาหารให้หมดก็เกิดอาการเกรงใจ เนื่องจากหนึ่งยังอิ่มไส้กรอกมื้อเช้าที่จัดมาเต็มที่ บวกกับอาหารที่นี่จานใหญ่โต เลยขอเลี่ยงไปสั่งสลัดแทน แล้วตกลงกับป้าอิ๋วว่าหนึ่งจะช่วยทานขาหมูเยอรมัน

มาแล้วค่าาา ขาหมูเยอรมัน ถ้าหนึ่งไม่ได้กินจะเสียใจมาก เพราะว่ามันอร่อยมากกกกกก ขาหมูกรอบนอกจริงๆ แต่เนื้อในนุ่มมม รสชาติกลมกล่อม อร่อยไม่แห้งเหมือนที่กินที่เมืองไทย ขาหมูเยอรมัน 2 จานในภาพไม่ใช่จานเดียวกันนะคะ เป็นขาหมูจากคนละส่วน รสชาติเค้าต่างกันค่ะ แต่อร่อยเหมือนกัน หนึ่งได้ชิมทั้ง 2 จานเลย นิดนึงก็อร่อยค่า ชอบสุดๆ

 
 

 
 

หลังจากท้องอิ่มเรามาเดินกันต่อ เดินออกมาหน้าร้าน เจอเวิ้งเดิมแต่มองอีกมุมนะคะ หนึ่งชอบบ่อน้ำ เห็นแล้วคิดถึง ตจว บ้านเราในอดีต แถวบ้านหนึ่งเรียก บ่อสร้างค่า อิอิ

 
 

 


มุ่งหน้าไป Nuremberg Castle เราเดินเลียบตามแนวของกำแพงเมืองซึ่งเป้นหินทรายแบบนี้

 


 

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกำแพงเมืองด้วยค่ะ เป็นเรื่องของโจร นามว่า

Eppelein von Gailingen ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ คุณโจรสมองใสขอว่าก่อนตายขอขี่ม้าตัวโปรดก่อนสัก 1 นาทีก็ยังดี และคำขอก็ได้รับอนุญาตจากทางการ เนื่องจากการแขวนขอจัดขึ้นในปราสาท มีกำแพงกันแข็งแรง ใครเลยจะคิดว่าฮีจะหนีไปได้ แต่พอคุณ Eppelein ได้นั่งบนหลังม้าก็ควบม้าวิ่งสุดแรงเกิดแล้วกระโดดข้ามกำแพงเมืองออกไปได้ หนีการประหารชีวิตไปได้อย่างน่าอ้ศจรรย์ กลายเป็นตำนานเล่าขานและบนกำแพงเมืองยังมีรอยเกือกม้าอยู่ คุณไกด์กิติมศักด์พยายามหารอยเกือกม้าบนกำแพงให้ได้ แต่หนึ่งหารูปไม่เจอแล้วค่ะ สงสัยเผลอลบไป


 
 

 
 

ดอกไม้ ใบหญ้า ช่วยลดความแข็งกระด้างของเสาหินได้ดีจริงๆ พักสายตาด้วยค่ะ
 
 

 
 

มาถึงแล้วค่ะ ปราสาท ขอยืมภาพจาก Wikipedia มาให้ชมก่อนจะเข้าไปชมด้านในนะคะ เป็นภาพจากอีกมุมให้เห็นปราสาทและ Tower สำคัญๆ

 
 


 
 

credit ภาพจาก wikipedia.com

ตัวปราสาทหินทรายสีแดงมีกำแพงเมืองความยาวกว่า 5 กม ล้อมรอบ และมีประตูทั้งหมด 5 ประตู สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประสาทถูกทิ้งระเบิดได้รับความเสียหาย เหลือ Deep Well และ Sinwell Tower ที่ไม่ถูกทำลาย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการซ่อมแซมปราสาทขึ้นมาใหม่ดังที่เห็นปัจจุบัน โดย Luginsland ปัจจุบันเป็น Youth Hostel

จากภาพ เราเข้ามาตรงกลางเลยค่ะ tower ขนาดใหญ่ขวามือคือ Sinwell Tower ด้านหน้าในภาพคือ Heathen Tower และ Emperor’s castle ส่วนบ้านไม้หลังเล็กๆตรงกลางคือ Deep Well

 
 


 
 

ดูมุมสูงขึ้นมานิดนึงบ้าง ทริปนี้ใช้เลนส์ไวด์เยอะมากๆ เลนส์ไวด์หนึ่งไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ เดี๋ยวชัดเดี๋ยวเบลอ (โทษเลนส์ อิอิ)

 
 

 
 

พุ่งมาจุดชมวิวด้านหน้าก่อนเลยค่ะ ย้อนเแสงนิดๆ แต่พอได้นะคะ เป็นมุมเห็นเมืองเก่าจากมุมสูง บ้านหลังคาสีแดงๆดูแล้วสวยดีค่ะ ป้าอิ๋วบอกว่า วิวหน้าหนาวสวยงามไปอีกแบบนะคะ

มุมซ้าย
 


 
 

มุมขวาบ้าง มุมนี้ย้อนแสงเยอะหน่อย แต่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ

 
 


 
 

กลับมาที่ Deep Well บ้านหลังน้อยตั้งอยู่กลางลานแห่งนี้มีความสำคัญนะคะ เพราะเป็นจุดควบคุมระบบน้ำของปราสาท

 
 


 
 

เดินเข้ามาใน Emperor’s castle มองกลับไปเห็น Deep Well และ
Sinwell ตั้งตระหง่าน ดูไกลๆแบบนี้ดูเหมือนไม่ใหญ่มากนะคะ แต่จริงๆอะลังการมากๆ Sinwell แปลว่ากลม เป็นหอสังเกตการณ์แต่ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวของเมืองแต่หนึ่งไม่ได้ขึ้นไปดูค่ะ แม้ป้าอิ๋วบอกว่าจะรอด้านล่าง อิอิ เหตุผลเพราะย้อนแสงแล้วนั่นเอง ชมจากด้านล่างหนึ่งว่าก้สวยแล้วนะ Smiley

 


 
 

เราเดินสำรวจสถานที่แบบเร็วๆค่ะ เดินไปทางไหนก็เห็นแต่ Sinwell Tower

 
 

 
 

ดอกไม้สดชื่นๆ วันอากาศดี แดดแรงมากกกค่ะ

 
 

 
 

ปิดท้ายการเที่ยวปราสาทด้วย Luginsland ที่ปัจจุบันเป็น Youth Hostel ตั้งอยู่ทำเลทองมากๆค่ะ ติดปราสาทนิดเดียว มองในมุมนักท่องเที่ยวราคาประหยัดแบบหนึ่งนะคะ แต่มีข้อเสียคือ ถ้าใช้กระเป๋าลากมันเป็นความลำบากมากๆที่จะลากกระเป๋าในถนนแบบเมืองโบราณมีอิฐวางเป็นล็อกๆแบบนี้
 

 
 

เดินมาฝั่งด้านตรงข้ามกับปราสาท คลองเล็กๆที่เห็นแยกมาจากแม่น้ำ Pegnitz
 
 

 
 

เดินลัดเลาะมาถึงจุดนี้ สะพานโบราณ ถ้าหนึ่งจำไม่ผิดเป็นคุก ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคงสวยมากๆ

 
 

 


เดินลัดเลาะตามหลังไกด์ไปเรื่อยๆค่ะ ต้นสะพานด้านหน้าคุณไกด์บอกว่าเคยเป็นคล้ายๆโรงฆ่าสัตว์ คงชำแหละกันข้างแม่น้ำทำให้แม่น้ำช่วงนี้เป็นสีแดงจากเลือดสัตว์ที่ถูกฆ่า ฟังดูน่ากลัวจังเลยค่ะSmiley



เดินมาถึงต้นสะพานมีรูปปั้นน้องวัวแบบนี้ ปล สตาบัคมีทุกที่ในโลกจริงๆ อิอิ


 
 

จุดนี้เป็นจุดสำคัญอีกจุดค่ะ Heilig-Geist-Spital โรงพยาบาลเก่าแก่ทีติดแม่น้ำ Pegnitz
 
 


 
 

อีกซักมุมนะคะ
 
 

 
 

โบสถ์ St Lorenz อยู่ทางทิศใต้ของเมืองเก่า ถูกทำลายช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่

 
 


 
 

ภายในสวยงาม

 
 

 
 

มาจบที่รูปปั้น Peter Henlein ผู้คิดค้นนาฬิกาแบบพกพาเรือนแรกของโลก

 
 


 
 

เป็นการเดินเที่ยวในเวลาจำกัด แต่ได้ครบจริงๆค่ะ ต้องขอขอบคุณป้าอิ๋ว และคุณครู สำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นครั้งนี้ด้วยนะคะ ที่นอนสบาย อาหารอร่อย เมืองสวยจริงๆค่ะ

ทิ้งท้ายด้วยดอกไม้สีม่วงๆ

 
 

 
 

ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันค่ะ Smiley

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

Hiedelberg
Heidelberg ตอน old town & Heidelberg Castle
July 01, 2015
Hiedelberg ตอน Philosopher walk
Hiedelberg ตอน Philosopher walk
July 01, 2015
Nuremberg
Nuremberg เที่ยวเมืองสวย
July 01, 2015
Neuschwanstein castle
Neuschwanstein castle ต้นฉบับปราสาทในเทพนิยาย
July 01, 2015

1 Comments

FUFY
Reply July 9, 2016

^_^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *