บล็อกนี้หนึ่งมีประสบการณ์ครั้งแรกเกี่ยวกับการเดินทางและท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟัง ลองนั่งนึกๆจำได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ มีทั้งเปิ่นเป๋อตามประสาคนเพิ่งเคย และความประทับใจและไม่ประทับใจมากมาย แต่หนึ่งเลือกเล่าความประทับใจดีกว่า ความไม่ประทับใจอย่าไปพูดถึงมันเลยเนอะ มาดูว่า My first time, my first impression ของหนึ่งมีเนื่องราวอะไรบ้าง

“เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก”

เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกเนี่ยเป็นอะไรที่ตื่นเต้ลลลแบบสุดกำลัง (ขอไม่นับประเทศลาวที่ใกล้แค่นั่งเรือข้ามไปจากบ้านเกิดแถมเว้าภาษาที่เข้าใจกันได้) ประเทศที่หนึ่งไปไกลมากกกก ต้องนั่งเครื่องข้ามหาสมุทร ข้ามทวีปเลยทีเดียว แถมวัฒธรรมต่างจากเราอย่างสิ้นเชิง นับๆๆดู อุย ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้วแต่ยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลย ประเทศที่เดินทางไปคือ แถ่น แทน แท้น “สหรัฐอเมริกา” ฮูเร้….หนึ่งไปทำอะไรที่เมกา ติ๊กตอก ติ๊กตอก เหตุผลที(อ้าง)ตอนไปเพื่อการศึกษาล้วนๆ ไม่ใช่ไปเที่ยวนะคะ คริๆ หนึ่งไปช่วงเวลาเรียนต่อเฉพาะด้านที่เรียกว่าช่วง “เดือน elective” ซึ่งเป็นช่วงอิสระที่เราเลือกได้ว่าอยากไปดูงานที่ไหน โดยทั่วไปก็วนกันอยู่แถวจุฬา ศิริราช แต่เรา (หนึ่งและเพื่อน)เปรี้ยวมากเลือกไปเมกา…ทำไมต้องเหมือนใคร

เมืองที่เราไปคือ Pennsylvania ไป elective ที่ University of Pennsilvania เราไปกันได้ง่ายเพราะลูกพี่ลูกน้องเพื่อนหนึ่งเรียนที่นั่นและคอยติดต่อทางนั้นให้ เราแค่ “เตรียมตัวให้พร้อม” วางแผนเก็บเงินอยู่หลายเดือน หาคนทำงานแทน สั่งการพี่น้องไว้ว่าจะไม่อยู่ 1 เดือนนะจ้ะ ยุคนั้นยังติดต่อกันผ่านอีเมลอยู่เลย ตื่นเต้นมากตอนขอวีซ่าเพราะเมาท์กันว่าขอยากขอเย็น จัดกระเป๋าก็จัดอยู่เป็นเดือนไม่เสร็จเสียทีเพราะมัวแต่เวิ่นเว้อวางแผนว่าจะเอาเสื้อผ้าไปกี่ตัว จะจัดให้อะไรอยู่บนอยู่ล่างจะได้หยิบใช้ได้ง่าย เป็นเอามากเนอะ อิอิ

เป็นครั้งแรกที่ประทับใจและตื่นตาตื่นใจมากๆ และมีประสบการณ์ครั้งแรกหลายอย่างตามมาด้วย เป็น 1 เดือนที่ปลื้มปริ่ม ได้ไปเห็นประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาแล้วเทรน Radiologist ได้ไปเที่ยวหลายๆที่ ช้อปกระจายที่ outlets ได้กิน Krispy Kreme แบบร้อนๆครั้งแรก..อร่อยจุง ลองอาหารเอธิโอเปียครั้งแรก..อืมแปลกดีแฮะ ไปเก็บแอ้ปเปิ้ลที่สวนครั้งแรก ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีครั้งแรก เราอยู่กันแบบสบายๆเพราะมีเพื่อนที่ไปเรียนที่นู่นและลูกพี่ลูกน้องเพื่อนที่เป็นอเมริกันคอยเป็นพี่เลี้ยง ก่อนกลับก็แวะเที่ยว NYC & Washington DC ด้วย บอกได้คำเดียวว่าสุดคุ้ม เป็น first impression ที่ดีต่อประเทศนี้ด้วย

“เที่ยวต่างประเทศเองครั้งแรก”

ครั้งแรกไปเพื่อการศึกษาแถมมีพี่เลี้ยงอยู่อย่างสบาย มาคราวนี้เป็นการเดินทางเพื่อไปเที่ยวโดยเฉพาะและไปกันเองกับทริปเบาๆ เราสามสี่คน ด้วยค่าทริป 5xxx บาท 3 คืน 4 วัน “นครวัด” ทริปเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ของปี 2008 เป็นการรวมตัวกันของ fellows จิตตก 3 คนที่กำลังกระอักพิษการเรียนเลยตัดสินใจ off เวรทั้งหมด หาคนทำงานแทนแล้วออกไปกรี้ดเสียงดังๆที่อื่น เราเลือกนครวัดเพราะใกล้ เดินทางและเที่ยวง่าย ราคาไม่แพง หนึ่งไม่ได้ทำแผนเองแต่แผนเราไม่มีอะไรมากเพราะไม่มีแผน ฮ่าๆ มีแค่หนังสือเที่ยวนครวัด 2 เล่มแล้วไปกันเลย ที่พักยังไม่จอง ไปหาเอาดาบหน้า เดินทางด้วยรถบ่อนไปลงที่อรัญประเทศ แต่ต้องแวะเข้าบ่อนไปเล่นนิดนึง เป็นครั้งแรกที่ได้เดินเข้าบ่อนมันแอบมีรัศมีความน่ากลัวนะ เราเล่นพอหอมปากหอมคอก็ออกมาเข้าคิวทำ visa on arrival ที่ด่านปอยเปต แล้วเช่าแทกซี่ไปเสียมเรียบด้วยราคา 40 USD ตอนนั้นถนนหนทางขรุขระเป็นโลกพระจันทร์ นั่งรถกันกระเด้งกระดอนมดลูกแทบหย่อน ฮ่า..ตกหลุมทีลุงคนขับซี้ดปากที แกบอกว่าเป็นรถเพื่อนยืมมาขับอีกที คงหวาดเสียวรถพัง กว่าจะขับถึงเสียมเรียบสะบักสะบอมทั้งคนทั้งรถ วันรุ่งขึ้นก็เหมารถเครื่องเที่ยวเลย สนุก มันส์ และประหยัด ปลื้มปริ่มอีกแระ

“วางแผนเที่ยวเองครั้งแรก”

หลังจากเป็นลูกทัวร์เป็ดน้อยคอยเดินตามแล้วเกิดติดใจการเที่ยวเอง ตานี้เกิดมีความมั่นใจขึ้นมา เที่ยวเองก็ไม่ยากแฮะ อย่ากระนั้นเลยวางแผนเองเลยละกัน ว่าแล้วก็จัดเลยประเทศที่สุดแสนจะปลอดภัย “ญี่ปุ่น” ไปกับเพื่อนอีกคน เที่ยวเส้นทางคลาสสิค “โตเกียว เกียวโต ฮะโกะเนะ นารา โอซากา” แบ่งหน้าที่กันวางแผนและจองที่พัก หนึ่งไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งก็สมใจ กำลังแดงถึงขีดสุด อากาศหนาวแต่พอทนไหวแต่พระอาทิตย์ตกดินเร็วไปหน่อย เราเลยกลับที่พักเร็ว นอนเร็ว ตื่นเร็ว กลับมาหน้าตาผ่องใสเพราะกินอิ่มอยู่สบาย แหงล่ะนอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม! เป็นทริปชิลๆ สบายๆและอร่อย ประทับใจในผู้คน ความมีวินัย วัฒนธรรมและอาหารเค้าด้วย ได้แช่ออนเซนครั้งแรก ได้ทานสตรอเบอร์รี่ที่อร่อยมากเป็นครั้งแรก ทานซูชิต้นฉบับที่อร่อยสุดๆ และได้บินกลับเมืองไทยโดยไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา เป็นช่วงความวุ่นวายทางการเมืองพอดิบพอดี ประทับใจยากจะลืมเจงๆ

“เห็นหิมะครั้งแรก”

จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เลย แหม ภูมิลำเนาอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเราย่อมตื่นเต้นที่ได้สัมผัสอากาศหนาวๆ หิมะขาวๆ อยากเล่นปั้นหิมะเป็น Snowman อยากเล่นปาหิมะเหมือนหนังในทีวี หิมะสีขาวปุกปุย ดูโรแมนติกจะตายไป พอได้มาเห็นหิมะครั้งแรก กรี้ดดดดดด ตื่นเต้ลลลล ทริปนี้เป็นทริปอเมริกาใต้ เราไปช่วง มิ.ย-ก.ค ซึ่งเป็นหน้าหนาวของเค้า หิมะสูงๆที่เห็นในรูปคือหิมะข้างทางระหว่างเดินทางกลับที่พักจาก Moreno Glacier ประเทศอาร์เจนตินา หนึ่งขอให้จอดรถเพราะเกิดอาการ “ลาวตื่นหิมะ” ฮ่าๆๆ ครือว่าหิมะมันสูงน่าเล่นมากๆ เลยขอลงไปวิ่งเล่นแป้บนึง เพื่อนในทริปก็สงสาร ช่วยสงเคราะห์คนไม่เคยเห็นหิมะด้วยการนั่งรอบนรถ…น่า มีคนลงมาเล่นด้วยเป็นเพื่อนอยู่นะ เฮฮาปาจิงโกะตามประสา เห็นใส่เสื้อบางๆแบบนั้นอากาศหนาวนะค้า แต่ศรีทนด้ายยยยย

ทริปที่เอามาเล่าสู่กันฟังนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่ๆกัน หนึ่งยังกลับไปดูรูปอยู่บ่อยครั้ง ดูไปนั่งยิ้มไป ครั้งแรกอารมณ์มันเต็มที่จริงๆ เพราะครั้งต่อๆมาความรู้สึกจะเริ่มเฉยๆแล้ว เดี๋ยวนี้จัดกระเป๋าเดินทาง 1 คืนก่อนเดินทางตลอดๆๆ เลือกไม่ไปเที่ยวหน้าหนาวเพราะไม่อยากไปเจอหิมะเว้นแต่จะไปทำกิจกรรมอื่นในหน้าหนาว…ซะงั้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังจำความรู้สึกประทับครั้งแรกได้อยู่เสมอ และยังมีประสบการณ์ครั้งแรกกับหลายๆอย่างในอีกหลายๆทริปที่ไม่ได้กล่าวถึงในบล็อกนี้ มันเป็นเสน่ห์ของการออกเดินทางท่องเที่ยว เห็นด้วยไหมคะ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่า