Lofoten III


อิ่มอกอิ่มใจปลื้มปริ่มกับการบีนเขา Reinebringen จาก บล็อกเอ็นทรีก่อนไปแล้ว ก็มาถึงวันที่ 3 วันสุดท้ายที่ Lofoten ของเรา วันนี้แดดดีมากกกต่อเนื่องมาจากตอนบ่ายเมื่อวาน (ให้มันได้อย่างนี้สิ) แสงพระอาทิตย์เที่ยงคืนแยงตาจนนอนกันแทบไม่ได้ต้องหาผ้ามาปิดตา จริงๆเรามาช่วงเวลาพระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วยนะคะ แต่สมาชิกในทริปไม่มีใครรอชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนกันหรอกเพราะแดดออกจนถึงห้าทุ่มก็เพียงพอสำหรับเราแล้ว(จะออกไปรับแสงตอนเที่ยงคืนเพิ่มทำไม) ความจริงอีกอย่างคือเราต้องรีบพักผ่อนก่อนออกเดินทาง หนึ่งต้องขับรถและเรามีแผนออกกันตั้งแต่เช้า ดังนั้นพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เราสัมผัสคือแสงแดดที่สาดเข้ามาในห้องนอนจนต้องใช้ผ้าปิดตนอนถึงจะหลับนั่นเอง

ตอนที่หนึ่งตื่นรู้สึกได้เลยว่าอากาศดี๊ดี และพอลุกขึ้นเดินก้าวแรกก็รู้ได้เลยว่า “ปวดขามากกกก” ผลมาจากการปีนเขาเมื่อวานนั่นเอง T_T เดินๆก็ว่าปวดแระ ตอนนั่งยิ่งทรมานสุดๆเพราะปวดมากตรงต้นขาด้านหน้านั่นเอง แต่งานนี้เราเตรียมพร้อม ขนยามากันเพียบค่ะทั้งยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด จัดเต็มไปเล้ย จะทนปวดทำไมเนอะอัดยาเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย แผนเราคือออกจากที่พักไม่เกิน 8 โมงเช้าแล้วขับรถยาวไป Tromso คืนรถแล้วบินไป Bergen ใช้เวลาขับรถทั้งหมด 7 ชั่วโมง! เป็นการขับรถที่ยาวนานและบีบหัวใจมากค่ะ มีโอกาสแวะข้างทางนิดหน่อยหน่อยเองแถมมีเรื่องตื่นเต้นต้องลุ้นจนทำให้เกือบตกเครื่องด้วย :p

เก็บของออกจากโรงแรม การเช็คเอาท์คือการทิ้งกุญแจไว้นั่นเอง ง่ายมากๆ แวะถ่ายรูปเมือง Hamnoy กับหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นจุดถ่ายรูปดังอีกจุดของ Lofoten อยู่หลังที่พักเราเองค่ะ
 
 
DSC_0883
 
กับหนุ่มๆในทริป ใครหล่อที่สุดโหวตได้นะคะ 😉
 
 

DSC_0886
 
 

DSC_0888
 
 
แวะเข้าห้องน้ำระหว่างทางซักหน่อย
 
 

 
 

 
 
จากนั้นยิงยาวเลยค่ะ ดูอากาศสิ ดี๊ดี (วันกลับ)
 
 

 
 

 
 
ปิดท้าย Lofoten แบบหลากหลายอารมณ์ค่ะ ทั้งสวยงาม ประทับใจ ตื่นเต้น ลุ้น และเหนื่อย การขับรถยาวๆ 7 ชม ยาวนานจริงๆยิ่งต้องทำภายในเวลาที่จำกัดยิ่งบีบหัวใจ แต่ในที่สุดเราก็ไปขึ้นเครื่องทันแบบเส้นยาแดง ตอนท้ายของบล็อกหนึ่งอยากขอแนะนำเส้นทางการเดินทางมาเที่ยว Lofoten แบบสบายๆไม่ขับรถยาวๆเหมือนทริปเรา

ก่อนไปถึงการเดินทางขอแนะนำที่พักของเรานิดนึงค่ะ เป็นอีกที่พักที่ประทับใจมากในทริปนี้
“Toppøy Rorbuer” อยู่ใกล้ๆเมือง Hamnøy/Reine
คำว่า Rorbeur คือบ้านชาวประมงที่ตอนหลังนำมาดัดแปลงเป็นที่พักให้กับนักท่องเที่ยว หลายแห่งเป็นบ้านชาวประมงเดิมๆแต่อีกหลายแห่งสร้างขึ้นมาใหม่

ที่พักเราติดถนนและติดทะเลสาบด้วย เลี้ยวรถเข้าไปจอดบริเวณที่พัก ทำไมช่างเงียบงัน Reception อยู่ไหน? ลงไปเดินๆส่องๆ เห็นมีกระดาษแปะไว้ที่ประตูห้องพักหลายห้อง เข้าไปอ่านดูถึงได้ร้องอ๋อ Reception อยู่อีกจุดขับรถไปประมาณ 700 เมตร ขับรถไปถึงเจอคุณป้าท่าทางใจดียืนยิ้มรอที่โซนพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาของแกเอง เช็คอิน จ่ายเงิน ขอแผนที่เสร็จคุณป้าให้กุญแจห้องพักมาพร้อมกับบอกว่ามีอะไรมาหาแกได้ตลอดนะ โซนนี้แกก็มีห้องพักและร้านอาหารที่ต้องดูแล (คุณป้าแอบรวยนะเนี่ย)

เราจะพักที่นี้กันสองคืนค่ะ

Address: Toppøy
Reine, 8390, Norway
Phone: +4790035419

ค่าที่พัก 2 คืน รวมภาษี 8% = 3400 NOK

มาห้องพักกันค่ะ ข้างนอกดูธรรมดามากๆพอเปิดประตูห้องเข้าไปร้องว้าวกันทุกคน
 
 

 
 
ข้างในเป็นไม้สนสีอบอุ่น จริงๆสามารถนอนได้ 7 คนเพราะมี 7 เตียง ห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำหนึ่งและห้องครัว + ห้องนั่งเล่น อากาศหนาวมากวันที่เราเช็คอิน ต้องเปิดฮีทเตอร์
 
 

 
 
รูปนี้ถ่ายตอน 4 ทุ่มนะคะ แม้อากาศจะหมองแต่ก็ไม่มืดลงเลย
 
 

 
 
ห้องนอนเล็กที่มืดกว่าห้องใหญ่ แต่หนึ่งชอบมากเพราะแสงไม่แยงตา หลับสนิทดี
 
 

 
 
ห้องครัวมีเตาอบ ไมโครเวฟ เตาแก้สปรุงอาหาร ถ้วยชามอุปกรณ์ทำครัวครบ มีเครื่องต้มกาแฟด้วย ดีใจกันมากมีหม้อต้มมาม่ากันแล้ว อิ้ววว
 
 

 
 
ห้องนั่งเล่น ห้องไม่มืดหรอกค่ะแต่เปิดโคมไฟเพื่อความเก๋ไก๋ 😉
 
 

 
 
คุณป้าไม่มีทีวีให้แต่มีสิ่งนี้แทน ฟังเพลงเพราะๆจากคลื่นวิทยุเค้ามีช่องเพลงภาษาอังกฤษเพราะๆ คือฟินมากค่ะ ณ จุดนั้น ปล. รูปนี้ถ่ายตอน 5 ทุ่มนะคะ
 
 

 
 
มีระเบียงด้วยล่ะ ออกไประเบียงได้วิวนี้ เงียบสงบ ณ 5 ทุ่ม ชิลลลล (หนาวเย็น) มากกก


 
 
เอารูปช่วงแดดออกมาให้ชมบ้าง คนละอารมณ์เลย บ้านสีแดงคือห้องพักเรา
 
 

 
 
ระเบียงบ้านวันอากาศดี
 
 

 
 
ส่องข้างบ้าน คือมีต้นหญ้างอกบนหลังคา มีใครทราบไหมคะว่าเพื่ออะไร เห็นอยู่เรื่อยๆที่นอร์เวย์
 
 

 
 
ส่องบ้านข้างๆมั่ง
 
 

 
 
สรุปว่าดีงามค่ะ ถ้าใครมีแผนจะไปแนะนำนำนะคะ
 
 
***ข้อแนะนำเรื่องการเดินทางไป Lofoten***

Lofoten สามารถเดินทางให้ง่ายและสะดวกกว่าการขับรถแบบเราค่ะ อยากแนะนำให้ไปที่ Bodo ก่อน จาก Bodo สามารถเดินทางได้หลายทาง แต่ที่นิยมกันคือ

1. บิน ตอนนี้มีสายการบินเดียวเท่านั้นที่บินไป Lofoten คือ wideroe.com
2. นั่งเฟอร์รี ซึ่งมี 2 สายให้เลือกคือ
Bodø – Moskenes เป็นเฟอร์รีหลักที่จะไป Lofoten และสามารถนำรถขึ้นเฟอร์รี่ได้ www.torghattennord.no/english/default.aspx แนะนำให้เช็คตารางเวลาในเวบไซต์ก่อน ถ้าไปช่วง high season นักท่องเที่ยวจะเยอะเพราะเป็นเส้นทางเดินทางที่คนนิยม ควรจองล่วงหน้านะคะ ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชมครึ่ง
Bodø – Stamsund/Svolvær โดย Hurtigruten (www.hurtigruten.com) ใช้เวลาประมาณ 4 ชม แต่ Stamsund/Svolvær อยู่เหนือขึ้นไปจาก Moskenes นอกจากนี้รอบต่อวันน้อยกว่าเฟอร์รีแรกและราคาสูงกว่า

สำหรับรถเช่าสามารถมาหาได้ที่ Lofoten หรือจะนั่งบัสเที่ยวก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าขับรถเที่ยวสะดวกกว่าเยอะ ท่าเรือที่ Bodo อยู่ที่เดียวกันทั้งสองสายใกล้ information center ในเมือง Bodo
 
 

credit ภาพจาก http://www.visitnorway.com
 
 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

กินอะไรอร่อยที่ Norway
August 31, 2015
Alesund-Geiranger
August 31, 2015
Bergen
Bergen & Flam
August 23, 2015
Reine, Lofoten
Lofoten II
August 22, 2015
eggum, norway
Lofoten I
August 14, 2015
Tromso
Tromso
August 14, 2015
Norway as I see it
July 31, 2015
Road trip Norway
Road trip Norway
July 29, 2015
แผนเที่ยว Norway
แผนเที่ยว Norway 2015
July 29, 2015

1 Comments

FUFY
Reply May 31, 2016

ประสบการณ์ขับรถหัวใจวายครั้งหนึ้งในชีวิต ^_^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Leave a Reply to FUFY Cancel