Lofoten III
ตอนที่หนึ่งตื่นรู้สึกได้เลยว่าอากาศดี๊ดี และพอลุกขึ้นเดินก้าวแรกก็รู้ได้เลยว่า “ปวดขามากกกก” ผลมาจากการปีนเขาเมื่อวานนั่นเอง T_T เดินๆก็ว่าปวดแระ ตอนนั่งยิ่งทรมานสุดๆเพราะปวดมากตรงต้นขาด้านหน้านั่นเอง แต่งานนี้เราเตรียมพร้อม ขนยามากันเพียบค่ะทั้งยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด จัดเต็มไปเล้ย จะทนปวดทำไมเนอะอัดยาเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย แผนเราคือออกจากที่พักไม่เกิน 8 โมงเช้าแล้วขับรถยาวไป Tromso คืนรถแล้วบินไป Bergen ใช้เวลาขับรถทั้งหมด 7 ชั่วโมง! เป็นการขับรถที่ยาวนานและบีบหัวใจมากค่ะ มีโอกาสแวะข้างทางนิดหน่อยหน่อยเองแถมมีเรื่องตื่นเต้นต้องลุ้นจนทำให้เกือบตกเครื่องด้วย :p
เก็บของออกจากโรงแรม การเช็คเอาท์คือการทิ้งกุญแจไว้นั่นเอง ง่ายมากๆ แวะถ่ายรูปเมือง Hamnoy กับหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นจุดถ่ายรูปดังอีกจุดของ Lofoten อยู่หลังที่พักเราเองค่ะ
กับหนุ่มๆในทริป ใครหล่อที่สุดโหวตได้นะคะ 😉
แวะเข้าห้องน้ำระหว่างทางซักหน่อย
จากนั้นยิงยาวเลยค่ะ ดูอากาศสิ ดี๊ดี (วันกลับ)
ปิดท้าย Lofoten แบบหลากหลายอารมณ์ค่ะ ทั้งสวยงาม ประทับใจ ตื่นเต้น ลุ้น และเหนื่อย การขับรถยาวๆ 7 ชม ยาวนานจริงๆยิ่งต้องทำภายในเวลาที่จำกัดยิ่งบีบหัวใจ แต่ในที่สุดเราก็ไปขึ้นเครื่องทันแบบเส้นยาแดง ตอนท้ายของบล็อกหนึ่งอยากขอแนะนำเส้นทางการเดินทางมาเที่ยว Lofoten แบบสบายๆไม่ขับรถยาวๆเหมือนทริปเรา
ก่อนไปถึงการเดินทางขอแนะนำที่พักของเรานิดนึงค่ะ เป็นอีกที่พักที่ประทับใจมากในทริปนี้
“Toppøy Rorbuer” อยู่ใกล้ๆเมือง Hamnøy/Reine
คำว่า Rorbeur คือบ้านชาวประมงที่ตอนหลังนำมาดัดแปลงเป็นที่พักให้กับนักท่องเที่ยว หลายแห่งเป็นบ้านชาวประมงเดิมๆแต่อีกหลายแห่งสร้างขึ้นมาใหม่
ที่พักเราติดถนนและติดทะเลสาบด้วย เลี้ยวรถเข้าไปจอดบริเวณที่พัก ทำไมช่างเงียบงัน Reception อยู่ไหน? ลงไปเดินๆส่องๆ เห็นมีกระดาษแปะไว้ที่ประตูห้องพักหลายห้อง เข้าไปอ่านดูถึงได้ร้องอ๋อ Reception อยู่อีกจุดขับรถไปประมาณ 700 เมตร ขับรถไปถึงเจอคุณป้าท่าทางใจดียืนยิ้มรอที่โซนพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาของแกเอง เช็คอิน จ่ายเงิน ขอแผนที่เสร็จคุณป้าให้กุญแจห้องพักมาพร้อมกับบอกว่ามีอะไรมาหาแกได้ตลอดนะ โซนนี้แกก็มีห้องพักและร้านอาหารที่ต้องดูแล (คุณป้าแอบรวยนะเนี่ย)
เราจะพักที่นี้กันสองคืนค่ะ
Address: Toppøy
Reine, 8390, Norway
Phone: +4790035419
ค่าที่พัก 2 คืน รวมภาษี 8% = 3400 NOK
มาห้องพักกันค่ะ ข้างนอกดูธรรมดามากๆพอเปิดประตูห้องเข้าไปร้องว้าวกันทุกคน
ข้างในเป็นไม้สนสีอบอุ่น จริงๆสามารถนอนได้ 7 คนเพราะมี 7 เตียง ห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำหนึ่งและห้องครัว + ห้องนั่งเล่น อากาศหนาวมากวันที่เราเช็คอิน ต้องเปิดฮีทเตอร์
รูปนี้ถ่ายตอน 4 ทุ่มนะคะ แม้อากาศจะหมองแต่ก็ไม่มืดลงเลย
ห้องนอนเล็กที่มืดกว่าห้องใหญ่ แต่หนึ่งชอบมากเพราะแสงไม่แยงตา หลับสนิทดี
ห้องครัวมีเตาอบ ไมโครเวฟ เตาแก้สปรุงอาหาร ถ้วยชามอุปกรณ์ทำครัวครบ มีเครื่องต้มกาแฟด้วย ดีใจกันมากมีหม้อต้มมาม่ากันแล้ว อิ้ววว
ห้องนั่งเล่น ห้องไม่มืดหรอกค่ะแต่เปิดโคมไฟเพื่อความเก๋ไก๋ 😉
คุณป้าไม่มีทีวีให้แต่มีสิ่งนี้แทน ฟังเพลงเพราะๆจากคลื่นวิทยุเค้ามีช่องเพลงภาษาอังกฤษเพราะๆ คือฟินมากค่ะ ณ จุดนั้น ปล. รูปนี้ถ่ายตอน 5 ทุ่มนะคะ
มีระเบียงด้วยล่ะ ออกไประเบียงได้วิวนี้ เงียบสงบ ณ 5 ทุ่ม ชิลลลล (หนาวเย็น) มากกก
เอารูปช่วงแดดออกมาให้ชมบ้าง คนละอารมณ์เลย บ้านสีแดงคือห้องพักเรา
ระเบียงบ้านวันอากาศดี
ส่องข้างบ้าน คือมีต้นหญ้างอกบนหลังคา มีใครทราบไหมคะว่าเพื่ออะไร เห็นอยู่เรื่อยๆที่นอร์เวย์
ส่องบ้านข้างๆมั่ง
สรุปว่าดีงามค่ะ ถ้าใครมีแผนจะไปแนะนำนำนะคะ
***ข้อแนะนำเรื่องการเดินทางไป Lofoten***
Lofoten สามารถเดินทางให้ง่ายและสะดวกกว่าการขับรถแบบเราค่ะ อยากแนะนำให้ไปที่ Bodo ก่อน จาก Bodo สามารถเดินทางได้หลายทาง แต่ที่นิยมกันคือ
1. บิน ตอนนี้มีสายการบินเดียวเท่านั้นที่บินไป Lofoten คือ wideroe.com
2. นั่งเฟอร์รี ซึ่งมี 2 สายให้เลือกคือ
Bodø – Moskenes เป็นเฟอร์รีหลักที่จะไป Lofoten และสามารถนำรถขึ้นเฟอร์รี่ได้ www.torghattennord.no/english/default.aspx แนะนำให้เช็คตารางเวลาในเวบไซต์ก่อน ถ้าไปช่วง high season นักท่องเที่ยวจะเยอะเพราะเป็นเส้นทางเดินทางที่คนนิยม ควรจองล่วงหน้านะคะ ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชมครึ่ง
Bodø – Stamsund/Svolvær โดย Hurtigruten (www.hurtigruten.com) ใช้เวลาประมาณ 4 ชม แต่ Stamsund/Svolvær อยู่เหนือขึ้นไปจาก Moskenes นอกจากนี้รอบต่อวันน้อยกว่าเฟอร์รีแรกและราคาสูงกว่า
สำหรับรถเช่าสามารถมาหาได้ที่ Lofoten หรือจะนั่งบัสเที่ยวก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าขับรถเที่ยวสะดวกกว่าเยอะ ท่าเรือที่ Bodo อยู่ที่เดียวกันทั้งสองสายใกล้ information center ในเมือง Bodo
credit ภาพจาก http://www.visitnorway.com
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
May 31, 2016ประสบการณ์ขับรถหัวใจวายครั้งหนึ้งในชีวิต ^_^