Japan Sakura Hunting trip
Japan Sakura Hunting trip – ตามล่าซากุระ(บาน)ที่ญี่ปุ่น
ชั่วโมงนี้ไม่ว่าใครก็อยากไปญี่ปุ่นเพราะนอกจากจะไม่ไกลมาก นั่งเครื่องไม่นาน อาหารการกินก็ถูกปากคนไทย บ้านเมืองสะอาดปลอดภัยตามแบบฉบับประเทศพัฒนา วีซ่าไม่ต้องทำแล้วยังโปรโมชันตั๋วเครื่องบินมายั่วอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเยือนญี่ปุ่นน่าจะมีมากเป็นอันดับสองรองจากจีนแล้วค่ะ หนึ่งเองก็ไปมาหลายครั้ง นับไปนับมาก็ครั้งนี้ครั้งที่ 5 แล้ว แต่เชื่อว่ามีคนไปบ่อยกว่าหนึ่งแน่นอน อิอิ ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดูแต่ฤดูที่คนอยากไปมากๆ คงหนีไม่พ้นช่วง spring หรือช่วงใบไม้ผลิเพราะเป็นช่วงที่ “ดอกซากุระ” บานสะพรั่ง เป็นฤดูกาลที่สวยงามและใครๆอยากอยากไปชมเช่นเดียวกับกรุ้ปเรา ^_^ ทริปนี้หนึ่งไม่ได้เป็น tour leader เป็นลูกทัวร์เป็ดน้อยคอยเดินตาม ^_^ แต่หัวหน้าทัวร์กล่าวว่าทรินี้เดินดูซากุระแต่จะมีบางเมืองที่ไม่ไปเพื่อชมดอกไม้แต่ไปด้วยเหตุผลส่วนตัวของผู้จัด (คืออยากไปนั่นแหละ) วันนี้หนึ่งเอาข้อมูลมาแชร์เผื่อใครมีแผนอยากไปชมดอกซากุระที่ญี่ปุ่น
แต่ก่อนจะไปชมซากุระ มาทำความรู้จักกับต้นซากุระกันก่อน ไปถึงแล้วจะได้ชื่นชมความงามกันได้เต็มที่
ชนิดของดอกซากุระ
ต้นซากุระ = ต้นเชอร์รี ภาษาอังกฤษของ “ซากุระบาน” คือ “Cherry blossom” นั่นเอง ต้นซากุระหรือต้นเชอร์รีที่ญี่ปุ่นมีหลายพันธุ์มากมีถึงร้อยพันธุ์ ทั้งที่คนเพาะพันธุ์เองและที่ขึ้นตามธรรมชาติ แต่ละพันธุ์ให้ลักษณะดอกที่แตกต่างกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่บานต่างกันด้วย การแยกพันธุ์ซากุระมีรายละเอียดดเยอะมาก หนึ่งขอยกลักษณะที่เด่นๆใช้แยกชนิดของซากุระคือ
1. จำนวนกลีบ กลีบเดี่ยวซึ่งมักจะมี 5 กลีบ และกลีบซ้อนหรือ yaezakura ซึ่งอาจจะมีกลีบดอกตั้งแต่ 10, 20 หรือ 100 กลีบ
2. สีของดอก มีตั้งแต่สีชมพู (เข้มมากไปจนถึงซีด) สีขาว และสีเหลือง
3. ใบอ่อน ซากุระบางพันธุ์เช่น Yoshino sakura ดอกซากุระจะบานโดยยังไม่มีใบอ่อนงอก ทั้งต้นจะเห็นแต่ดอกไม้ ในขณะที่หลายพันธุ์ที่ดอกและใบอ่อนออกมาพร้อมกัน นอกจากนี้สีของใบอ่อนของแต่พันธุ์ก็ต่างกันด้วย บางพันธุ์สีเขียว บางพันธุ์สีน้ำตาลออกทองแดง
4. ช่วงเวลาในการบาน โดยส่วนใหญ่ซากุระแบบดอกเดี่ยวจะบานก่อน แบบกลีบซ้อนมักจะบานหลังไปอีกประมาณ 2-4 สัปดาห์ แต่ก็มีบางพันธุ์ที่บานในช่วงอื่นเช่น พันธุ์ Kawazuzakura ที่จะบานช่วง ก.พ. หรือบางพันธุ์เช่น Jugatsuzakura (Autumn Cherry) ที่จะบานช่วง ต.ค.ถึง ม.ค.
เนื่องจากซากุระมีหลายพันธุ์มากและหนึ่งไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเลยจำแค่ว่าซากุระมีทั้งกลีบเดี่ยว (5 กลีบ) และกลีบซ้อน สีมีหลากหลายทั้งขาว ชมพูซีด ชมพูเข้มแม้กระทั่งเหลือง แต่ถึงกระนั้นก็มีบางพันธุ์ที่พอจะแยกได้เลยเอารูปมาให้ชมตามนี้ค่ะ
Yoshino กลีบดอก 5 กลีบสีชมพูซีดเกือบขาว ช่วงดอกบานไม่มีใบอ่อน เป็นพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด
Kanzan เป็นซากุระกลีบซ้อนพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด ดอกสีชมพูเข้ม ใบอ่อนสีน้ำตาล
ไม่แน่ใจว่าเป็น Ichio หรือ Shirofugen ดอกกลีบซ้อนสีชมพูอ่อน ใบสีน้ำตาล
credit ภาพจาก บล็อกสายหมอกและก้อนเมฆ
ดอกกลีบซ้อนสีขาว ใบอ่อนสีเขียว ไม่แน่ใจว่าเป็น shogetsu หรือเปล่า แต่ดอกมันดูบานแบบตูมๆ
**ซากุระเธอเป็นญาติๆกับ บ๊วย(plum) ท้อ(peach) แอพริคอท เนคทารีนและอัลมอนด์ ซึ่งจะบานในช่วงใบไม้ผลิเหมือนกันและมีลักษณะที่ดูคล้ายคลึงกัน วิธีแยกง่ายๆคือ ซากุระกลีบดอกจะเป็นแฉกซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ใช้แยกดอกซากุระออกจากญาติๆของเธอ นอกจากนี้ยังลักษณะอื่นๆเช่น ดอกตูมซากุะเป็นรูปไข่และฟอร์มของดอกจะคล้ายร่ม และก้านดอกซากุระที่ยาวกว่า ดอกเป็นพุ่มมากกว่า มักมีมากกว่า 3 ดอกในหนึ่งพุ่ม ในขณะที่ดอกท้อและดอกบ๊วยใบไม่มีฉก ก้านดอกจะสั้นมากจนดูเหมือนดอกปะติดกับก้านเลย และมักออกดอกเดี่ยว หรือเป็นคู่ตามก้าน นอกจากนี้ลำต้นของต้านซากุระจะมีขีดดำๆขวาง ในขณะที่ต้นบ๊วยและต้นท้อไม่มีรอยขวาง**
จากรูป ซ้ายมือคือซากุระ กลีบดอกมีร่องหรือแฉก ส่วนขวามือไม่ใช่ กลีบดอกจะมนไม่มีแฉก
ซ้ายมือคือซากุระกลีบซ้อน กลีบดอกมีร่องหรือแฉก ก้านดอกยาวและออกดอกเป็นพุ่ม ขวามือไม่ใช่ซากุระ หนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นบ๊วยหรือท้อนะคะ แต่กลีบดอกกลม ดอกแทบติดลำต้นเลย
ลำต้นของต้านซากุระจะมีขีดดำๆขวาง ในขณะที่ต้นบ๊วยและต้นท้อไม่มีรอยขวาง
แม้ว่าจะมีลักษณะดอกที่คล้ายคลึงกันและบานในช่วงใกล้ๆกันแต่คนญี่ปุ่นชื่นชมดอกซากุระมากดอกท้อและบ๊วย เพราะช่วงเวลาในการออกดอกเป็นช่วงที่กำลังดี ไม่หนาวจนเกินไปและลักษระการออกดอกที่มีก้านดอกยาวกว่าและออกดอกเป็นพุ่มทำให้ซากุระบานดูสวยสะพรึงกว่า
ฮานามิ (Hanami)
ฮานามิ คือการชมดอกซากุระ จะชมแบบเดินชมไปเรื่อยๆ หรือจะแบบเทรดิชันนัลโดยปูเสื่อ ปิคนิคกินอาหารและดื่มสาเกใต้ต้นซากุระ ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาหลายสมัยของคนญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปช่วงนี้ต้องทำใจว่าถ้าไปสถานที่ที่คนนิยมไปคนก็จะล้านแปด หรืออาจจะมากพอๆกับจำนวนต้นซากุระเลยทีเดียว แต่หนึ่งคิดว่า ต้นซากุระที่ต่างประเทศหลายประเทศมี (ในนามต้นเชอร์รี) แต่บรรยากาศฮานามิหนึ่งว่าที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนที่ไหนในโลก มาสัมผัสสักครั้งก็สนุกดีค่ะ ^_^
ซากุระบานเมื่อไหร่
เป็นที่รู้กันว่าการพยากรณ์ซากุระบานเอาแน่เอานอนมากไม่ได้เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้จึงมีนักท่องเที่ยวหลายคนต้องกลับไปซ่อมทริปซากุระบานหลายครั้งเพราะไปแล้วพลาด ไปก่อนบ้าง ไปหลังบ้าง ปัจจัยหลักๆที่มีผลต่อการบานของดอกซากุระคือสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศ อากาศอุ่นจะ ซากุระจะบานเร็วกว่า ที่ญี่ปุ่นทางใต้ของประเทศซากุระจะบานเร็วกว่าแล้วไล่ขึ้นไปจนถึงตอนเหนือ เมืองใหญ่ๆ เช่นโตเกียว เกียวโตและโอซาก้า มักจะบานในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่นี่คือการคาดคะเนแบบหยาบๆนะคะ เพราะเรื่องของอากาศเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ อย่างเช่นปีที่หนึ่งไปอากาศเย็นทำให้ดอกซากุระบานค่อนข้างช้า สำหรับใครที่จะเดินทางไปก็ลองหาข้อมูลดูก่อน หนึ่งและเพื่อนๆดูการพยากรณ์จาก http://www.japan-guide.com
ไปชมซากุระได้ที่ไหนบ้าง
ที่ญี่ปุ่นต้นซากุระจะปลูกตามวัด ปราสาท สวนสาธารณะ ริมแม่บ้านหรือแม้แต่พื้นที่บ้านที่พักอาศัย สถานที่สาธารณะบางจุดมีต้นซากุระเป็นร้อยหรือพันต้นทำให้เวลาบานสวยงามมากทุกเขตของญี่ปุ่นมีจุดให้ชมซากุระ ดังนั้นอยากไปชมที่ไหนลองหาข้อมูลดูนะคะ ทริปเราอ้างเองจากเวบนี้ค่ะ
http://www.japan-guide.com
Japan Top 100 Cherry Blossom Spots
** ถ้าไปชมสถานที่ที่คนนิยมไปต้องทำใจเรื่องความแน่นของคนที่ไปชมดอกซากุระด้วยนะคะ**
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาดูว่าทริปหนึ่งแล้เพื่อนๆว่าไปไหนกันบ้าง
ช่วงเวลาเดินทาง 26 มีนาคา – 4 เมษายน
เมืองที่ไป
Shizuoka, Nagoya, Takayama, Kanazawa, Osaka, Tokyo เมืองชิซูโอกะตั้งใจไปดูไร่ชาเขียวที่มีฟูจิเป็นแบคกราวนด์และทะคะยะมะตั้งใจไปเดินเล่นเมืองเก่า ส่วนเมืองอื่นๆคือเน้นดูดอกซากุระ
การเดินทาง
เราใช้รถไฟเป็นหลักโดยซื้อ JR pass ในเมืองใช้รถไฟใต้ดินและการเดินๆๆ เดินเยอะมาก วันละ 20 กม เกือบทุกวัน แต่ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ว่าการเดินเยอะเป็นเรื่องปกติ ^_^
**สำหรับรายละเอียดของแต่ละเมืองหนึ่งของแบ่งเป็นสองตอน โดยบล็อกเอนทรีนี้จะมีเมืองชิซูโอกะ นากโกยะ คะนะซะวะและโอซาก้า ส่วนโตเกียวขอยกเป็นเอ็นทรีถัดไป เมืองทะคะยะมะขอยกไว้ให้บล็อกเอนทรีหนึ่งต่างห่างเนื่องจากเป็นวันที่ไม่ได้เน้นดูซากุระ**
Shizuoka
จริงๆเมืองนี้ไม่ได้ตั้งใจไปชมซากุระ ตั้งใจไปชมไร่ชาที่มีแบคกราวนด์เป็นฟูจิซัง เมืองชิซูโอกะอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว เราเดินทางจากสนามบินนาริตะโดย นั่ง N’EX (The Narita Express) ไปเปลี่ยนขึ้นชินคันเซนที่ชินากาวะ
โชคไม่ดีที่วันที่เราบินลงนาริตะฝนตกและมี snow shower ด้วยซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจของกรุ้ปเรา ไม่คิดว่าจะเจออากาศเย็นขนาดนี้ช่วงปลายเดือนเมษา เราไปถึงถึงชิซูโอกะเกือบบ่ายโมงฝนยังไม่หยุดตก เราต้องเดินตากฝนไปที่พัก โชคดีที่ที่พักอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ เดิน 3-5 นาทีก็ถึงแล้วและพอบ่ายสามโมงฝนก็หยุดแต่โชคร้ายคือเราไม่สามารถไปชมไร่ชาเขียวได้เพราะรถเมล์หมดแล้ว T_T เรานอนที่เมืองนี้แค่ 1 คืนและพรุ่งต้องออกตอนเช้า เราตัดสินใจไป tourist information center ใกล้ๆสถานีรถไฟเพื่อหาข้อมูลว่าเราไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง สรุปว่าด้วยระยะเวลาเท่านี้เราสามารถไป Sunpu Castle และชมวิวฟูจิบน Annex Building ของ Shizuoka prefectural government office ซึ่งเดินจากสถานีรถไฟไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นซากุระ แต่ก็ได้เห็นค่ะ มีต้นซากุระของโรงเรียนที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าปราสาทบาน จริงๆแล้วรอบๆปราสาทมีต้ซากุระแต่ยังไม่บาน แต่มีให้ชมแค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ ^_^
แถมด้วยการขึ้นไปชมวิวแบบ 360 องศา บนตึก Annex Building ของ Shizuoka prefectural government office ซึ่งอยู่ใกล้ๆปราสาท Sanpu นั่นเอง ความดีงามคือ “ฟรี” ในวันที่อากาศดีๆ จะเห็นฟูจิซังด้วย แต่เราไปวันที่ฝนตกก็ได้เห็นแบบแว้บๆ แต่ก็ประทับใจค่ะ
หน้าตาของ Annex Building คลิกที่นี่
Location: ตามแผนที่ด้านบนเลยค่ะ
ไปถึงพุ่งไปที่ลิฟท์ กดชั้น 21 ออกมาจะได้เห็นวิวเมืองชิซูโอกะแบบ 360 องศาfrom
เวลาทำการ: วันธรรมดา 8:30 – 20:00 เสาร์- อาทิตย์ 10:00-20:00
เดือนมกรคา-มีนาคม ปิด 18:00
ปิดให้บริการ วันเสาร์และอาทิตย์สัปดาห์ที่สามของเดือน
Nagoya
จากชิซูโอกะเรามาถึงนาโกยะด้วยชินคันเซ็นใช้เวลาแป้บๆก็ถึงแล้ว เรามีเวลาเที่ยวเมืองนี้ 1 วัน 1 คืน ซึ่งเราไปได้ 2 จุดหมายคือ Nagoya Castle และริมแม่น้ำ Yamazakigawa
1. Nagoya Castle
การเดินทาง: จากสถานี Nagoya station ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ไปลงสถานี Sakae Station แล้วเปลี่ยนสายไปสาย Meijo Line เพื่อลงสถานี Shiyakusho Station เดินจากสถานีไปอีกประมาณ 3 นาที
จริงๆรอบๆปราสาทและในสวนด้านในปราสาทมีต้นซากุระนับๆดูเป็นร้อยต้น วันที่เราไปอากาศดีมาก แต่…มีซากุระบานแค่ไม่กี่ต้น แต่เราก็ถ่ายรูปราวกับบานทั้งสวนเลย ^_^ เราเข้าไปในปราสาทด้วยนะแต่หนึ่งขอลงแค่รูปดอกไม้นะคะ
ดอกกลมๆ ก้านดอกสั้นมาก ดอกแทบจะติดกับกิ่ง ออกดอกเป็นคู่แบบนี้ไม่ใช่ซากุระนะคะ
กินขนม ชมดอกไม้ค่ะ
2. Yamazakigawa Riverside
ถือเป็นไฮไลท์ของการชมดอกซากุระที่นาโกยะเลยเพราะเป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ตลอดริมแม่น้ำยามาซากิกาวะรามีต้นซากุระหลายร้อยต้นยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดที่เราลุ้นกันมากเพราะที่ปราสาทนาโกยะบานไม่กี่ต้น มาดูว่าเรา
การเดินทาง : จากสถานีนาโกยะ
1. ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Sakuradori ลงสถานี Mizuho Undojo-Nishi Sta. ออกทางออกที่ 2 แล้วเดินประมาณ 10 นาที
2. ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Meijo Line ลงสถานี Mizuho Undojo-Higashi ออกทางออกที่ 3 เดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
3. ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Sakuradori Subway Line ลง Mizuho Kuyakusho Sta. ออกทางออกที่ 1 เดินประมาณ 700 เมตร
แม้จะร่ำลือกันว่าสวยงามแค่ไหน แต่พอไปถึงยังไม่มีต้นไหนบานเลย T_T สิ่งที่เราเห็นคือ…
โชคดีมีดอกอื่นให้ดูสบายตาบ้าง
ปิดท้ายด้วยนางแบบนิดนุง อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ ไม่มีอะไรจะถ่ายก็ถ่ายรูปกันเองไป อิอิ
Takayama
เมืองนี้ไม่ได้ตั้งใจมาชมซากุระ เรามุ่งมั่นมาเดินเล่นเมืองเก่า กินเนื้อฮิดะและเดินตลาดเช้า ซึ่งเราก็บรรลุวัตถุประสงค์ทุกอย่าง รายละเอียดการท่องเที่ยวของเราหนึ่งขอยกไปไว้อีกบล็อกเอนทรีหน้านะคะ
Kanazawa
เป็นเมืองหลวงในจังหวัด Ishikawa เป็นเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นโดยเฉพาะยุคเอโดะ มีย่านซามุไร ย่านเกอิชา ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี นอกจากนี้เค้ายังดังเรื่อง”ทอง” ด้วย เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังมีจุดให้ชมซากุระด้วย จากทะคะยะมะเราเดินทางด้วยรถไฟ (Via Toyama) ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ เข้าพักโรงแรมที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยและเริ่มเที่ยววันรุ่งขึ้นด้วย
1. Kenrokuen Garden
ได้ชื่อว่าเป็นสวนที่มี landscape สวยเป็นอันดับสามในญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างมาก เราตั้งใจมาชมซากุระ ไปถึงเห็นดอกไม้บ้านๆ ดีใจกันใหญ่แต่พอเพิ่งพิศ พิจรณาดีๆแล้วเธอไม่ใช่ซากุระ เป็นดอกท้อและดอกบ๊วยมากกว่า แต่เราก็แฮปปิ้กันดี (ดีกว่าไม่มีดอกไม้ให้ดูเนอะ)
การเดินทาง: หนึ่งไปด้วย JR bus เพราะถือ JR pass อยู่ ใช้ฟรี ^_^ รถจอดที่ bus stop no 4 ทางออกด้านทิศตะวันออก แต่จริงๆแล้วมีบัสหลายสายวิ่ง เข้าไปเช็คข้อมูลได้ ที่นี่
ค่าเข้าชม: 310 เยน
สวนกว้างใหญ่จริงๆ อยู่ตรงข้าม Kanasawa Castle เลย เห็นว่าในอดีตสวนแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทด้วย แต่เราเดินมุ่งหน้าหาสวนที่มีซากุระเท่านั้น มาเจอสวนเล็กแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชมดอกไม้กันเยอะเลยค่ะ แต่ถ้าพิจารณาดูให้ดี ดอกไม้เหล่านี้ไม่ใช่วากุระแต่เป็นดอกท้อและดอกบ๊วย ถึงกระนั้นก็ยังสวยงาม…เนอะ ^_^
2. Higashi chaya district
เป็นย่านโรงน้ำชาเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาในยุคเอโดะ โรงน้ำชาเหล่านี้มี 2 ชั้นโดยชั้นที่สองจะมีเกอิชาให้ความบันเทิง ปัจจุบันย่านนี้ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี แต่มีโรงน้ำชาไม่กี่แห่งที่ยังให้บริการแบบดั้งเดิม เพราะส่วนใหญ่ร้านกลายร่างเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกไปแล้ว แต่ถึงยังไงหนึ่งก็ชอบที่นี่นะคะ เดินเล่นไปเรื่อยๆ ชิลๆดี
การเดินทาง เราเดินจากสวน Kenrokuen Garden ซึ่งระยะทางไม่ไกลมาก เดินได้สบายๆ
คานะซะวะ เค้าดังเรื่องแผ่นทองคำด้วย เค้าพยายามเพิ่มมูลค่าสินค้าของเค้าด้วยกันเพิ่มทองคำในทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอางค์แม้กระทั่งอาหารด้วย มาถึงเมืองนี้ก็ต้องชิม “ไอศครีมทองคำ” 950 เยน ราคาแรงมาก แพงเพราะแผ่นทองคำที่อาบไอศครีมด้านนึงไปเลย แต่แผ่นทองคำนี้ไม่มีรสชาติใดๆทั้งสิ้นนะคะ แต่มีแล้วดูแฟน เพิ่มมูลค่าด้วย ตัวไอศรีมรสวานิลาอร่อยดีค่ะ หนึ่งซื้อกินที่ร้าน Hakuichi Gold Leaf ซึ่งเป็นร้านดังใน Higashi chaya district ซื้อเสร็จต้องนั่งกินในร้านนะคะ เค้าห้ามเดินกินหรือแม้กระทั่งยืนกินหน้าร้านก็ไม่ได้
Osaka
จากคานะซะวะ มาถึงโอซาก้า เราค้างที่นี่ 2 คืน ดูเหมือนจะเยอะ(ไป) สำหรับโอซาก้า แต่ไม่เยอะเลยเพราะ 2 วันแรกเราไม่ได้เที่ยวเลยเพราะฝนตกแบบทั้งวันทั้งคืน เราก็เดินห้างช้อปปิ้งกันจนเบื่อ ได้มาเที่ยววันสุดท้ายก่อนไปโตเกียว สถานที่ที่ลิสท์ไว้มากมายสุดท้ายไปได้ 2 จุดคือ Kema Sakuranomiya Park และ Osaka Castle
Kema Sakuranomiya Park เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดจนหนึ่งของโอซาก้า จะได้เห็นวิวแบบต้นซากุระถูกปลูกริมแม่น้ำกว่า 5,000 ต้นตลอดฝั่งแม่น้ำ Okawa
การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Osakajokitazume แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อย
สิ่งที่เราเห็นคือ…ท้าดา ที่เห็นด้านหลังคือต้นซากุระทั้งนั้น…แต่มันยังไม่บานค่ะ..จบข่าว
เมื่อดอกไม้ยังไม่บานก็ดูหน้านางแบบไปก่อนเนอะ อิอิ
เกือบลืมไป จริงๆมีหนึ่งต้นที่บานแล้ว (จากห้าพันต้น) เราต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย ^_^
เมื่อไม่บานเราตัดสินใจเดินไปประสาทโอซาก้า ซึ่งมีซากรุระบานหรอมแหรม หนึ่งเก็บภาพมาเบาๆ เป็นซากุระสีขาวแถวอนุเสาวรีย์ของท่าน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ใกล้ศาลเจ้าข้างวัด หนึ่งเคยมาปราสาทโอซาก้าแล้วเลยไม่ได้เข้าชมด้านใน จริงๆแล้วสวนรอบนอกปราสาทมีบางจุดที่ซากุระบานแล้ว มีฮานามิปิคนิคกันด้วย แค่มันบานแค่ 20% เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมกัน
ปิดท้ายการตามล่าซากุระตอนแรกที่โอซาก้นะคะ บล็อกเอ็นทรีหน้าหนึ่งจะไปไปชอบซากุระแบบ full bloom (เสียที) ที่ Omiya park และที่โตเกียว คลิกเข้าไปอ่าน Hanami Festival @Omiya Park ได้ที่นี่
ขอบคุณภาพสวยๆเกือบ 50% ของบล็อกจากกล้องเพื่อนร่วมทริปค่ะ ^_^
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
- May 30, 2017
- 3 Comments
- 2
- Japan, sakura
พี่เปียก
May 30, 2017ซากุระ ซากุระ ซากุระ
สาวสวย น่ารัก กับซากุระอ่อนหวาน
เข้ากันที่สุดเลย
adrenalinerush
May 31, 2017ขอบคุณค่าพี่เปี๊ยก จุ้บๆๆ
FUFY
August 1, 2017ซากุระไม่บาน แต่หน้านางแบบเราบานเพียงพอ...