Great Ocean Road
เราเริ่มการเดินทางจากเมลเบิร์น รูปนี้ถ่ายจากห้องในโฮสเทลที่พัก เมฆเยอะ แต่แดดยังมี
เราออกกันเช้ามาก 7 โมงเช้า ย่านที่เราพักคือไชน่าทาวน์ยังเงียบอยู่เลย ขับรถออกจากเมลเบอร์นฟ้าก็ครึ้มลงเรื่อยๆ น่าเสียดายมากๆเพราะเป็นเส้นทางที่สวยจริงๆค่ะ มีจุดสวยๆเยอะมาก แต่ลงไปดูแล้วก็เสียอารมณ์
ถนนที่เลียบชายฝั่ง เห็นแล้วคิดถึง
Pacific coast highway ที่อเมริกา แต่สีน้ำทะเลที่นี่สวยกว่าเยอะเลย และที่เหมือนกันคือทุกครั้งที่หนึ่งไปทะเลฟ้าจะเน่าตลอด สงสัยดวงไม่สมพงษ์กัน T_Tจุดแวะจุดแรกของเรา เห็นมีรถจอด หนึ่งก็เดินลงไปดูกับเขาด้วย เดินลงไปแบบงงๆ ฟ้ามืดมากฝนกำลังจะตก มุมจากด้านบนดูตื่นตามากๆ ใหญ่โตจริงๆ เห็นอย่างนี้ สูงมากนะคะ ทางเดินลงค่อนข้างชัน ตอนเดินขึ้น เหนื่อยเอาการ
ถึงฟ้าจะครึ้มแค่ไหน ชายหาดแถวนี้ก็ไม่เคยเงียบเหงาค่ะ มีกิจกรรมครอบครัวน่ารักๆแบบนี้ น้องหมาตัวที่เห็นเธอร่าเริงมากๆ สงสัยจะชอบทะเล เด็กๆที่นี่ใส่ชุดว่ายน้ำแบบทูพีชกันตั้งแต่เด็กเลย 🙂
ประภาคาร
split point lighhouse ที่ Aireys Inlet
เส้นทางเลียบทะเลยามฟ้าครึ้ม
จากจุดนี้ถนนไม่ได้เลียบชายฝั่งแล้ว แผนเดิมคือเราต้องรีบขับรถไป Twelve Apostles เพราะเราเสียเวลากับรถติด พักกินข้าวเที่ยง เวลาตอนนี้บ่ายสามโมงกว่าๆแล้ว ในขณะที่เพื่อนๆหลับอยู่ หนึ่งขับรถออกนอกเส้นทางหลักเพราะคิดว่าจะแวะประภาคารอีกแห่งเพราะเห็นป้ายอยู่แว้บๆตัดสินใจเลี้ยวลดทันทีเพราะคิดว่าไม่ไกลมาก แต่….เป็นการตัดสินใจที่ผิดจริงๆ เพราะวิ่งไปหลายกิโลแล้วยังไม่เห็นชายฝั่งเลย
หนึ่งเห็นนักท่องเที่ยวจอดรถเดินๆ เอ…เค้าดูอะไรกันน้า..
และแล้วก็ได้คำตอบ…
เจ้าโคเอล่านั่นเอง เกาะอยู่บนต้นยูคาลิปตัส มีเยอะมากเป็นร้อยๆตัวเลยค่ะ คิดแล้วก็นึกเสียดายเงิน 10 AUD ที่จ่ายไปตอนเข้าKoala conservation center วันก่อน ดูที่นี่ ฟรีแถมมีเยอะด้วย 555
ถ่ายรูปน้องโคเอล่ามาเยอะมากๆค่ะ แต่แล้วเราต้องรีบไปกันต่อ ไปแบบเหยียบเลย จุดหมายอยู่ที่
Twelve Apostles ซึ่งอยู่ที่ Port Cambell ณ เวลานั้น 6 โมงเย็นแล้ว แต่ก็ไปไม่ถึงไหน ให้หนึ่งเป็นคนขับก็แบบนี้แหละ นางแวะได้ทุกจุดหนึ่งจอดรถเพราะเจ้าตัวนี้ค่ะ
ใกล้ถึง Twelve Apostles แล้ว ถ่ายจากจุดชมวิว สวยมากๆค่ะ ถ้าฟ้าใสคงงามมากๆ เราเที่ยวกันหน้าร้อนดีอย่างนี้นี่เอง เพราะพระอาทิตย์ตกช้า
เข้ามาในเขต
Port Cambell แล้ว เวลา 1 ทุ่มกว่าๆ ฝนตกปรอยๆแล้วค่ะ จุดแรกที่ลงไปหนึ่งจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว แหะ แหะ
มาถึงแล้ว
Twelve Apostles เราขับรถเข้าไปที่ information center ซึ่งปิดแล้ว (แหงล่ะ กี่ทุ่มเข้าไปแล้ว…) เพื่อไปจอดรถ แล้วเดินลอดสะพานที่อยู่ใต้ถนนเพื่อไปจุดชมวิว ช่วงนี้ฝนตกปรอยๆแล้วค่ะ เดี๋ยวตกเดี๋ยวหยุด มีนักท่องเที่ยวที่มาช้าอย่างเราเยอะพอสมควรเลย ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่ด้านบน เป็นเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยว ค่าขึ้นไปแพงเอาการค่ะ แต่วันนี้ฟ้าเน่า หนึ่งว่าคงไม่คุ้มเดินมาถึงแล้วค่ะ แม้ฟ้าจะเน่าแค่ไหนแต่..สวยมากๆ หนึ่งไ้ด้ยินสองแม่ลูกกำลังนับแท่งหินที่เห็นว่าครบ 12 แท่งเหมือนชื่อหรือเปล่า
ชะง่อนผาค่อนข้างเปราะบาง สามารถถล่มลงไปเมื่อไหร่ก็ได้ ทางการจึงมีทางเดินเป็นไม้ให้นักท่องเที่ยวเดินไปตามจุดชมวิวต่างๆ
ขับรถต่อมานิดเดียวคือ
The arch
จุดนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจค่ะ
Loch Ard เป็นชื่อเรือทีแล่นจากอังกฤษไปเมลเบิร์น แต่เกิดอับปางที่จุดนี้เมื่อ 134 ปีก่อน แต่มีผู้รอดชีวิต 2 คนคือ Tom and Eva
ลงไปดูข้างล่างกันนะคะ….
น้ำใสมากๆ
อยากให้ฟ้าใสด้วยจังเลย
ไปกันต่อนะคะ
London Bridge อยู่ถัดไปไม่ไกลมาก ตอนนี้ฝนตกแล้วค่ะ เราต้องกางร่มถ่ายรูปกันเลย T_T
เจ้า London Bridge นี้เดิมเค้าหน้าตาเหมือนในรูปค่ะ คล้ายสะพานจริงๆ เดินข้ามได้ แต่ในปี คศ 1990 ส่วนที่เป็นตัวเชื่อมได้ถล่มลงมา มีนักท่องเที่ยวติดอยู่บนเกาะและได้รับความช่วยเหลือด้วยเฮลิคอปเตอร์
เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาจริงๆค่ะ ต่อไปอาจจะไม่ใช่แบบที่เห็นอีกก็ได้นะคะ 🙂
มาถึงจุดสุดท้าย ตอนนี้ เกือบ 3 ทุ่มแล้วค่ะ แสงเริ่มจะหมดแล้ว
The Grotto
เดิมตั้งใจว่าจะถ่ายรูแเฉพาะด้านบนแล้วก็กลับเพราะเราต้องขับกลับเมลเบอร์นอีก 3 ชม แต่แล้วก็ตัดสินใจเที่ยวต่อ…มาถึงที่แล้วนี่นา ใช่ไหมคะ ช่วงนี้ฝนหยุดพอดี
ลงมาข้างล่างแล้วไม่ผิดหวังค่ะ สวยมาก แต่หนึ่งเก็บความสวยงามมาฝากได้ไม่เท่าตาเห็น
ลากันด้วยภาพนี้ค่ะ จบทริปออสเตรเลียของหนึ่งแล้ว ขอบคุณที่ติดตามนะคะ แต่การท่องเที่ยวหนึ่งยังไม่จบค่ะ ยังมีต่อ ตอนต่อไป 🙂
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
- June 25, 2015
- 2 Comments
- 1
- Australia
FUFY
April 15, 2016สงสัยต้องไปซ่อมละมั้งนี่ อิอิ
adrenalinerush
May 10, 2016ออกค่าตั๋วให้ด้วยนะ อิอิ