Enjoy local food @Le Monchu


Enjoy local food @Le Monchu

ชิมอาหารหรูแบบ fine dining ที่ Le Bistrot มาแล้วมาชิมอาหารที่คนท้องถิ่นของชาโมนีเค้ากินกันบ้าง ไปเที่ยวแล้วก็ควรหาโอกาสชิมอาหารของเค้าดูบ้างนอะเ เพราะมันเหมือนได้ท่องเที่ยวอีกแบบผ่านวัฒธรรมการกินของเค้า หนึ่งว่ามันทำให้เรา “อิน” กับการไปเที่ยวมากขึ้น มีใครเป็นเหมือนหนึ่งบ้างคะ ^_^

จริงแล้วไม่ได้หาร้านกินไว้ก่อนเพราะคิดว่าจะถามคนในพื้นที่คือที่ล้อบบี้โรงแรมนั่นแหละ เราได้ชื่อร้านอาหารมาสองร้านคือ La Calèche และ Le Monchu ให้เค้าบอกตำแหน่งร้านในแผนที่ให้ด้วย หลังจากเล็งๆว่าจะกินร้านไหนดี เราก็ไปตามลายแทงโลด ร้านอยู่ใกล้โรงแรมทั้งคู่และอยู่ในตัวเมือง เดินจากโรงแรมไปไม่ไกลมาก คืนวันที่เราไปกินฝนลงค่อนข้างหนักต้องเดินกางร่มไปเลย จริงๆตั้งใจจะไปกินร้าน La Calèche แต่พอไปถึงร้านปิด (ซะงั้น)

“Le Monchu” อยู่เมืองติดกับ Casino de Chamonix เป็นร้านใหญ่พอสมควรเลยค่ะ ตกแต่งแบบ log house อารมณ์เมืองหนาวในเขตเทือกเขา พอเดินเข้าไปในร้านรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย บรรยากาศดีมาก เราไม่ได้จองโต๊ะไว้แต่ก็มีที่นั่งทันทีทั้งที่ลูกค้าค่อนข้างเยอะ
 
collage5

พนักงานที่นี่จะคล่องแคล่ว พูดเร็ว เสิร์ฟเร็ว อาหารมาค่อนข้างเร็ว จริงๆแล้วก่อนไปกินเราไม่มีไอเดียเลยว่าคนท้องถิ่นของชาโมนีเค้ากินอะไร แต่พอไปถึงร้านเปิดได้ดูเมนูอาหาร (ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ) + แอบส่องโต๊ะข้างๆว่าเค้ากินอะไร ก็พอรู้ว่าจะสั่งอะไร อาหารมาเร็วมากค่ะ มาดูกันว่าเรากินอะไร

อันดับแรกเลยคือ “ไวน์” มาฝรั่งเศสก็ต้องดื่มไวน์เนอะ wine list เค้ามีให้เลือกหลากหลายดีค่ะ ฟูฟีมีหน้าที่เลือกไวน์ไป เธอเลือกไวน์แดงเพราะเราจะกินเนื้อ เห็นธอเล็งๆแล้วจิ้มได้ขวดนี้มา
St Emilion ขวดละ 35 ยูโร รสชาติดี๊ดี ดีต่อใจ กินแล้วติดใจโดยเฉพาะเวลากินกับเนื้อและชีส เค้าเกิดมาคู่กันจริงๆ! จริงๆแล้วเราสั่งน้ำเปล่าด้วยค่ะแต่เป็น tap water หรือน้ำประปา ซึ่งทุกร้านอาหารในฝรั่งเศสจะเสิร์ฟฟรี น้ำประปาเค้าดื่มได้ อร่อยด้วยค่ะ อิอิ
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มาดูเมนูอาหารกันค่ะ หนึ่งและฟูฟีกิน Doublette เป็นเมนูคู่ที่ Braserade เกี่ยวก้อยกับ Raclette และกินได้เป็นคู่ ราคาเซ็ทละ 53 ยูโร ตกคนละ 26.50 ยูโร Braserade คือเนื้อย่างนั่นเอง ส่วน Raclette เป็นชีสชนิดหนึ่งที่ทำจากนมวัวและมีรสเค็มนิดๆ แต่ความไม่ธรรมดาของชีสตัวนี้คือตอนกินเค้าจะเอาชีสไปผ่านความร้อน (สมัยดั้งเดิมใช้หินร้อน) พอเนยละลายก็ขูดชีสมากิน โดยจะวางท้อปบนมันฝรั่ง cold cuts หรือเนื้อก็ได้

เตามาแล้ว เพิ่งเคยเห็นเตาแบบนี้ตื่นเต้นมาก ถ่ายรูปกันรัวๆ เตาเป็นเหล็กทั้งอัน ดูหนัก(และร้อน)มาก สูงด้วย ชั้นบนสุดเป็นตะแกรงย่างเนื้อถัดมาคือถ่าน ชุดที่เราสั่งใช้ถ่านแบบพิเศษ นัยย่างแล้วจะหอมๆ ถัดจากชั้นถ่านมาเป็นชั้นสำหรับย่างชีส รูปขวามือคืออุปกรณ์สำหรับใส่ชีสเข้าไปในเตา (cheese holder หรือ coupelle) ลักษณะเหมือนถาดเล็กๆ มีด้ามจับยาวๆ และมีตัวเอาไว้ขูดชีสออกจาก coupelle ด้วย แค่เห็นเครื่องมือก็ตื่นเต้นแล้ว ตามปะสาคนเพิ่งเคยกิน 😉
 
Le Monchu

เนื้อตามมาค่ะ เป็นเนื้อวัวแบบเนื้อสดๆ ไม่ค่อยมีมัน ไม่หมักอะไรทั้งสิ้น หั่นมาเป็นชิ้นขนาดกำลังเหมาะ ไม่หนาหรือบางไป มีผักมาด้วยนิดหน่อย จานนี้ประมาณ 400 กรัมได้ กินกันสองคนก็คนละ 200 กรัม ตอนแรกในเห็นเนื้อใจแป้วเลยค่ะ คิดในใจว่าเนื้อคงจืดและเหนียวแน่ๆ #จะไหวม้ายยย
 
Le Monchu

ชีสตามมาค่ะ ชีสเค้าให้มา 2 ชนิดคือ Raclette ซึ่งจะตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเนื้อจะแข็งกว่าอีกตัว ชิ้นไม่หนาและไม่บาง ส่วนอีกตัวคือ Reblochon เป็นชีสท้องถิ่นในย่านนี้ตัดมาเป็นลิ่มๆ ขนาดกำลังดี เนื้อจะนิ่มกว่าชีสตัวแรก ดูปริมาณชีสที่เค้าให้มาสิคะ นี่คือสำหรับสองคน จัดเต็มมากโดยเฉพาะสำหรับสาวเอเชียรูปร่างบอบบางอย่างเรา >_< ถ้วยเล็กๆสีขาวที่ให้มาเป็นซ้อสรสชาติคล้าย sour cream   OLYMPUS DIGITAL CAMERA

วิธีกินสนุกมาก ย่างเนื้อและชีส หนึ่งกินเนื้อ medium rare พอชีสละลายก็เอาชีสมาราดเนื้อ ตักซ้อสราดนิดหน่อยแล้วกิน จิบไวน์ตาม อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อรสจืดแต่พอกินกับชีสหอมๆ ที่มีรสเค็มนิดและไวน์เข้ากันมากกก เสริมรสกันสุดๆ ที่เกรงว่าเนื้อจะเหนียวก้ไม่รู้สึกว่าเหนียวซักเท่าไหร่ ยิ่งมี ซ้อส sour cream ด้วยแล้วรสเด้งขึ้นมาอีก จริงๆแล้วมีขนมปังและมันฝร่งด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา แหะๆ
 
collage3

ย่างวนไปค่ะ อิอิ ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละ เตาไฟร้อนมากๆ เห็นเป็นเล็กทั้งชิ้นต้องระวังไม่ให้เผลอเอามือไปโดน ชีสอร่อยทั้งสองชนิด หอมและรสนุ่มๆ ส่วนตัวหนึ่งชอบตัว Reblochon มากกว่า
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ดูคลิปสั้นๆ นะคะ เสียดายไม่มีเสียงชีสเดือดของโต๊ะข้างๆมาให้ฟัง ^_^
 

 
ระหว่างที่เราย่างเนื้อและชีสก็ได้ยินเสียงเดือดปุดๆๆ แอบเหล่โต๊ะข้างๆ เค้ากินฟองดูค่ะ คือเสียงชีสเดือดได้อารมณ์มั่กๆ เหล่ข้ามไหล่เพื่อนไปเห็นโต๊ะข้างหลังกินเนื้อย่างแต่เค้าย่างบนหิน (Pierrade) น่าลองมาก ต้องหาโอกาสลองแล้ว แต่ ณ จุดนี้เอาตัวเองให้รอดกับเมนูตัวเองก่อนมั้ย ตอนแรกคิดว่าจะกินไม่หมด ไปมาๆ กินหมดค่า เนื้อคำ ไวน์คำ กินไปเรื่อยๆหมดไม่รู้ตัว เซ็ทนี้หนึ่งว่าคุ้มมาก ชุดนี้กินกันสองคนจริงๆเพราะเพื่อนอีกสองคนไม่กินเนื้อ แต่ก็ให้ชิมชีสค่ะ

มาดูเมนูที่เพื่อนสั่งมากินบ้าง เนื่องจากไม่กินเนื้อเลยต้องหาเมนูอื่นซึ่งมีให้เลือกไม่มากนัก เมนูอาหารพวกนี้จะเปลี่ยนตามฤดูนะคะ ไม่ได้มีเสิร์ฟตลอด

มาดูจานแรก Magret Roti เป็นเนื้ออกเป็ด (พันธุ์เดียวกับที่เลี้ยงทำฟัวกราส์) ย่างเสิร์ฟพร้อม “bilberry” (หน้าตาคล้ายบลูเบอร์รีมากแต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน)และมันฝรั่งทอด จานนี้ได้แต่ถ่ายรูป มองและถามเพื่อนที่กินว่ารสเป็นยังไง เพื่อนบอกว่าโอเค เนื้ออกเป็ดนุ่มๆดี ราคา 23 ยูโร
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มาอีกเมนูของเพื่อนอีกคน Noix St Jacque หอยเชลล์เสิร์ฟบนพาสต้า แอบคิดว่ามันดูเอเชียมากๆ ไม่ได้ชิมอีกแล้ว (จานของตัวเองก้เกือบเอาชีวิตไม่รอด) แต่เพื่อนบอกว่าอร่อยดี ราคา 25 ยูโร
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

อาหารคาวจบ ไวน์หมดพอดี แอบเสียดายชีสที่เหลือนิดหน่อยแต่เนื้อหมดแล้ว แม้จะอิ่มมากกกกแต่อยากกินขนมหวานเลยสั่ง creme brulee มาแชร์กันกัน 4 คน คือว่าอร่อยมากกกกค่ะ รสไม่หวานแหลม ครีมนุ่มกำลังดี ไม่นิ่มย้วยหรือแข็งไป น้ำตาลที่เผามาด้านบนหอมอร่อยมากๆ ราคา 7 ยูโร
 
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

อิ่มและฟินค่ะ ค่าเสียหายอยู่ 143.50 ยูโร หาร 4 ตกคนละเกือบ 36 ยูโร ราคาน่ารักนะคะสำหรับไวน์ดีๆ และประสบการณ์อาหารสนุกและรู้สึกว่ามา “ถึง”ชาโมนีแล้ว (แม้ไม่ได้ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ฮ่าๆ) ปล อย่าถามถึงแคลอรีนะคะ ไม่กล้าแม้แต่จะคิด 😉

ความเห็นส่วนตัว ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ลอง ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องชีสและไวน์ (ไม่ได้ดังแค่เรื่องแฟชันและน้ำหอมนะ) เมนูนี้ได้ชิมของดีทั้งสองอย่างเลย ราคาอาหารน่ารัก อาหารเน้นรสธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่ต้องปรุงอะไรมากแต่มันก็อร่อยในแบบที่ต้องลอง แล้วจะติดใจเหมือนหนึ่ง ^_^ นึกภาพว่าถ้าได้มาเล่นสโนบอร์ดแล้วได้กินอาหารแบบนี้เป็นมื้อเย็นคงฟินมาก เพราะการเล่นสกีหรือสโนบอร์ดมันใช้พลังงานเยอะมากๆ และเล่นกันทั้งวัน ถ้าได้อาหารเติมพลังแบบนี้และกินกันหลายๆคนคงสนุกและอร่อย

อาหารท้องถิ่นของชาโมนีคืออะไร

ชาโมนีอยู่ในเขต Auvergne-Rhône-Alpes ซึ่งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสและอยู่ในเขตเทือกเขาสูงที่มีอากาศหนาวเย็นจึงทำให้มีอาหารที่ต่างไปจากเขตอื่น เมืองชาโมนีอยู่ติดกับสวิสเซอแลนด์และอิตาลีด้วย อาหารในเขตที่มีความคล้ายคลึงกันคือเน้น “ชีส” ประมาณว่าให้พลังงานสูง (เพื่อต้านหนาว) เมนูชีสเค้ามีหลากหลายแต่ที่เราคุ้นหูก็คือฟองดู (Fondue) แต่ที่ชาวโมนีจะเรียกว่า Savoyarde fondue ชื่อ Savoy ก็ชื่อเก่าแก่ของแถบ Auvergne-Rhône-Alpes นั่นเอง ประมาณเป็นการเน้นว่ามันเป็นฟองดูของฝรั่งเศสจ้ะ ฟองดูนี่คนฝรั่งเศบอกชั้นเป็นคิดค้นขึ้นมานะ แต่สวิสก็บอกไม่ใช่ชั้นเป็นคนคิดก่อน ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าแรก เอาเป็นว่ามาจากแถวนี้เนอะ จริงๆแล้วอีกอีกหลายเมนูเช่นเมนูที่หนึ่งจะรีวิวในบล็อกนี้ด้วย

 

About Le Monchu

อาหาร: Savoyarde food

เวลาเปิด-ปิด: เปิดบริการทุกวัน 11:30 – 23:00

ราคา: เฉลี่ย 900 บาทต่อหัวขึ้นไป

ที่อยู่ : 1 rue du Lyret 74400 Chamonix Mont Blanc, France

Tel: (+33) 04 50 53 04 80

website: http://www.lemonchu-chamonix.fr


 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

Croissant Hopping in Paris
May 05, 2022
เที่ยวไปกินไปในปารีสตอนที่ 2
October 18, 2017
L'Escargot Montorgueil
French Cuisine and Snails @ L’Escargot Montorgueil
September 12, 2017
Fogón, a contemporary Spanish near Notre Dame Paris
August 29, 2017
Le Comptoir du Relais Saint-Germain
Le Comptoir du Relais ร้านอาหารของเจ้าพ่ออาหารแนว bristo
August 22, 2017
Île de la Cité, Historical heart of Paris
July 22, 2017
เที่ยวไปกินไปในปารีสตอนที่ 1
July 06, 2017
Fou de Patisserie Boutique
Fou de Patisserie Boutique
July 06, 2017
Paris
Maison de la Truffe ชิมอาหารที่ทุกจานมีทรัฟเฟิล
July 01, 2017

1 Comments

FUFY
Reply July 25, 2017

อยากไปอีกจุง ^_^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *