EAT IN TOKYO กินอะไรอร่อยที่โตเกียว ตอนที่ 2.2 ขนมหวานอร่อย


EAT IN TOKYO กินอะไรอร่อยที่โตเกียว ตอนที่ 2.2 ขนมหวานอร่อย

หลังจากตระเวนกินขนมอร่อยย่านชานเมืองทั้งชูครีมและโดนัทสุดน่ารัก ในตอนที่แล้ว ตอนนี้จะพากินแถวในเมืองตามย่านท่องเที่ยวกันบ้างค่ะ วันนี้มีให้ชิมหลากหลายทั้งขนมปัง ไอศครีม แพนเค้ก พัพเพสทรีและคุ้กกี้ จะอร่อยน่าประทับใจแค่ไหน ตามมาชิมเลยค่า ^_^
Melon bun @Kagetsudo

Melon bun หรือขนมปังเมลอนเป็นขนมญี่ปุ่นที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี แม้ชื่อจะบอกว่าเป็นขนมปังเมลอน แต่ไม่ใช่ขนมปังไส้เมลอนแต่อย่างใด ต้นฉบับเป็นขนมปังที่ไม่มีไส้ แต่มีหน้าคุ้กกี้กรอบๆ ลายเป็นตารางๆ โปะหน้า (หนึ่งเคยแอบคิดว่ามันเหมือนกระดองเต่าด้วยล่ะ ฮ่า) ขนมปังเมลอนหาซื้อไม่ยาก มีขายในร้านขนมปังทั่วไปรวมทั้งร้านสะดวกซื้อบางสาขาด้วย แต่ร้าน Kagetsudo มีความต่างคือ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี คศ 1945 นับๆดูก็ 74 ปี ประมาณคุณตาไปแล้ว นอกจากจะมีความเก่าแก่เป็นต้นทุนการตลาด  ขนมปังเมลอนเจ้านี้ยังมีลักษณะพิเศษกว่าร้านอื่นคือ ขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ คือประมาณ 15 นิ้ว ล้นมือหนึ่งเลยล่ะ กินคนเดียวอิ่มไปมื้อนึงเลย ในส่วนของรสชาตินั้น เล่าขานกันมาว่า กรอบนอก (จากหน้าคุกกี้) และนุ่มใน อีกทั้งอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวด้วย ทำให้ร้านนี้โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว เรียกได้ว่า มาถึงต้องลองกิน

ปัจจุบันขนมปังเมลอนมีการปรับให้มีไส้ มีการบีบวิ้ปปิ้งครีมและสอดไส้สตรอเบอร์รีด้วย ร้าน Kagetsudo มีหลายสาขา หนึ่งซื้อที่สาขาซอยข้างถนนหลักที่เดินไปตัววัดเลย จริงๆตัวร้านปิดแล้วแต่มีคนนั่งขายเฉพาะปังเมลอนหน้าร้านและมีขายเฉพาะรสดั้งเดิมเท่านั้น

 

 

ดูหน้าตาปังเมลอน หนึ่งว่ามันเหมือนเต่าค่ะ อิอิ ใหญ่ล้นมือเลยทีเดียว

 

 

อั้ม…กรอบนอก นุ่มในสมชื่อ ตัวคุ้กกี้ที่โปะหน้าขนมปังบางๆให้ความกรบกรอบ ตัดกับความนุ่มของขนมปัง เป็นขนมปังที่เนื้อสวยมากๆ เนื้อคล้ายเค้กเลย แต่บอกก่อนว่าแม้เนื้อขนมปังจะนุ่ม แต่หนึ่งว่าค่อนไปทางแห้งนิดๆ ไม่รู้เพราะไปซื้อตอนเย็นแล้วขนมอบไว้นานแล้วหรือเปล่า และรสโดยรวมอ่อนๆ ถามว่าอร่อยไหม…โดยรวมแล้วหนึ่งว่าธรรมดานะคะ ไม่ได้อร่อยว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่ และจุดเด่นเค้าคือ มันเป็นตำนาน เป็นประวัติศาสตร์ที่เรากินได้ในราคาไม่แพงด้วยค่ะ ^_^ แนะนำว่าซื้อคู่กับเครื่องดื่มซักแก้วกันติดคอ

 

ที่ตั้ง: มีหลายสาขา ย่าน Asakusa มีทั้งหมด 4 สาขาอยู่แถวๆวัด เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://asakusa-kagetudo.com/en/
เวลาเปิดปิด: 9:00-18:00 (หรือจนขนมปังหมด)
อาหาร: ขนมปังเมลอน
เมนูภาษาอังกฤษ: มี
ราคา: ประมาณ เยน
วิธีชำระเงิน:เงินสด

เจลาโต้มัทฉะที่เข้มข้นที่สุดในโลก @Suzukien
Suzukien เป็นร้านขายชาเก่าแก่ เปิดมาร่วม 150 ปี มีชาต่างๆจำหน่ายและเป็นที่รู้จักดีของคนท้องถิ่น ร้านนี้เริ่มทำเจลาโต้ชาเขียวและมัทฉะออกมาจำหน่ายในปี 2016 และได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับชาเขียว และเจลาโต้มัทฉะที่นี่ได้ชื่อว่ารสชาติเข้มข้นที่สุดในโลกด้วย!

**เจลาโต้เป็นภาษาอิตาเลี่ยน แปลว่า “ไอศครีม” แต่เจลาโต้แตกต่างจากไอศครีมทั่วไปคือมีปริมาณครีมน้อยกว่าไอศครีมทั่วไป ทำให้รสชาติจะเบาๆ ไม่ครีมมี่มาก ส่วนตัวหนึ่งว่าเหมาะมากสำหรับรสชาเขียวหรือมัทฉะ เพราะไม่มีครีมมากลบรสและกลิ่นของชาเขียว เรียกว่าได้ทั้งกลิ่นและรสของชาได้เต็มๆ**

ชาเขียวและมันทฉะก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นแบบสุดๆ มัทฉะเป็นชาเขียวแบบพรีเมียม เวลาเรียก เรียก “มัทฉะ” รู้กันเลยว่าเธอคือมัทฉะ ไม่ใช่ชาเขียวทั่วไป มัทฉะเธอมีความต่างจากชาเขียวทั่วไปตั้งแต่การดูแลต้นชา การเก็บใบชา และขั้นตอนการผลิต มัทฉะเองมีหลายเกรด ยิ่งพรีเมียมสียิ่งสวย กลิ่นหอมและไม่ขม ใครที่สงสัยว่าชาเขียวและมัทฉะคืออะไร เหมือนและต่างกันอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ไอศครีมมัทฉะหากินได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ร้านนี้จัดว่าเด็ดเพราะไอศครีมมัทฉะเค้ามีให้เลือกถึง 7 ระดับ ยิ่งระดับสูงความเข้มข้นของมัทฉะจะสูงตามไปด้วย ร้านอยู่หลังวัด Senso-ji หรือที่คนไทยคุ้นหูในนามวัด Asakusa นั่นเอง เดินไปทะลุหลังวัดแล้วเดินไปอีกนิดจะเห็นร้านมีธงภาษาญี่ปุ่นติดถนนเลยค่ะ ร้านเรียบง่าย ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษแต่ไม่ต้องกลัวหลง เพราะแถวนั้นมีร้านไอศครีมอยู่ร้านเดียว อิอิ

 

Tokyo

 

 

ตู้ไอศครีมเค้า แถวล่างเป็นไอศครีมมัทฉะทั้งหมดโดยความเข้มข้นเรียงจากน้อยไปมาก ซ้ายมือไปขวามือโดยที่ No 7 เป็นไอศครีมเจลาโต้ชาเชียวที่เข้มข้นที่สุดในโลก ส่วนชั้นด้านบนเป็นเจลโต้ชารสอื่นๆ รวมทั้งงาดำด้วยค่ะ

 

 

มีความเป็นตำนาน อิอิ เปิดมานาน ชอบกรอบรูปเค้า มันดูคล้ายกับเป็นตู้เก็บอะไรบางอย่าง

 

พนักงานในร้านพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการซื้อของค่ะ อิอิ หนึ่งเลือก No 6 ตอนนั้นอยากกินให้เยอะกว่านี้และลอง No 7 ที่เข้มที่สุด แต่ตัดใจเอาแค่ No 6 พอ แล้วไปเอางาดำมาเพิ่ม แบบว่าอยากลองรสอื่นที่ไม่ใช่ชาดูบ้าง

 

gelato matcha

 

ดูเนื้อเจลาโตชัดๆ สีเขียวสวยมาก ในส่วนของรสชาติ No 6 เข้มข้นเกือบมากที่สุด กลิ่นมัทฉะหอมมาก รสเข้มข้น ไม่ขมจัดนะคะ มีรสธรรมชาติของมัทฉะคือ ขมนิดๆ แล้วมีรสหวานปลายที่เป็นหวานจากตัวชาเอง ไม่เกี่ยวกับน้ำตาลนะคะ สำหรับ No 6 หนึ่งว่า เหมือนได้กินมัทฉะดีๆ ในรูปแบบของไอศครีม ในส่วนของงาดำก็อร่อยมากกกก หอมงา รสหวานกำลังดี กินคู่กันอร่อยมากค่ะ อยากมีพื้นที่ในท้องมากกว่านี้ จะได้ลองรสมากกว่านี้ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะน้องขนมเมลอนไม่นอนกองในท้อง คือท้องจะระเบิดแว้ว

 

gelato matcha

 

ร้านไม่มีโต๊ะให้นั่งกินนะคะ แต่มีพื้นที่สำหรับยืนกินในร้าน มีช้อนและน้ำเปล่าฟรีให้เราบริการตัวเอง นอกจากนี้ภายในร้านยังมีชาจำหน่ายด้วย หนึ่งซื้อผงชามัทฉะที่ใช้ทำเจลโต้ No 7 มา ราคาแรง ซื้อเสร็จถือไปมา กลับถึงโรงแรม หาไม่เจอ #ร้องไห้หนักมาก จะกลับไปซื้อที่ร้านก็ไม่ทันเพราะมีโปรแกรมต่อ หมายมั่นว่าไปโตเกียวรอบหน้าต้องไปล้างตาค่ะ

 

ที่ตั้ง:3-4-3 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Asakusa ประมาณ 10-15 นาที (อยู่หลังวัด)
เวลาเปิดปิด: 10:00-ประมาณ 17:00 ปิดวันพุธ สัปดาห์ที่ 3
เมนูภาษาอังกฤษ: ไม่มี
ราคา: ประมาณ 400-1000 เยน
วิธีชำระเงิน:เงินสด

แพนเค้กสุดนุ่ม @ Flipper’s

หลายคนอาจจะเคยผ่านหูผ่านตาว่า Gram pancake ร้านแพนเค้กญี่ปุ่นเมาเปิดสาขาที่บ้านเรา จริงๆแล้ว แพนเค้กที่ญี่ปุ่นมีหลายเจ้ามากๆ และ Flipper’s คือหนึ่งในนั้น จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือความนุ่มค้อดๆ นุ่มเหมือนเมฆ (ขนาดนั้น) อย่ากระนั้นเลยเราต้องไปพิสูจน์ว่าจริงแท้แค่ไหน แต่ถ้าใครเคยไปต่อคิวซื้อแพนเค้กเจ้าดังในญี่ปุ่นจะรู้ว่า นอกจากคิวจะยาวเพราะคนเยอะแล้ว ต้องรอแพนเค้กทำเสร็จด้วย เพราะแพนเค้กต้องกินตอนทำเสร็จใหม่ๆ และการทำแพนเค้กนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาทีรวมแต่งจานนู่น นี่ นั่น ดังนั้น การไปรอกินนั้นอาจจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชม! ในภาวะปกติขอบอกว่า ไม่ชอบการไปต่อคิวเพื่อรอซื้อของหรือกินเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเจ้าที่คิวยาวมากๆ ถ้าหนึ่งทำแปลว่ามีเหตุผลบางอย่าง อิอิ แต่โชคดีที่ Flipper’s เธอมีร้าน Flipper’s stand ซึ่งเน้นขายเมนูจำกัดและเน้นแบบ to go การรอคิวไม่รุนแรงนัก เลยได้มีโอกาสชิมแพนเค้กเจ้านี้

Flipper’s stand เค้าจะเล็กๆ มักอยู่ตามแหล่งชุมชน และมีเมนูให้เลือกไม่กี่อย่าง เน้นขายแบบ to go และมีเครื่องดื่มให้บริการด้วย แอบเห็นว่ามีชาไข่มุกด้วย ดูเหมือนกำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น

 

 

มีแพนเค้กให้เลือกสองแบบคือ แพนเค้กพุดดิ้งรสสตรอเบอร์รีและรสช็อกโกแลต และมีแบบสำเร็จรูปซื้อกินได้เลยอีก 1 แบบ

 

 

หนึ่งซื้อแบบแพนเค้กพุ้ดดิ้งสตรอเบอร์รีมาค่ะ เป็นแพนเค้กโปะด้วยคัดตาร์ดพุดดิ้งแบบนี้ มีช้อนในตัวให้เสร็จ เรื่อง packaging เค้านี่กินขาดจริงๆ ใช้สีพาสเทล ดูน่ารัก น่าอร่อย อิอิ

 


ดูด้านข้างจะเห็นว่ามีชั้นของครีมและสตรอเบอร์รีด้วย

 

 


ได้เวลาชิมค่า เนื้อแพนเค้กนุ่มมาก นุ่มแบบเตะลิ้นก็ยวบเลย ด้านในสอดไส้วิปปิ้งเนื้อนุ่มละลายในปาก มีความเปรี้ยวจากสตรอเบอร์รี จ้วงลึกลงไปเป็นพุดดิ้งรสไม่หวานจัด แต่ตัวพุดดิ้งหนึ่งเฉยๆนะคะ แอบอยากให้ปริมาณมันน้อยกว่านี้หน่อย 555 สรุปว่าอร่อยดีค่ะ

 

 

ที่ตั้ง: มีหลายสาขาทั่วโตเกียว เจอที่ไหน ลองชิมได้เลยค่ะ
เวลาเปิดปิด: ประมาณ 11:00-20:00
อาหาร: แพนเค้ก
เมนูภาษาอังกฤษ: มี
ราคา: ประมาณ 1000 เยน
วิธีชำระเงิน:เงินสด

Ringo พายคัสตาร์ดแอ้ปเปิ้ล

หนึ่งเป็นคนชอบกินขนมตระกูลพาย พัฟ เพสทรีอยู่แล้ว เห็นป้ายขนมเจ้านี้โฆษณาอยู่ในสถานีรถไฟชินจูกุเลยรีบตามกลิ่นไป อิอิ Ringo เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า แอ้ปเปิ้ล ซึ่งก็ตรงคอนเซปท์เค้าเลยคือเป็นพายแอ้ปเปิ้ลที่แอบมีความพิเศษตรงที่เพิ่มไส้คัสตาร์ดเข้าไปด้วย เจ้านี้ถือว่าค่อนข้างได้รับความนิยมทีเดียวค่ะ มีหลายสาขา หนึ่งซื้อที่ชินจูกุ กินอยู่สองรอบเลยทีเดียว คือซื้อปุ้บกินปั้บมันรู้สึกอร่อย ^_^

เคล็ดลับการกินขนมพวกนี้ให้อร่อยคือ กินทันทีที่ซื้อ ล็อตนี้เพิ่งอบเสร็จเลยค่ะ แป้งพายหอมเนย กรอบนอก ตัวไส้แอ้ปเปิ้ลเปรียวหวานกำลังดี บวกกับความครีมมี่เบาๆจากไส้วานิลลาคัสตาร์ด ที่บีบคู่กันมา อร่อยค่ะ หนึ่งชอบ แม้ว่าวานิลลาคัสตาร์ดจะไม่มีเม็ดจากฝักวานิลลาให้เห็น กลิ่นวานิลลาไม่ชัด แต่ให้อภัยค่ะเพราะเธอเป็นตัวเสิรมรสไส้แอปเปิ้ลที่รสชาติจัดจ้านกว่าวานิลลาอยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 

สำหรับ Ringo ไม่จำเป็นต้องบินไปกินที่ญี่ปุ่นแล้วค่ะ เพราะมีมาเปิดที่ กทม ในนามของ RAPL Apple Pie หาชิมได้ที่ Siam Discovery ชั้น M นะคะ หนึ่งไปชิมมาแล้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นทุกอย่างตั้งแต่การแต่งร้าน packaging รวมถึงรสชาติ จะต่างนิดหน่อยตรงที่บ้านเราร้อนกว่าเท่านั้นเอง อิอิ

ที่ตั้ง: มีหลายสาขา เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://ringo-applepie.com/shop/
เวลาเปิดปิด: 9:00 -18:00 (หรือจนขนมหมด)
อาหาร: ขนมปังเมลอน
เมนูภาษาอังกฤษ:
ราคา: ประมาณ 1000 เยน
วิธีชำระเงิน:เงินสด

ขอเพิ่มขนมอีกสองตัวที่กินแล้วรสชาติพอได้ แต่ไม่ได้ประทับใจมาก เผื่อมีใครไปเที่ยวแล้วอยากชิม หรืออยากลองนะคะ

1. Choux Box จากร้าน DALLOYAU

หนึ่งเดินผ่านร้าน เห็นน่าสนใจเลยลองซื้อมาชิม DALLOYAU เป็นร้านขนมหวานเก่าแก่ ต้นกำเนิดที่ฝรั่งเศส แต่มีสาขาในเอเซียหลายสาขารวมทั้งที่ญี่ปุ่นด้วย ในร้านมีขนมหลายตัว แต่เลือกชูครีมเพราะรูปร่างที่แปลกกว่าชูครีมปกติคือเป็นกล่องแบบนี้
ชุครีมแบบกลมโลกไม่จำเนอะ ดูขนาดเสียก่อน บิ๊กมาก

 

 

กัดเข้าไป เปลือกบาง ไส้ตู้มมากค่ะ ด้วยรูปทรงแบบนี้ ทำให้ไส้มีปริมาณมากกว่าชูครีมแบบทรงกลม ตัวไส้ที่เห็นเป็น vanilla diplomat cream คือมีวานิลลาเพสครีมครีม (อันเดียวกันกับคัสตาร์ดครีมนั่นแหละ) ผสมกับวิปปิ้งครีม ขนมระดับนี้ ราคานี้ที่ญี่ปุ่น ใช้วานิลลลาฝักแท้ ไม่มีใช้ vanilla extract หรือแต่งกลิ่นวานิลลานะคะ

 

 

เม็ดดำๆ เล็กๆ ที่เห็นในเนื้อครีมคือ เม็ดของวานนิลลานะคะ ไม่ใช่ราเด้อ ^_^ สำหับรสชาติ หนึ่งว่าโอเค แต่ไม่ได้ประทับใจมาก ส่วนตัวคิดว่า ตัวครีมรสโดยรวมค่อนไปทางจืดนิดๆ และครีมน่าจะมีอัตราส่วนของวิปปิ้งครีมสูง พอกินในปริมาณเยอะๆ แล้วมันแอบเลี่ยนค่ะ

 

 

มาที่ Press Butter Sand หนึ่งซื้อชิมเพราะมีรีวิวชื่นชมว่าอร่อยมากและบังเอิญเห็นมีขายที่สถานีชินจูกุ จริๆแล้วมันคือคุ้กกี้เนยนั่นเองค่ะ แต่เป็นแบบคุ้กกี้แซนวิช เค้าก็เข้าใจทำการตลาด เรียกชื่อให้ดูแปลกใหม่นะคะ ^_^

 

 

หน้าตาเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กประมาณนี้ ประกบกันชัดเลย เรื่องหีบห่อเค้านี่ยกให้เค้าเลยค่ะสำหรับคนญี่ปุ่น

 

 

ลองชิมดูนะคะ กัด 1 คำ พบว่าข้างในมีไส้ 2 แบบ ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร คาราเมลหรือไวท์ช็อกโกแลตกับไส้สีขาวที่มันดูคล้ายไส้โอรีโอ้ และมันหวานมาก ตัวคุ้กกี้มีความกรอบ แต่ไม่ค่อยหอมเนยมากเท่าไหร่ โดยรวมถือว่าโอเคค่ะ แต่ไม่ใช่ขนมแบบที่หนึ่งชอบกิน ใครสนใจอยากชิมลองซื้อดูนะคะ อาจจะชอบ

 

 

หวังว่าจะเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่ชอบเที่ยวไป กินไป เหมือนกับหนึ่งนะคะ ^_^

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

ช้อปปิ้งวัตุดิบและอุปกรณ์เบเกอรีที่ Cuoca Jiyugaoka
December 11, 2019
Totoro choux cream
EAT IN TOKYO กินอะไรอร่อยที่โตเกียว ตอนที่ 2.1 ขนมหวานอร่อย
May 04, 2019
Eat in Tokyo กินอะไรอร่อยที่โตเกียว ตอนที่ 1
March 13, 2019
Takayama เที่ยวเมืองเก่า เดินตลาดเช้า กินเนื้อฮิดะ
Takayama เที่ยวเมืองเก่า เดินตลาดเช้า กินเนื้อฮิดะ
June 11, 2017
Japan Sakura Hunting - ตามล่าหาซากุระ 3
Japan Sakura Hunting – ตามล่าหาซากุระ 3
June 11, 2017
Hanami Festival @ Omiya Park
Hanami Festival @ Omiya Park
June 02, 2017
Gontran Cherrier, JR Nagoya Takashimaya
Gontran Cherrier ร้านเบเกอรีสไตล์ฝรั่งเศสสุดอร่อยในญี่ปุ่น
May 31, 2017
Japan Sakura hunting trip
Japan Sakura Hunting trip
May 30, 2017
Weekend Shuffle, Kawaguchiko lake, Japan, Fuji five lakes
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น งบเท่าไหร่ พักที่ไหน
June 19, 2015

1 Comments

FUFY
Reply June 10, 2019

ตระเวนกินอีกแล้วววว ^_^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Leave a Reply to FUFY Cancel