เที่ยวเมือง Beaune แคว้น Burgundy แคว้นแห่งไวน์
เที่ยวเมือง Beaune แคว้น Burgundy แคว้นแห่งไวน์
หลังจากเที่ยวโซน Auvergne-Rhône-Alpes region ทั้งเมือง Chamonix และ Annecy ไปแล้ว บล็อกเเอนทรีนี้หนึ่งจะพาเที่ยวเมือง Beaune แคว้น Burgundy แคว้นแห่งไวน์กันต่อค่ะ เมืองนี้ตามแผนที่แล้วก็ไม่ห่างจาก Annecy มากนัก จริงๆเราแว้บเข้ามาแคว้นเบอกันดีแล้วตอนไปเมือง Dijon แต่เราแทบไม่ได้ชิมไวน์หรือมีกิจกรรมอะไรมากนักที่ดิจองเพราะตั้งใจมาเน้นๆที่เมือง Beaune ค่ะ
เมือง Beaune (โบน) มีอะไรน่าเที่ยว
..มีเมืองเก่าที่สวยงาม และมี Hospices de Beaune โรงพยาบาลเก่าในยุคศตวรรษที่ 14 ที่สวยงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
..เป็น “Capital of Burgundy wines” ใครชอบดื่มไวน์ไม่ควรพลาด มีจุดชิมไวน์ที่เก่าแก่และโด่งดังอย่าง Patriarche และมีทีไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตาไม่ไกลจากเมืองโบน
..อาหารอร่อย ไวน์ดีคู่กับอาหารอร่อย เมืองโบนมีร้านอาหารให้เลือกมากมายรวมทั้งร้านอาหารมิชลินด้วย
เรียกได้ว่า “ครบ” นะคะ เป็นอีกเมืองที่หนึ่งชอบมาก และเราก็เที่ยวได้ครบทุกไฮไลท์เลย
การเดินทาง
สำหรับทริปนี้เราเดินทางด้วยการขับรถจากเมือง Annecy ระยะทางประมาณ 251 กม วิ่งสบายๆบนมอเตอร์เวย์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว
การเดินทางจากปารีส การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุดคือรถไฟ TGV ใช้เวลาประมาณ 2 ชม 15 นาที เข้าไปเช็ครอบรถไฟได้ที่นี่ https://en.calendar.voyages-sncf.com ถ้าใครอยากขับรถจากปารีส ระยะทางประมาณ 311 กม ใช้เวลาประมาณ 3 ชม นิดๆ
จาก Annecy ที่ฝนกระหน่ำตกพอเข้าเขตเบอร์กันดีอากาศก็ดี๊ดี ดีใจมากเพราะลุ้นมากไม่อยากเที่ยวแบบเปียกปอนเหมือนที่ชาโมนีและอานซี ในรูปเป็นเส้นมอเตอร์เวย์นะคะ ถนนดีมาก ขับรถง่ายสุดๆ
เราพักที่เมืองโบน 1 คืน ใช้เวลาเที่ยวเมืองนี้ 1 วัน จริงๆก็ไม่เต็มวันดีนักแต่ก็เที่ยวได้ครบและพอใจค่ะ บล็อกเอนทรีนี้หนึ่งจะพาเที่ยวเมืองเก่าก่อนจะพาไปทานอาการอร่อยในโรงเก็บไวน์เก่า พาไปชิมไวน์และปิดท้ายด้วยเที่ยวไร่องุ่น
ก่อนจะพาไปเที่ยวหนึ่งขอพูดถึงโรงแรมที่เราพักซักนิด ibis Beaune Centre เป็นโรงแรมที่ทำเลดีมาก (ก ล้านตัว) เดินไปเมืองเก่าแค่ 5 นาที มีที่จอดรถ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยมและช่วยเหลือดีมาก เราได้แผนที่เที่ยวเมือง ร้านอาหารแนะนำจากโรงแรมนี่เอง สะอาดแม้ห้องจะค่อนข้างเล็กแต่ความสะดวกสบายมีครบ นอนสบายค่ะ
เดินเที่ยวเมืองเก่า
เมืองเก่าของโบนอยู่ในสภาพที่ดีมาก มีกำแพงล้อมรอบโดยมีแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาคือ Hospices de Beaune นอกจากนี้ก็มีร้านไวน์ ร้านขายของช้อปปิ้ง คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก โบสถ์ โรงแรม เราไปเดินเล่นตอนเย็นรอบนึงก่อนจะมาอีกรอบตอนเช้าค่ะ
เดินมาจากโรงแรม 5 นาทีก็ถึงเมืองเก่าแล้วค่ะ ดี๊ดี อิอิ เราใช้แผนที่ที่โรงแรมให้มา แต่เอาเข้าจริงๆแทบไม่ได้ดูแผนที่เลย ;)เดินเข้ามปุ้บเห็นแลนมาร์คของเมืองเก่าเลย Hospices de Beaune หรือ Hôtel-Dieu de Beaune ด้านหน้าดูเรียบๆ เงียบๆเพราะเย็นมากแล้ว เราตกลงกันว่าจะมาพรุ่งนี้แต่เช้าและเข้าชมทันทีที่เปิด วันนี้เดินเล่นดูเมืองเก่าไปเรื่อยๆก่อน
คาเฟ่และร้านรวงต่างๆ ของเค้า นักท่องเที่ยวเมืองนี้ไม่พลุกพล่าน(ชอบๆ)บวกกับเรามาถึงก็เย็นแล้ว
ร้านไวน์ มาถึง The Capital of Burgundy wines ก็ต้องมีร้านไวน์ให้ลองชิมและจำหน่ายอยู่แล้วเนอะ ^_^ เห็นมีหลายร้านแต่เราเดินผ่านๆ ไม่ได้เข้าไปเพราะเรามีจุดหมายหลักอยู่แล้ววันพรุ่งนี้ค่ะ
ถาดเล็กๆในรูปเดาได้ไหมคะว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร ^_^ ใครอยากรู้ตามไปอ่านได้ที่บล็อกเอนทรีหน้าตอนชิมไวน์ที่ Patriarche นะคะ
เดินผ่านร้าน Charcuterie น้องหมูน่ารักมาก อดถ่ายรูปไม่ได้ อิอิ
ตัดฉับมาช่วงเช้าวันรุ่งขึ้นนะคะ วันนี้เราตั้งใจมาเที่ยว Hospices de Beaune โดยเฉพาะก่อนจะไปชิมไวน์
Hospices de Beaune หรือ Hôtel-Dieu de Beaune เป็นโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นเพื่อการกุศลสำหรับคนยากจนในปี คศ 1443 บวกลบคูณหารแล้วอายุรวมตอนนี้ก็ 573 ปีแล้ว โรงพยาบาลเก่าแห่งนี้เป็นตัวอย่างของสถาปัตกรรมฝรั่งเศสที่สวยงามในยุคศษวรรษที่ 15 ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์และนอกจากนี้ยังมีการประมูลไวน์ซึ่งเริ่มมีตั้งแต่ปี 1859 ในช่วงเดือน พ.ย ของทุกปีโดยเดิมทีเป็นประมูลเพื่อการกุศล เนื่องจากโรงพยาบาลในยุคนั้นได้รับบริจาคไร่ไวน์ จึงมีการผลิตไวน์และนำออกมาประมูล ปัจจุบันยังมีการจัดงานประมูลอยู่ หนึ่งได้ยินว่าราคาประมูลสูงกว่าราคาขายทั่วไปด้วยและมีคนประมูลจากทั่วโลกเลยทีเดียว
เปิดทุกวัน 9:00-18:30 (ช่วงฤดูหนาวเวลาเปิดปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
ค่าเข้าชม 7.50 ยูโร มี audio ให้ฟังตอนเดินชมพิพิธภัณฑ์โดยสามารถเลือกภาษาได้
ซื้อบัตรเสร็จ เดินเข้ามาด้านในเห็นอาคารสองชั้นแต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือหลังคากระเบื้องหลากสีสวยงามซึงกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแคว้นเบอกันดี
ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ห้องแรกคือ “Room of the poor” เป็นเตียงขนไข้เรียงยาวสองข้างโดยด้านหน้าเป็นโบสถ์ แสดงให้เห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้รักษาทั้งร่างกายและเยียวยาจิตใจไปด้วย
ภาพนี้ไม่ค่อยชัดเพราะถ่ายจากมือถือแต่อยากให้เห็นว่าคานไม้เค้าสวยงามและเพดานก็มีรายละเอียดและสวยงามเช่นกัน
เตียงแน่นมาก ในช่วงเวลาที่คนไข้แน่นๆมีเสริมเตียงตรงกลางด้วย ในยุคแรกๆ ไม่มีการแยกเตียงชายหญิง
พอเดากันไหมไหมคะ ว่าเป็นเตียงคลอด พยาบาลในยุคนั้นเป็นแม่ชีทั้งหมด
ห้องนี้เป็นห้องคนไข้เหมือนกันแต่มีความพิเศษคือจำนวนเตียงน้อยกว่าและกำแพงด้านหน้ามีภาพวาดสวยงามหลายรูปติดเต็มพื้นที่ไปถึงเพดาน สวยงามมาก
เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์เมื่อห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว หนึ่งอดตื่นเต้นไม่ได้เพราะเป็นสายอาชีพตัวเอง ในยุคนั้นหนึ่งว่าก็ทันสมัยไม่เบาเลยค่ะ ตำรา anatomy ก็คล้ายๆกับเล่มที่หนึ่งเรียนด้วย อิน อิน ^_^
ห้องผลิตยาดูทันสมัยมากๆ เมื่อเทียบว่าเกิดขึ้นเมื่อห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว ยาต่างๆจัดเก็บในขวดมีชื่อติดอย่างเป็นระเบียบ
ห้องเตรียมอาหาร เครื่องมือเค้าดูทันสมัยและพร้อมสำหรับเลี้ยงคนทั้งโรงพยาบาล
จริงๆมีห้องซักรีดด้วยแต่หนึ่งไม่ได้ถ่ายรูปมา เดินดูเพลินมากจริงๆ อาจจะเป็นเพราะเกี่ยวกับสายอาชีพหนึ่งด้วยและเค้าก็นำเสนอได้น่าสนใจ มีการแสดงแบบภาพเคลื่นไหวด้วย แต่ถ้ามากลางคืนอาจจะตกใจนิดนึง 😉
ปิดท้ายด้วยด้านนอกนะคะ หนึ่งชอบที่นี่มาก ทั้งด้านของความสวยงามและประวัติศาสตร์ ใครที่มาเมืองนี้ไม่ควรพลาด บล็อกเอ็นทรีหน้าหนึ่งจะพาไปชิมอาหารอร่อยต่อด้วยชิมไวน์ที่ร้านไวน์เก่าแก่และมีชื่อของเมืองนี้ค่ะ ^_^
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
July 30, 2017ดูแล้วเพลินมาก หนึ่งในที่ที่ไม่ควรพลาด!