Plan and Pack Autumn in France


Plan and Pack Autumn in France – เที่ยวฝรั่งเศสช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเถอะ!

หนึ่งไปเที่ยวฝรั่งเศสมาอีกแล้วค่ะ 3 ครั้งใน 1 ปี!! ติดใจอะไรนักหนาถึงไปบ่อยขนาดนั้น 😉

ครั้งแรกไปกับครอบครัว ตัดสินใจไปฝรั่งเศสเพราะคิดว่าถึงเวลาเสียที ทริปนั้นเที่ยวแค่สามเมืองคือ ปารีส ลียง(Lyon) และชาโมนี(Chamonix) ไปกันตอนปลาย ก.พ. อากาศหนาวเย็นเลยทีเดียว รายละเอียดของทริป คลิกอ่านได้ที่นี่ เที่ยวครั้งนี้เน้นการเดินทางด้วยระบบสาธารณะคือ รถไฟ ทั้งในปารีสและช่วงออกนอกเมือง เป็นการเที่ยวที่ตะกุกตะกักบ้างเพราะเป็นครั้งแรก งงเรื่องการใช้ตั๋วของรถไฟในปารีส เจอปัญหารถไฟดีเลย์ช่วงเดินทางออกต่างเมือง ฝนตกที่ลียง อากาศแย่จนไม่ได้ขึ้นกระเช้าที่ชาโมนี เดินเยอะจนพี่น้องเกือบไม่ไหวที่ปารีส แต่ทุกคนก็ประทับใจและอยากไปอีก

ครั้งสอง เกิดจากความรู้สึกว่ายังคาใจจากทริปแรก โดยเฉพาะที่ปารีส (แบบว่ายังเดินไม่สะใจ) เลยตัดสินใจไปอีกรอบกับพาร์ทเนอร์สองคน เดินทางช่วงปลายเม.ย. เป็นช่วงสปริงหรือใบไม้ผลิ ดอกไม้กำลังบาน เน้นเที่ยวเฉพาะที่ปารีสและเมืองใกล้ๆเท่านั้น แต่แอบออกไปเที่ยว Loir Valley แบบ one day trip ด้วย นับว่าเป็นทริปที่เบิกบานและพอใจที่สุด เพราะอากาศดี ไม่ร้อน ไม่หนาว มี cherry blossoms ให้ดูมากมาย สวนต่างๆดอกไม้สดใส ต้นไม้เขียวขจี ได้กินอาหารและขนมอร่อย แต่ถึงกระนั้นก็ยังเที่ยวและกินไม่ครบตามที่ปักหมุดไว้ เที่ยวครั้งที่สองหนึ่งไม่ได้ลงแผนเที่ยวไว้ แต่ลงบล็อกCherry Blossoms in Paris และ Cherry Blossoms in Park de Sceaux ไว้

ครั้งที่สาม..จริงๆแล้วไม่ตั้งใจจะเป็นที่ฝรั่งเศส ตั้งใจไปหลายที่ ย้ายไปเรื่อยตั้งแต่กรีกไปจนถึง Scandinavia แต่แผนไม่ลงตัวเพราะเวลาและการเดินทางไม่อำนวย สุดท้ายมาลงที่ฝรั่งเศสด้วยเหตุผลง่ายๆคือ “มีวีซ่าเหลือ” (ทำวีซ่าจากครั้งแรกได้ 1 ปี) ทริปนี้จึงเป็นทริปชิลๆ ไม่คิดอะไรมาก เน้นดื่ม กิน เที่ยวและช้อปปิ้ง ตามลำดับ แต่ทริปนี้แตกต่างจากทริปอื่นๆ ตรงที่เป็น road trip คือเช่ารถขับ โดยไปทั้งหมดสามแคว้นคือ Champagne Burgundy และ Rhone-Aples แล้วกลับมาเที่ยวปารีสต่อ เป็นทริปที่ฟินมาก จัดเต็มทั้งอาหาร ไวน์ ขนม เที่ยว แม้จะเจอฝน (อีกแล้ว)ที่ชาโมนีและอานซี แต่โดยรวมแล้วเป็นทริปที่ประทับใจมาก รายละเอียดแผนเป็นยังไงมาดูกันค่ะ

Autumn in France 2016

วันเดินทาง : 21-31 ต.ค. 2016

สายการบิน : Emirates Airline

สมาชิก : 4 คน

Budget: 62,xxx บาท รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง (ค่าเครื่องบินม ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าโรงแรม ค่าอาหารเกือบทุกมื้อ ค่าเข้าชิมไวน์และแชมเปญ) ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง

สถานที่ : 4 เขต 8 เมืองใหญ่ๆ เส้นทางที่เราขับรถเที่ยว วิ่งไปประมาณ 1600 กิโลเมตรได้
 
Autumn in France

แผนเที่ยว

Day 0: BKK/DXB(Dubai)
Flight 21:25 เปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ

Day 1:DXB/CDG/Epernay (ระยะทาง 165 km)
 
Champagne

เช้า: ถึงสนามบิน CDG 9:30 รับกระเป๋า เช่า pocket wifi, รับรถ
บ่าย: เที่ยวแคว้นแชมเปญ คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด
อาหารเที่ยง: ร้าน Auberge du Lion d’Or
พัก Hôtel Première Classe Epernay  

Day 2:Epernay/Throyes/Dijon(scenic route) ระยะทาง 337 km
 
FRANCE ROAD TRIP
เช้า: Moet et Chandon tour ชมห้องบ่มแชมเปญและชิมแชมเปญจาก champagne house ระดับโลก คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด
บ่าย: เมือง Throyes, Dijon ขับรถตาม scenic route คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด
พัก ibis Dijon Centre Clemenceau

Day 3:Dijon/Chamonix ระยะทาง 386 km
 
d3
เช้า: Dijon คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด
บ่าย: Chamonix คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด

พัก Hôtel de L’Arve

Day 4:Chamonix
 
chamonix
Aiguille du Midi & The void (ขึ้นยอด Mont blanc)
เดินเล่นในเมือง
พัก โรงแรมเดิม
คลิกที่นี่เพื่อเข้าไปอ่านรายละเอียด
Day 5:Chamonix/ Annecy/Beune ระยะทาง 352 km
 
France road trip
เช้า: Annecy คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่
บ่าย: Beaune ชิมอาหารอร่อยในห้องเก็บไวน์เก่าสุดคลาสสิกที่ Abbaye de Maizieres Restaurant คลิกอ่านได้ที่นี่
พัก ibis Beaune Centre

Day 6: Beaune/Semur-en-Auxios/Paris ระยะทาง 373 km
 

france road trip
เช้า: เที่ยวเมือง Beaune;
– เที่ยวเมืองเก่า ชมความสวยงามงามของ Hospices de Beaune คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่
– ชิมไวน์ที่ Patriarche (wine tour) อ่านรายละเอียดได้ ที่นี่
– Vineyard Drive ขับรถเที่ยวไร่องุ่นที่สวยงาม คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่
บ่าย: เที่ยวเมือง Semur-en-Auxios ที่สุดแสนน่ารั คลิกที่นี่เพื่อเข้าไปอ่านรายละเอียด
ค่ำ: ถึงปารีส คืนรถ ทำบัตร Navigo pass เป็นบัตรสุดคุ้มเพื่อใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟในปารีส คลิกที่นี่เพื่อเข้าไปอ่านรายละเอียด

Day 7: Paris 1
 
paris
 

เที่ยว: Palais Royal, Galerie Vivienne,Passage des Panorama, Eiffel tower, Ponte Alexander, Place de la Concorde, Louvre Museum

Day 8: Paris 2
 
paris

เที่ยว: Flower market (Cite metro station), Notre Dame, Shakespear & Company, Pantheon, Les Marche Catherine B (Chanel vintage shop), Latin Quater: ถนน Saint-Germain-des-Prés (Les Deux Magots & Café de Flore) ถนน Rue de Sèvres (Hermes flagstore, Le Bon Marche, Le Grande Epiceries, La Patisseries des Reves
 
Day 9: Paris 3/CDG
 
Paris
La vallée Village outlet
เช้า: Bastile Market, Place Vosges
บ่าย: ช้อปปิ้ง La vallée Village outlet
ค่ำ check in flight กลับ 21:35

Day 10:DXB/BKK
ถึง กทม 21:30 น (รอเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 4 ชม)

การเตรียมตัว :

การขอวีซ่า : รายละเอียดเข้าไปอ่านได้ที่นี่

จัดกระเป๋า:
– เสื้อผ้าสำหรับช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศไม่หนาวมาก เน้นใส่แบบ Layer แต่เตรียมเสื้อหนาๆกันกนาวได้เยอะๆสำหรับขึ้นยอด Mont Blanc ที่ชาโมนี เนื่องจากเป็น Road trip เราเลยจำกัดขนาดกระเป๋าไม่ให้เกิน 24 นิ้ว เพื่อให้สามารถใส่ในรถที่เช่าได้ (เราเช่ารถ Hatchback).
– เตรียมร่มและเสื้อกันฝนไปด้วย เพราะมีโอกาสเจอฝน
– เวลาช้ากว่าบ้านเรา 6 ชั่วโมง
– กระแสไฟฟ้าที่ฝรั่งเศส 220 โวลท์แต่ใช้ปลั๊กแบบหัวกลมเท่านั้น
– เตรียมรูปถ่ายขนาด 1 นิ้วสำหรับทำ Navigo pass ซึ่งเป็น pass สำหรับรถสาธารณะในปารีส อ่านรายละเอียดได้ได้ที่นี่

หนึ่งมีความเห็นเกี่ยวกับโรงแรมที่พักในทริป (เป็นความเห็นในแง่ขับรถเที่ยวนะคะ) ซึ่งพยายามเลือกที่พักที่ไม่แพงมากแต่สะดวกสบาย มีที่จอดรถฟรี และสามารถ check in ตลอด 24 ชม โรงแรมที่จองไว้ถือว่าโอเคมากๆ การจองเลือกผ่าน skyscanner ใครให้ถูกกว่าก็จองเจ้านั้น (ห้องที่จองทั้งหมดเป็น double room- นอนสองคน 1 เตียงใหญ่ และไม่รวมอาหารเช้า)

Hôtel Première Classe Epernay

– โรงแรม 2-3 ดาว ค่อนข้างใหม่ ราคาน่ารักสุดๆ (ได้ราคาห้องละ 1332 บาท)
– ห้องขนาดเล็ก แต่สะอาดและนอนสบาย
– ที่จอดรถฟรี มีลิฟท์

ibis dijon centre

– โรงแรม 3 ดาวในเครือ ibis ค่อนข้างใหม่ ราคารับได้ ไม่แพงมาก
– ห้องขนาดกะทัดรัด สะอาด นอนสบาย
– มีลิฟท์ให้บริการ ที่จอดรถมีทั้งแบบฟรี (จอดริมถนนหน้าโรงแรม ต้องหาจังหวะว่างเอง) และแบบจ่ายเงิน (ลานจอดรถใต้ดินหน้าโรงแรม)
– location ดี สามารถเดินไปเที่ยวเมืองเก่าได้ เดินประมาณ 10 นาที

Hôtel de L’Arve

– โรงแรม 3 ดาว ค่อนข้างเก่าแต่สะอาด
– ห้องนอนขนาดใหญ่กว่าทุกโรงแรมที่พักในทริปนี้ มีลิฟท์
– ที่จอดรถฟรีในเขตของโรงแรม และเป็นระบบปิด (ปลอดภัยต่อรถ)
– อยู่ใกล้ใจกลางเมืองเดินไปประมาณ 3-5 นาที

ibis Beaune Centre

– โรงแรม 3 ดาวในเครือ ibis ค่อนข้างใหม่ ราคารับได้ ไม่แพงมาก
– ห้องขนาดกะทัดรัด สะอาด นอนสบาย
– มีลิฟท์ให้บริการ ที่จอดรถฟรีในระบบปิดรอบโรงแรม
– พนักงานน่ารักมาก ให้ข้อมูลดีมากทั้งการท่องเที่ยว ร้านอาหารและแผนที่
– location ดีมาก สามารถเดินไปเที่ยวเมืองเก่าได้ เดินประมาณ 5-7 นาที

Agora hotel paris

– โรงแรม 2 ดาวที่เก่า แต่สะอาดพอใช้ เป็นโรงแรมเจ้าประจำที่มาทีไรก็พักที่นี้ประจำ
– ข้อดีคืออยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ Châtelet – Les Halles แค่สองร้อยเมตร ตัวสถานีรถไฟมีช้อปปิ้งมอลล์ขนดใหญ่และรอบๆมีร้านอาหารร้านขายของมากมาย อยู่ใกล้ local street food (Rue Montorgueil) และใกล้ที่เที่ยวหลายจุดแบบสามารถเดินได้(ถ้าอยากเดิน) หรือขึ้นรถไฟก็สะดวก ราคาไม่แพงมาก
– ข้อเสียคือ มีลิฟท์ให้บริการแต่ลิฟท์ขนาดเล็กมากๆ และมีที่ชั้นสอง นั่นหมานถึงเราต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปชั้นล้อบบี้ก่อนถึงจะใช้ลิฟท์ได้ ทางเดินขึ้นลงค่อนข้างแคบ พนักงานอาจจะดูเหมือนไม่ค่อย friendly แต่จริงๆโอเคเลย

แผนทริปนี้เป็นแผนที่สบายๆ ไม่รีบร้อน ถือเป็นแผนเที่ยวที่ดีมากแผนหนึ่งตั้งแต่เคยทำมาเลยล่ะ 😉 สำหรับเรื่องการเตรียมตัว Road trip รวมทั้งรายละเอียดการเช่ารถหนึ่งขอยกไปไว้ในบล็อกเอ็นทรีหน้า คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่

 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

Croissant Hopping in Paris
May 05, 2022
เที่ยวไปกินไปในปารีสตอนที่ 2
October 18, 2017
L'Escargot Montorgueil
French Cuisine and Snails @ L’Escargot Montorgueil
September 12, 2017
Fogón, a contemporary Spanish near Notre Dame Paris
August 29, 2017
Le Comptoir du Relais Saint-Germain
Le Comptoir du Relais ร้านอาหารของเจ้าพ่ออาหารแนว bristo
August 22, 2017
Île de la Cité, Historical heart of Paris
July 22, 2017
เที่ยวไปกินไปในปารีสตอนที่ 1
July 06, 2017
Fou de Patisserie Boutique
Fou de Patisserie Boutique
July 06, 2017
Paris
Maison de la Truffe ชิมอาหารที่ทุกจานมีทรัฟเฟิล
July 01, 2017

2 Comments

FUFY
Reply November 7, 2016

Eat, drink, eat, drink, repeat!

LOVE THIS TRIP!! ^_^

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Leave a Reply to FUFY Cancel