เที่ยวปารีสด้วยรถไฟ
ปารีสเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ซับซ้อนเป็นโยงใยครอบคลุมทั้งตัวเมืองปารีสและแถบชานเมือง ขนส่งมวลชนเค้าให้บริการหลายรูปแบบทั้ง รถไฟ บัสและรถราง(tram) แต่สำหรับนักท่องเที่ยว(หรือแม้แต่ชาวปารีเชียงเอง) “รถไฟ” ได้รับความนิยมสูงสุด การเที่ยวปารีสด้วยรถไฟ สะดวก รวดเร็ว คล่องตัวสูงและไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด สถานีรถไฟของปารีสมีครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเกือบทั้งหมด ก่อนไปเที่ยวมารู้จักระบบรถไฟของเค้าและการใช้ให้ถูกต้อง(ไม่เสี่ยงต่อการถูกปรับ)กันค่ะ
ก่อนอื่นมารู้จักโซนการเดินทางกันก่อน
โซนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในปารีสและปริมณฑล (Transportation zone in Paris and surrounding areas)
ปารีสและปริมณฑลถูกแบ่งเป็นโซนต่างๆ 5 โซน
cr from RATPคลิกที่นี่เพื่อดูภาพจากต้นฉบับ
ซึ่งการแบ่งโซนในการเดินทางนี้อย่าสับสนกับการแบ่งโซนที่อยู่อาศัยของตัวเมืองปารีสหรือ central Paris ซึ่งจะแบ่งเป็น 20 โซนตามรูป
cr ภาพจาก http://www.parishotels.it/paris-map.html
การแบ่งโซนสำคัญอย่างไร หนึ่งสรุปง่ายๆตามความเข้าใจของตัวเองคือ
1. เพื่อเป็นการกำหนดค่าโดยสาร ในโซนตัวเมืองหรือ urban city คือ โซน 1-2 ค่าโดยสารของรถไฟ(และระบบขนส่งอื่นๆ) จะเป็นราคาเท่ากันหมดตลอดสาย คือ 1.8 ยูโร (ราคาปี 2016) แต่เมื่อต้องเดินทางออกนอกโซนดังกล่าว ราคาค่าโดยสารจะเปลี่ยนทันที
2. ในกรณีของรถไฟ ในโซน 1-2 สามารถใช้บริการเมโทรได้ แต่เมื่อต้องเดินทางไปโซน 3, 4, 5 ต้องใช้ RER
เราไม่จำเป็นต้องจำรายละเอียดทุกโซน ที่ควรรู้คือ ตัวเมืองปารีสหรือ urban city อยู่ใน zone 1-2 และสถานที่สำคัญๆรวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวท่องเด่นๆในปารีสอยู่ในโซนนี้เกือบทั้งหมด ยกเว้น
- Chateau Versailles & Orly Airport –อยู่ใน Zone 4
- CDG Airport & Disneyland® Paris – อยู่มน Zone 5
- Fontainebleau – อยู่ใน Zone 5
รถไฟในปารีส (Train in Paris)
มารู้จักรถไฟในปารีสกันค่ะ รถไฟ เค้ามี 2 ระบบคือ Paris metro และ RER รถไฟสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไรมาดูกันค่ะ
1.Paris metro คือรถไฟใต้ดิน
– เน้นการเดินทางในเขตเมืองหรือ central city ของปารีส รถไฟใต้ดินทั้งหมดเกือบทุกสายอยู่ใน zone 1-2 เท่านั้น เป็นระบบขนส่งมวลชนที่ได้รับความนิยมสูงสุด
– มีทั้งหมด 16 สาย โดยมีสายหลัก 14 สายและสายลูกอีกสองสาย
– มีสถานีทั้งหมด 300 สถานี ครอบคลุมสถานที่ต่างๆในปารีส แต่ละสถานีไม่ไกลกันมาก ถ้าใครเคยขึ้นรถไฟใต้ดินเค้าจะรู้ว่าเป็นยังไง หนึ่งรู้สึกว่าเหมือนขึ้นรถเมล์สาย 8 เลยล่ะ คือ รีบมากกก รถมาเร็ว ออกเร็ว วิ่งเร็ว ด้วยความที่สถานีอยู่ใกล้ๆกัน รถเลยจะจอดบ่อยด้วย
– เวลาให้บริการของเมโทรโดยประมาณคือ
อาทิตย์-พฤ 5:30-12:40
ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40
-เมโทรไม่มีตารางเวลาที่ตายตัว ความถี่ของรถขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ถ้าเป็นเวลาเร่งด่วนประมาณ 1 นาที ถ้าวันอาทิตย์บางสายอาจนานถึงจะ 5 นาทีหรือมากกว่า
2. RER หรือ Regional Express Network
– เป็นรถไฟที่เน้นการเชื่อมต่อปารีสชั้นในและชานเมือง(urban/suburbans) และชานเมืองกับชานเมือง(suburbans/suburbans) พูดง่ายๆคือ RER จะวิ่งรอบๆย่านชานเมืองแต่จะมีวิ่งเข้ามาในเขตเมืองด้วย
– RER ใน central Paris จะอยู่ใต้ดิน ในขณะที่ RER ที่เชื่อมต่อระหว่างชานเมืองจะอยู่บนดิน
– มีทั้งหมด 5 สายคือ A, B, C, D และ E สายที่ระยะทางยาวที่สุดมีระยะทางรวมทั้งหมด 190 กม โดยสายสำคัญที่ไปสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปคือ
สาย A- Disneyland Paris
สาย B- CDG airport
สาย C – Palace of Versailles
– รถไฟ RER จะวิ่งตามเวลาและมีตารางเวลาที่ชัดเจน คลิกดูตารางเวลาของ RER แต่ละสายได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ
- RER A Timetable (Paris Disneyland, La Défense)
- RER B Timetable (Paris Airports)
- RER C Timetable (Eiffel Tower, Versailles, Orly Airport)
มาถึงตรงนี้น่าจะพอแยกได้แล้วนะคะว่าเมโทรและ RER ต่างกันอย่างไร จริงๆแล้วเค้ามีจุดประสงค์หลักต่างกันเพราะเมโทรให้บริการในเมืองปารีสเท่านั้นในขณะที่ RER เน้นให้บริการเขตชานเมือง แต่สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเที่ยวสับสนคือ RER วิ่งเข้าตัวเมืองปารีสนี่แหละ แถมอยู่ใต้ดินเหมือนกันอีก หนึ่งจะขอสรุปความต่างของรถไฟทั้งสองในเมืองปารีสว่าต่างกันอย่างไรสั้นๆ ตามนี้นะคะ
เมโทร: เป็นรถไฟใต้ดินที่ให้บริการในเขตเมืองเท่านั้น(zone 1-2) ระยะทางสั้นกว่า มีสถานีมากว่า รถจอดบ่อยกว่า แต่มีรถถี่กว่า ไม่มีตารางเวลารถที่ตายตัว ค่าโดยสารเท่ากันตลอดทุกสาย
RER :เป็นรถไฟที่ให้บริการทั้งในเมืองปารีสและชานเมือง RER ที่ให้บริการในเขตเมืองจะมุดลงไปใต้ดิน และเป็นเหมือนรถไฟใต้ดินสายด่วนเพราะแต่ละสถานีอยู่ห่างกันมากกว่า จอดไม่บ่อยเหมือนเมโทร ทำให้ทำเวลาได้เร็วกว่า ตัวโบกี้รถไฟใหญ่กว่ามีหลายโบกี้ วิ่งตามเวลาและมีตารางเดินรถที่แน่นอน สามารถเช็คเวลาได้บนบอร์ดก่อนเข้าไปในชานชลาและบอร์ดที่อยู่ชานชลา ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง
สถานีเมโทรและ RER จะอยู่แยกกันเพราะเป็นคนละระบบแต่ในเมืองปารีสจะมีจุดที่เป็นสถานีเชื่อมหรือ interchange stations หลายจุดเช่น Chatelet Les Halles, Gare du nord, Gare du lyon ซึ่งเป็นสถานีใหญ่(มาก) ถ้าต้องไปเปลี่ยนสถานีตามจุดเหล่านี้เผื่อเวลาในการเดินให้มากขึ้นด้วยนะคะ
การขึ้นรถไฟในปารีส
เมโทร
– คล้ายๆกับขึ้นรถไฟใต้ดินบ้านเรานะคะ ใช้บัตรตรงทางเข้าแล้วเดินไปขึ้นที่ชานชาลา ที่ชานชาลาจะมีป้ายบอกเวลาว่าอีกกี่นาทีรถจะมาเทียบ
อีกสามนาทีรถจะมา
– ที่นั่งพิเศษ เป็นที่นั่งที่ติดกับประตูจะเป็นที่นั่งแบบพับได้ ที่นั่งตรงนี้จะนั่งได้เมื่อผู้โดยสารไม่แน่น แต่ถ้ามีผู้โดยสารเข้ามาแน่น คนที่นั่งที่นั่งพิเศษนี้ต้องลุกขึ้นยืนเพื่อเพิ่มพื้นที่ในรถไฟ
– ประตูรถไฟมีหลายแบบทั้งแบบเปิดเองอัตโนมัติหรือต้องกดปุ่มหรือยกคันโยกเพื่อเปิดประตู เวลาขึ้นรถไปลองสังเกตดูว่ารถที่ขึ้นเป็นแบบไหน แบบในรูปด้านล่างต้องยกขึ้นเพื่อเปิด
– ตอนออกจากสถานีรถไฟใต้ดินไม่ต้องใช้บัตรนะคะ สามารถเดินออกตรงช่องออกแล้วดันประตูออกไปเลย แต่ตลอดเวลาที่ยังอยู่ในสถานีรถไฟต้องเก็บตั๋วไว้เสมอจนกว่าจะออกจากสถานี อย่าเพิ่งทิ้งตั๋วเด็ดขาดเพราะอาจถูกเจ้าหน้าที่สุ่มเรียกตรวจตั๋วได้ ถ้าใครไม่มีตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดูจะถูกปรับและแพงมากด้วย
RER
– ชานชลาของ RER จะมีเที่ยวรถและเวลาที่รถไฟจะมาถึง
– รถไฟของ RER จะมีตู้โดยสารขนาดใหญ่กว่าและมักมีสองชั้น ยกเว้น RER B ที่หน้าตาคล้ายเมโทรมาก
– ประตูของรถไฟจะเปิดเมื่อกดปุ่มเปิด ไม่เปิดอัตโนมัติ
– ตอนออกจากสถานีต้องใช้บัตรผ่าน
เวลาเที่ยวปารีสเราสามารถเลือกใช้ทั้งเมโทรหรือ RER ตามสะดวก หรืออาจต้องใช้ทั้งสองอย่างสลับกันแล้วแต่สถานการณ์ แต่ถ้าต้องเดินทางไปสถานที่ต่างๆนอกโซน 2 เช่น สนามบิน แวซาย ดิสนีย์แลนด์ ต้องใช้ RER นะคะ
รู้จักระบบรถไฟในปารีสแล้ว ไปรู้จักตั๋วรถไฟแบบต่างๆ และการใช้ให้คุ้มค่า ที่นี่
References
1.http://en.parisinfo.com/practical-paris/how-to-get-to-and-around-paris/public-transport-paris/fares-travel-passes-reductions
2.http://parisbytrain.com/
3.https://en.wikipedia.org/wiki/Public_transport_fares_in_the_%C3%8Ele-de-France#Ticket_.22t.22
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
Tristy
March 30, 2016รีวิวละเอียดสุด ๆ ... ใครมีแพลนไปเที่ยวทารีส ควร print out บล็อกนี้ติดตัวไปด้วยนะคะ ... มีประโยชน์สุด ๆ
บล็อกสวยมากค่ะน้องหนึ่ง
FUFY
June 24, 2016ตามมาเที่ยวอีกรอบจ้า