ตอนเช้าฝนตก เราเกิดอาการจิตตกเล็กน้อยแต่สักพักฝนก็หยุด แต่อากาศยังครึ้มอยู่ เราเดินออกจากโรงแรมเพื่อมาที่ Sydney Town Hall
 
 

ด้านข้างเป็นพื้นที่ให้นั่งเล่นได้ ร่มไม้ใหญ่ ดูสบายตา
 
 

แล้วเราก็เจอสิ่งนี้ค่ะ ตื่นเต้นกันมากๆ เดาได้ไหมคะว่าคืออะไร
 
 

เดาได้ไม่ยาก แต่ที่ทำให้เราแปลกใจคือสถานที่เค้าค่ะ ตั้งอยู่ติดถนนเลยทีเดียว ขอเปิดพิสูจน์ซักหน่อยแบบนี้คงมีแต่สำหรับท่านชายเท่านั้นค่ะ ^_^
 
 

เดินข้ามถนนไปมีรูปปั้นอยู่ แต่หนึ่งไม่ได้ถ่ายรูปหันไปถ่ายตึกนี้แทน
 
 

เดินกันต่อ เราค่อยๆเข้ามาในส่วนที่เป็นย่านธุรกิจมากขึ้น เห็นป้ายนี้แล้วคุ้นๆ ที่เมกาก็มีค่ะ ที่เห็นสูงๆคือ Sydney Tower
 
 

แถวนี้คนพลุกพล่าน มีร้านช้อปปิ้งมากมายแถมกำลังลดราคาด้วย แต่ขอเมาท์ว่าราคาสินค้า(และค่าครองชีพ)แพงมากเลยค่ะเราเลยได้แต่มองๆ ส่องๆแบบ window shopping

เดินต่อไปเห็นตึกเก่าๆ ใหญ่โตด้านหน้าและสวนขนาดใหญ่ เดินเข้าไปดูกันค่ะ

มีใครอยากเล่นหมารุกไหมคะ

มีดอกไม้ให้ดูสดชื่นแม้อากาศจะคลึ้ม

ต้นไม้ในสวนต้นใหญ่มาก อายุอานามน่าจะหลายปีอยู่

น้ำพุ Archibald fountain ใน Hyde Park เป็นน้ำพุที่น่าจะสวยที่สุดของเมือง ด้านหลังคือ โบถส์ St Mary ฟ้าเน่ามาก ขอเอามุกภาพขาวดำมาใช้ อิอิ

เดินออกมาด้านข้างเห็นงานศิลปะที่น่าสนใจมากๆ สร้างเป็นกำแพงค่ะ
 
 

เห็นคนไหมคะเค้ามารอดูพลุกันค่ะ คือพลุจะจุดตอนขึ้นปีใหม่แต่ตอนบ่ายมาจับจองที่นั่งกันแล้ว คนเยอะมากๆ เราไม่สามารถเข้าถึง Opera House ได้

มองด้านขวาคือ ศุนย์กลางธุรกิจของเมือง

มองตรงๆจะเห็น opera house

คนเต็มเลยค่ะ

สะพานด้านหลังคือ Harbour bridge

มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งค่ะ

นี่ก็พิพิธภัณฑ์

เถาไม้ข้างอุโมงค์หินเก่าแก่

โบถส์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง

ไปเดินเล่นบนสะพาน Harbour bridge กันค่ะ มีจุดชมวิวที่ปีนขึ้นไปดูได้ แต่ต้องเสียเงิน และตอนที่หนึ่ไปปิดแล้ว
 
 

opera house มุมมองจากสะพาน

ทางเดินบนสะพานจะปิด 6 โมงเย็นเพื่อเตรียมจุดพลุ ได้เวลาเดินกลับแล้วค่ะ วันนี้เราตัดสินใจดูพลุกันที่บ้านพี่ปอนด์ ไม่อยากไปเบียดมหาชน เดินมาเจอ สิ่งนี้ค่ะ

 
 
ชอบมากๆค่ะ มีคนมาถ่ายรูปเต็มเลย ใครเป็นสาวก LV มั่งคะ ชอบไอเดียเค้ามากๆ จริงๆมีอีกเยอะเลยค่ะ แต่ขอลงแค่นี้ เดี๋ยวรูปจะเยอะไป
 
 

ขณะเดินๆ ผู้คนหลั่งไหลเข้าหา opera house แต่เราเดินสวนออกมา

เดินๆไปจะเห็นตึกเก่ารายล้อมด้วยตึกสมัยใหม่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง

และแล้วพี่ปอนด์ก็ขับรถมารับเรา (น่ารักจัง) มื้อเย็นเราเป็น fish and chips อร่อยมากๆ หม่ำๆแล้วเราเตรียมตัวไปดูพลุกัน จริงๆแล้วจากบ้านพี่ปอนด์เราสามารถมองเห็นพลุได้เลยค่ะ พลุจุด 2 รอบใหญ่คือ 3 ทุ่มและ 6 มุ่ม แต่ระหว่างนี้จะมีจุดหลอกๆ หลอกล่อให้ดีใจ

รอบแรกจุดหนึ่งไม่เตรียมขาตั้งกล้อง ถ่ายรูปออกมาเป็นจุดๆ รอบสองขอพี่ปอนด์ไปถ่ายที่อ่าวใกล้บ้านหลังจากเดินไปสำหรับมาแล้ว แบบว่าอยากได้บรรยากาศ

มีคนมารอเต็มเลย แต่ไม่หนาแน่นมาก

เริ่มกันแล้วค่ะ ทุกคนนับถอยหลังไปพร้อมกัน

กดมาไม่ยั้งเลยค่ะ แต่รูปหนึ่งไม่ค่อยชัดเพราะใช้มือกดชัทเตอร์ จะให้ดีควรใช้รีโมท ซึ่งมีแต่ลืมเอามา ส่วนขาตั้งกล้องแบกมาแต่ใช้ไม่ได้ มีชิ้นส่วนสำคัญหายไป พี่ปอนด์ใจดี ช่วยชีวิตอีกแล้ว ให้ยืมขาตั้งกล้อง จุ้บๆ

ถ่ายรูปไปจิบไวน์ไป เห็นพลุอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ

เป็นการ count down ที่น่าประทับที่สุดเลยค่ะ

แถมให้อีกรูป เป็นวิวที่มองจากอ่าวที่เราไป count down กันค่ะ รูปไม่ค่อยชัดเท่าไหร่