แผนเที่ยวรัสเซีย
ทำไมต้องเป็นรัสเซีย…
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 เกิดจากความอยากส่วนตัวของหนึ่งนั้นเอง ทำไมถึงจะไม่อยากไปรัสเซียล่ะ ประเทศนี้เป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร แม้แต่ทางด้านกีฬา สังเกตุจากกีฬาโอลิมปิคที่กวาดเหรียญไปมากมาย เป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลกและมีอะไรที่เป็นที่สุดในโลกอีกหลายอย่าง บางคนอาจจะนึกโบถส์ที่เป็นลักษณะพิเศษที่เห็นแล้วนึกออกเลยว่าอยู่ที่รัสเซีย จริงๆแล้วรัสเซียมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ประวัติศาสตร์เค้ายังน่าสนใจมากๆ และมีช่วงเวลาหนึ่งในสมัยราชวงศ์โรมานอฟยังมีความสนิทสนมกับราชวงศ์จักรีของเราอย่างมากด้วยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ต้องขอวีซ่า (ซึ่งเดี๋ยวจะกล่าวถึงต่อไป)
รัสเซียน่ากลัวสำหรับนักท่องเที่ยว….จริงหรือไม่
ด้วยความที่รัสเซียเคยปกครองด้วยระบบสังคมนิยมมาก่อน และอาจจะเคยมีข่าวด้านไม่ดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวทำให้หลายๆคนเกิดอาการหวั่นใจ หรือกลัวที่จะไปเที่ยว แต่จากประสบการณ์ตรงแล้วหนึ่งพบว่า แม้คนรัสเซียจะมีหน้าตาที่ดูเย็นชาแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราไม่เจอเหตุการณ์น่ากลัวอะไรเลยซักอย่างเดียว นอกจากความตื่นเต้นปกติในการไปเที่ยวต่างประเทศที่ต้องลุ้นและเรื่องภาษาเพราะรัสเซียแทบไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลย วันนี้หนึ่งจะชวนมาเปิดหูเปิดตา เที่ยวรัสเซียเอง (ก็)ไม่ยาก(เท่าไหร่) หลงบ้างอะไรบ้าง มันส์ดีจริงๆ และการเที่ยวก็ไม่ยากและไม่น่ากลัวเลยจริงๆ
รัสเซียฉบับย่อ
มารู้จักรัสเซียแบบย่อๆก่อนนะคะ รัสเซียเป็นประเทศในแถบยูเรเซีย (Eurasia) คือมีความเป็นลูกผสมระหว่างยุโรปและเอเชีย ทำให้รัสเซียมีความเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร เคยปกครองด้วยระบบกษัตริย์มาก่อน โดยมีราชวงศ์หลักๆ 2 ราชวงศ์คือ ราชวงศ์รูริค (ค.ศ 978- 1984) และราชวงศ์โรมานอฟ (ค.ศ. 1613-1917) ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์ (สหภาพโซเวียต)เป็นประเทศแรกของโลกแต่ในปี 1991 สหภาพโซเวียตก็ล้มสลายลง สาธารณรัฐต่างๆทั้ง 15 สาธารณรัฐแยกตัวเป็นอิสระ รวมทั้งสาธารณรัฐรัสเซียด้วย ปัจจุบันรัสเซียปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยเพิ่งมีข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดไปเมื่อไม่นานนี้เองโดยวลาดีมีห์ ปูตินได้รับเลือกตั้ง
การเตรียมตัวและเกร็ดเล็กน้อยที่ควรรู้
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง หนึ่งต้องขอขอบคุณป้าแอ๊ก ปลาทอง9 สำหรับคำแนะนำดีๆ มีประโยชน์ต่อกรุ้ปเรามากๆ ข้อมูลเรื่องต่างๆเราใช้ Lonely Planet เป็นหลัก หนึ่งไปเที่ยวเมืองหลักๆแค่ 2 เมืองคือ St Petersburg และ Moscow
* ไม่ต้องขอวีซ่า
* งบประมาณการเที่ยวเรา 57,000 บาทรวมทุกอย่างยกเว้นช้อปปิ้ง ซึ่งไม่ค่อยได้ช้อป * เนื่องจากตอนนั้นเรายังเป็นนักศึกษากันอยู่ เลยทำบัตรนักศึกษา(ISIC)ไป ใช้ลดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ประหยัดขึ้นได้อีกมากเลย * เราบินตรงด้วยสายการบิน Aeroflot BKK-Moscow หลายคนอาจจะสงสัยว่า Aeroflot น่ากลัวไหม ไม่น่ากลัวค่ะ เหมือนใช้บริการเครื่องบินอื่นๆทั่วไป ที่เราเลือกสายการบินนี้เพราะ “ถูก” คำเดียวสั้นๆ ^__^ * สกุลเงินคือ รูเบิล (RUB) ค่าเงินพอๆกับค่าเงินเรา ค่าครองชีพเค้าไม่ต่างจากเรามาก แต่ที่แพงกว่ามากคือน้ำดื่ม เงินรูเบิลช่วงเวลาที่หนึ่งเดินทางไม่มีแลกในเมืองไทย เราใช้วิธีแลกเงินดอลลาร์แล้วไปแลกที่มอสโคว์ ซึ่งขาดทุนมากๆ ขอแนะนำว่า อย่าแลกเงินในสนามบินตรงชั้นที่เราเพิ่งรับกระเป๋าเพราะขาดทุนอย่างแรง ชั้นบนสนามบินมีร้านรับแลกเงินให้เรทดีมากๆหลายเจ้า ในตัวมอสโคและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเองก็มีเยอะมาก หาง่าย ค่อยๆทะยอยแลกได้ค่ะ เห็นมีบางเจ้ารับซื้อเงินไทยด้วย * ปลั๊กไฟ 220 โวลท์ * อากาศ เราเดินทางช่วง ส.ค. ซึ่งเป็นหน้าร้อน อากาศดีมากๆกลางวันประมาณ 24-27 C พระอาทิตย์ตกเกือบสามทุ่ม วันที่แดดออกเดินเที่ยวได้สะใจมาก แต่วันไหนฝนตกอากาศจะเย็นลงอีกหน่อย * เวลาที่ Moscow & St Petersberg เร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง (ช่วงซัมเมอร์เร็วกว่า 3 ชั่วโมง) * คนรัสเซียแทบไม่พูดภาษาอังกฤษเลย ป้ายต่างๆก็ไม่มีภาษอังกฤษ แต่มีเจ้าหน้าที่ประจำตามจุดต่างๆตลอดและให้ความช่วยเหลือดีมากๆ ดังนั้นสิงที่ต้องเตรียมคือแผนที่ทั้งภาษารัสเซียและอังกฤษ เอาไว้ถามทาง * ศาสนาประจำชาติคือ ศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ * การเดินทางภายในประเทศ ใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นหลักเพื่อความประหยัดอย่างสูงสุด;) การเดินทางจาก St Petersburg – Moscow ใช้บริการรถไฟโดยจองตั๋วออนไลน์จากเมืองไทยไปเลยและเราเลือก night train หลับบนรถไฟไปเช้าที่ St Petersburg การเดินทางใน Moscow ใช้ Metro หรือรถไฟใต้ดินซึ่งสะดวกมากๆ ระบบรถไฟเค้าดีมากๆ และมีใช้อย่างสะดวกในสองเมืองที่เราไปเที่ยว * ห้องน้ำส่วนใหญ่เสียเงินค่ะ อยู่ที่ 15-25 RUB (ปี 2012) ถ้าเข้าห้องน้ำในสถานีรถไฟ สามารถโชว์ตั๋วรถไฟแล้วเข้าฟรีได้ * เป็นที่น่าแปลกใจมากที่ตามสถานีใหญ่ของรัสเซีย เช่นสนามบิน สถานีรถไฟ ร้านอาหารจะมีฟรี wi-fi ให้ทุกที่เลยค่ะ * เราพักโฮสเทลกัน เพราะเราถือนโยบายประหยัดไว้ก่อน 😉 * อาหาร ไม่ต้องกังวลว่ามาเที่ยวที่นี่แล้วจะกินอะไรเพราะเมืองที่เรามาเที่ยวถือเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศเค้าและถือว่าเจริญ อาหารมีให้เลือกหลากหลายมาก มีร้านอาหารฟาสท์ฟูดที่เราคุ้นตาทั้ง KFC, Mc Donald, Burger King มีร้าน Starbuck ด้วย ร้านอาหารต่างๆก็มีมากมาย ร้านอาหารญีปุ่นมีเยอะมากๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ |
แผนเที่ยว
เดินทาง 11-19 ส.ค. 2012
Day 1, 11 AUG: BKK-SVO-St Petersberg
9:30 – depart BKK
16:30 – arrive SVO
22:10 – Night train to St Petersberg
Day 2, 12 AUG: St Petersberg
เช้า: check in Hostel Life
เช้า-บ่าย: Peterhof
Day 3, 13 AUG: St Petersberg
Pushkin
Day 4, 14 AUG: St Petersberg-Moscow
St Petersberg: The Hermitage, Alexander Column, Nevsky Prospekt, Church of Saviour on Spilled blood, St Isaac’s Cathedral, Peter and Paul fortress
20:59 – night train to Moscow
Day 5, 15 AUG:Moscow-Vladimir
5:04 – arrive Moscow
check in Hostel (Green Mango Hostel)
7:30 – ซื้อตั๋วรถไฟไป Vladimir ที่สถานี Kursky station
8:12 – depart Moscow
11:23 – arrive Vladimir เที่ยว Assumption Cathedral, St Demetrius Cathedral & Golden gate)
14:30 – depart Vladimir to Moscow**
Day 6, 16 AUG:Moscow-Sergiev Posad
เช้า: Monastery of Sergiev Posad
บ่าย: Old Robat Street
Day 7, 17 AUG:Moscow
Day 8, 18 AUG:Moscow(เก็บตก)
17:00 – take aeroexpress to SVO
18:00 – check in Aeroflot
00:00 – depart SVO
Day 9, 19 AUG:BKK
7:55 – arrive BKK
**วันที่เดินทางไป Vladimir เป็นวันที่รู้สึกไม่คุ้มค่าในการเดินทางเลยสำหรับ day trip เพราะการเดินทางที่ใช้เวลานานถึงสามชั่วโมงกว่าๆ มีเวลาเที่ยวไม่นานก็ต้องเดินทางกลับ ตอนทำแผน จริงๆเราต้องกลับหกโมงเย็น ปรากฏว่าหน้างานรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับมอสโคคือบ่ายสองโมงครึ่ง มีเวลาเดินเที่ยวน้อยมากๆ ไม่แนะนำให้ตามรอยนะคะ**
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
July 8, 2016ได้เวลาเที่ยวอีกแล้ว เย้ๆๆๆ