No baking powder fluffy souffle pancake-แพนเค้กซูเฟล่นุ้มนุ่ม(มาก)แบบไม่ง้อผงฟู

มาแล้วค่าบล็อกขนมแรกของปี 2018 เริ่มด้วยขนมง่ายๆแบบไม่ต้องอบและเป็นขนมยอดนิยมที่ญี่ปุ่นฮิตมากตัวหนึ่ง “Souffle pancake” นั่นเอง แพนเค้กแบบดั้งมักทำเป็นอาหารเช้าแต่คนญี่ปุ่นเธอช่างคิดจริงๆ สามารถดัดแปลงจนทำให้แพนเค้กกลายเป็นขนมที่กินได้ทุกมื้อ มีร้านดังๆหลายร้านถึงขนาดที่ต้องต่อคิวยา…ว จริงๆแล้วหนึ่งขอสารภาพว่าไม่เคยซื้อ souffle pancake กินเลยไม่ว่าจะที่ญี่ปุ่นหรือที่เมืองไทยก็ตาม (อ้าว) เพราะคิดว่าซูเฟล่แพนเค้กทำกินเองไม่(น่า)ยากเลย สูตรนั้นก็มีมากมายหลายสูตรสามารถกูเกิ้ลได้เลยขึ้นมาพรึ้บ ว่าแล้วหนึ่งก็ลองกูเกิ้ลหาสูตร ผลคือหนึ่งทำไป 5 สูตร แต่ยังไม่มีสูตรไหนที่รู้สึกชอบเลย ช่วงที่ลองสูตรกินซูเฟล่แพนเค้กจนจุก 😉 ซูเฟล่แพนเค้กที่เจอส่วนใหญ่มักใส่ผงฟู ซึ่งมันคงช่วยให้แพนเค้กสูง เห็นแล้วว้าว! แต่ลองทำไปสองสูตรหนึ่งไม่ค่อยชอบ texture ของมันเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันแน่นไป เพราะพอบอก souffle อารมณ์มันแบบนุ่มมากกก จึงเป็นที่มาของ No baking powder super fluffy pancake สูตรนี้ จริงๆแล้วหนึ่งทำ souffle ไปแล้วสูตรนึง คลิ้กไปดูสูตรได้ที่นี่ ซึ่งเป็นสูตรที่อร่อยเหมือนกันค่ะ นุ่ม ไม่ใส่ผงฟู แต่จะมีความหนึบนิดๆเวลาเคี้ยว แต่ซูเฟล่แพนเค้กตัวนี้จะนุ่มกว่ามาก อารมณ์เหมือนกิน hot cake มากกว่า

แพนเค้กสูตรนี้จะทอดแบบใช้พิมพ์หรือใครขี้เกียจทำพิมพ์ก็ตักทอดแบบกะเอาได้เลย มีเสน่ห์ไปคนละแบบ หนึ่งลองทำทั้งสองแบบเลย สุดท้ายแล้วต่างกันแค่หน้าตา ส่วนรสชาตินั้นอร่อยเหมือนกัน อิอิ

แบบใช้พิมพ์

แบบไม่ใช้พิมพ์

น่ากินทั้งสองแบบเนอะ 😉 ก่อนลงมือทำหนึ่งมีข้อสังเกตให้นิดนึง

ข้อสังเกตของสูตรนี้คือ

1.หนึ่งใช้ไข่ขาวแทนผงฟู ดังนั้นการตีไข่ขาวสำคัญนะคะ ควรตีให้ได้ยอด “firm” สังเกตว่าไข่ขาว (เมอแรง)สีละเอียดเป็นมันวาว ไม่มีฟองอากาศเล็กๆ เช็คยอดด้วยตะกร้อแล้วตั้งยอดโค้งลงมา ถ้าลองคว่ำโถเมอแรงจะไม่มีการไหลหรือย้อย ถ้าตีไข่ขาวน้อยไปจะได้แพนเค้กที่แฟบ ไม่ฟู อย่างที่ควรและเนื้อเหนียว

2.แม้ตอนทอดแพนเค้กจะสูงพองแค่ไหน แต่สุดท้ายมันจะยุบลงมาเพราะไม่ได้ใช้ผงฟู อาจจะยุบได้ถึง 30%-40% เป็นเรื่องปกตินะคะ แต่ตัวขนมต้องนุ่ม แบบในรูป

3. แพนเค้กตัวนี้เหมาะที่จะทำแล้วกินเลย ถ้าใครไม่สะดวกอาจจะเตรียมส่วนผสมแป้งไว้ 1 คืน ก่อนนำมาผสมกับเมอแรงแล้วทอดวันรุ่งขึ้นได้ แต่ถ้าผสมเมอแรงแล้วต้องทอดเลยนะคะ ไม่งั้นไข่ขาวจะค่อยๆยุบตัวไปเองตามเวลา

4.ลืมแพนเค้กแบบออริจินอลไปก่อนนะคะ เพราะจริงๆแล้วสูตรนี้เหมือนกิน hot cake มากกว่าเพราะ texture ค่อนมาทางเค้ก

5.*คำเตือน*กินกับครีม เนย(หอมๆ)และสตรอเบอร์รีมันอร่อยมากๆ 😉

มาดูสูตรกันค่ะ

อุปกรณ์พิเศษ

1. กระทะเทฟลอนพร้อมฝาปิด (หนึ่งใช้ถาดแทนฝาปิด อิอิ)
2. พิมพ์สำหรับทอดแพนเค้ก รอบนี้หนึ่งใช้กระดาษพาร์ชเม้นท์มาตัดให้ศูง 4 cm แล้วเอาปลายทั้งสองม้วนมาซ้อนกันให้เป็นวงกลม แปะด้วยเนย เส้นผ่านศูนย์กลางแล้วแต่ชอบนะคะ หนึ่งทำเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ขนาดกำลังดี

3.ถ้าใครไม่อยากใช้พิมพ์ก็ตัก free form ได้โดยการใช้ทัพพีเล็กๆ ค่อยๆ หมอดแบบในคลิป จะได้แพนเค้กรูปร่าง free style ขึ้นอีกหน่อย ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ 😉

4. ระวังเรื่องไฟนะคะ จริงๆถ้าจะให้เป๊ะคือกระทะควรจะอุณหภูมิประมาณ 150-160 C แต่จริงๆหนึ่งก็ไม่ได้วัดค่ะ กะๆเอา ใช้ไฟอ่อนที่สุด เพราะถ้าไฟแรงไปแพนเค้กจะไหม้ก่อนสุก

Fluffy Souffle Pancake

ได้แพนเค้กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว ประมาณ 3-4 ชิ้น

* แป้งเค้ก 25 กรัม
* ไข่แดง 1 ฟอง
* มายองเนส 1 ชช
* นม 25 กรัม
* น้ำมันพืช 15 กรัม
* น้ำตาล 20 กรัม
* ไข่ขาว 4 ฟอง (120-150 กรัม)
* แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
* เนยสำหรับทอดแพนเค้ก

วิธีทำ

1. หม้อเทฟลอนตั้งไฟอ่อน
2. ไข่แดง + มายองเนส + น้ำมัน + นม ผสมให้เข้ากัน ร่อนแป้งลงไป ตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากัน พักไว้ (ทำเก็บเข้าตู้เย็นเตรียมไว้ได้ 1 คืน)
3. ตีไข่ขาวจนขึ้นฟองหยาบ ทะยอยใส่น้ำตาลลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน ใส่แป้งข้าวโพดแล้วตีต่อจนตั้งยอดเฟิร์ม
4. แบ่งเมอแรงจากข้อสามไปตะล่อมกับส่วนผสมแป้งข้อ 1 สามครั้ง ตะล่อมเร็วแต่เบามือจนส่วนผสมเข้ากัน
5. ทาเนยบนกระทะเทฟลอน (ซึ่งตอนนี้ร้อนแล้ว) วางพิมพ์ลงไป ตักหยอดให้สูงประมาณ 3/4 ของพิมพ์ (เดี๋ยวขนมจะฟูขึ้นมาตอนทอด) หยอดน้ำประมาณ 1 ช้อนโต๊ะในกระทะ ระวังอย่าให้โดนเนื้อแป้งตรงๆ ปิดฝา รอ 3 นาทีก่อนพลิกแล้วปิดฝาอีกรอบ (จะใส่น้ำที่กระทะอีกหรือไม่ก็ได้) ทอดต่ออีก 3 นาที
6. แะพิมพ์ออก วางเนย โรยไอซิ่ง โปะวิปปิ้งครีมและตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี เสิร์ฟร้อนๆ

นุ่มมากๆๆ มีรสชาติ ไม่เหม็นคาวไข่หรือรู้สึกเหมือนไข่ขาวต้มน้า อร่อย ^_^

กินเป็นอาหารเช้าเบาๆ หรือเป็นของว่างก็อร่อยค่ะ ไม่แน่นจนเกินไป ลองทำกันดูนะคะ อร่อยๆๆ ^_^

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***