Cotton Light Cheesecake
เค้กตัวนี้เนื้อเนียนนุ่ม ละมุน ละลายในปากและถือได้ว่าเป็น “gluten-free cake” เพราะไม่มีกลูเต็น และตัวขนม stable มากพอไม่ต้องกังวลเรื่องเค้กหดมาก สรุปคือเป็นชีสเค้กที่ทำง่าย อร่อย คอนเฟิร์ม ^_^
สูตรนี้หนึ่งดัดแปลงจากสูตรของบล็อกเกอร์ชาวสิงคโปร์ สูตรต้นฉบับเธอหวานน้อยมาก เพราะใช้น้ำตาลแค่ 60 กรัม ถ้าใครอยากให้หวานขึ้นมาอีกสามารถเพิ่มน้ำตาลได้ถึง 80 กรัม แต่หนึ่งชอบกินแบบหวานน้อยค่ะ ^_^ มาดูสูตรกันนะคะ จริงๆแล้ววิธีทำแบบเดียวกับ Japanese Souffle Cheesecake นั่นเองต่างกันแค่ตัวแป้งที่ใช้เท่านั้น
Cotton Light Cheesecake
ดัดแปลงจากVictoria Bakes สูตรสำหรับเค้ก 2 ปอนด์
(1)
ครีมชีส 180 กรัม
วิปปิ้งครีม 72 กรัม
เนย 64 กรัม
(2)
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
นมสด 40 กรัม
(3)
ไข่แดง 110 กรัม (ไข่เบอร์ 3 จำนวน 6 ฟอง)
vanilla extract 1 ช้อนชา
(4)
ไข่ขาว 120 กรัม (ช่างจากไข่ขาวที่ได้จากไข่แดง จะมีไข่ขาวเหลือนะคะ)
น้ำตาล 60-70 กรัม แล้วแต่ชอบหวานมากน้อย หนึ่งใส่ 60 กรัม รสหวานน้อยมาก
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 8 กรัม
วิธีทำ
1. ละลายส่วนผสมที่ (1) ด้วย double boiler จนครีมชีสไม่เป็นก้อน ยกลงจากเตา พักไว้ ส่วนผสมจะยังไม่เนียนมาก ไม่ต้องตกใจ
2. นมและแป้งข้าวโพดใน (2) ผสมกัน ใช้ช้อนคนจนแป้งละลายดี
3. นำส่วนผสมข้อ (2) ไปผสมกับส่วนผสมข้อ (1) ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมแรงๆ ตอนนี้จะได้ส่วนผสมที่เนียนขึ้น ใส่ไข่แดงทีละ 1 ฟอง ใช้ตะกร้อมือผสมให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อนใส่ฟองต่อไป เมื่อไข่หมด ตามด้วย vanilla extract ผสมจนส่วนผสมเข้ากัน
3. กรองส่วนผสมในตะแกรงแล้วใช้พลาสติก wrap ไว้เพื่อไม่ให้หน้าขนมแห้ง หนึ่งเจาะรูไว้สองสามรูให้ไอน้ำออกมาบ้าง พักจนส่วนผสมเย็นลง
4. วอร์มเตา 180 C ไฟบนล่าง เตรียมพิมพ์ด้วยการทาไขมันทั้งที่ก้นและขอบพิมพ์ โรยแป้งอเนกประสงค์แล้วเคาะออก กรุก้นพิมพ์ด้วยกระดาษไขหรือกระดาษพาร์ชเมนท์
5. ไข่ขาว + น้ำมะนาว ตีด้วย hand mixer จนได้ฟองหยาบ ค่อยๆทยอยใส่น้ำตาลลงไปจนหมด ตามด้วยแป้งข้าวโพด ตีไข่ต่อจนตั้งยอดเฟิร์ม เมอแรงที่ได้จะเนื้อเนียน เงา เวลาคว่ำโถแล้วตัวเมอแรงไม่ไหลลงมา แบ่งไข่ขาวไปตะล่อมอย่างเบามือกับส่วนผสมที่เราพักให้เย็น 3 ครั้ง หนึ่งใช้ตะกร้อมือตะล่อมก่อน หลังจากนั้นใช้ spatula ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน
6. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ กระแทกพิมพ์กับเคานท์เตอร์ครัวประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ อบแบบ water bath 20 นาทีแรกหนึ่งอบ 180 C ไฟล่างอย่างเดียว แล้วลดไฟหลือ 150 C 40-50 นาที โดย 20 นาทีสุดท้ายเปลี่ยนเป็นอบไฟบนล่าง
7. เมื่อเค้กสุก นำเค้กออกจากเตาและถาดน้ำ พักไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนนำออกจากพิมพ์ วิธีการเอาเค้กออกจากพิมพ์ง่ายมาก เพราะเค้กจะร่อนออกจากขอบ เราแค่ตะแคงให้ลมเข้าไปดันเนื้อเค้กด้านข้างออกจากตัวพิมพ์ให้รอบ ไม่ต้องใช้มีดแซะ คว่ำเค้กกับจาน แล้วคว่ำเค้กอีกรอบบนตะแกรงเพื่อกลับหบ้าเค้กให้อยู่ด้านบนเหมือนเดิม ก็จะได้หน้าขนมเด้งๆ
พักขนมในพิมพ์จนเย็นแล้วแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนตัดจะตัดเค้กได้ง่ายขึ้น
** ขอเตือนว่าขนมตอนที่ออกจากเตาใหม่ๆ เนื้อเค้กจะนิ่มมากกกกก**
หนึ่งคว่ำเค้กรุนแรงไปนิด หน้าเค้กบุ๋มไปหน่อย อิอิ
ตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซิ่งนิด ปิดบังหน้าเค้กบุ๋ม อิอิ
ตัดเค้กตอนเย็นๆ จะตัดได้เนียนสวยขึ้น เสิร์ฟแบบเพลนๆ หรือกินกัลผลไม้สด ซ้อสผลไม้ได้หมดค่ะ อร่อยแบบง่ายๆ เมื่อขนมคลายความเย็นเนื้อขนมจะนิ่มมากขึ้นไปอีก กินแล้วเหมือนไม่ได้กินเลย เบาๆ นุ่ม ละลายในปาก
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
June
May 11, 2016ติดตามทำขนมที่พี่แนะนำมาหลายอันละค่ะ อันนี้ก็คงจะเป็นชิ้นต่อไป พี่หนึ่งลงสูตรมากาฮงบ้างสิคะ ลองมาหลายสูตรแล้ว ออกมาหน้าตาไม่เหมือนมากาฮงซักที จนจะท้อละ
adrenalinerush
May 12, 2016เดี๋ยวลงให้นะคะ
ออม
June 6, 2016เปลี่ยนอัตราส่วนของน้ำมัน=เนย คือ 64 กรัม ใช่ไหมค่ะ ส่วนวิธีทำคือเหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ
adrenalinerush
June 6, 2016ใช่แล้วค่า ^_^
FUFY
June 30, 2016ตามมากินอีกแล้วจ้า ^_^
Bobow
August 19, 2016คุณหนึ่งคะ ถ้าตอนเราอบเสร็จออกมาเค้กสวยมากแต่พอเราเอาไปแช่เย็น กลับมาดู เค้กมันหดอ้ะค่ะ 5555 มันย่นๆลง มีวิธีแก้ยังไงบ้งคะ
adrenalinerush
August 19, 2016หดเยอะไหมค้าาา ถ้าหดนิดหน่อย ไม่น่าเป็นไรเนอะ เพราะโดยทั่วไปเค้กจะหดหลังออกจากเตานิดหน่อยจากการที่ความร้อนลดลง ลองกระแทกพิมพ์เค้กเบาๆ ตอนออกจากเตาดูนะคะ
เอ๋
August 25, 2017มีปัญหาว่าหน้าแตกเป็นขนมถ้วยฟูเลยค่า ไฟมช้ตามแปะๆเลย แก้ปัญหาโดยอบไฟ 150 องศาตั้งแต่แรกเลยได้มั้ยคะ
adrenalinerush
August 29, 2017อบไฟบน ล่าง หรือเปล่าคะ ถ้าอบไฟล่างอย่างเดียวแต่หน้าแตกลองลดความร้อนลงได้ค่ะ