ชวนทำเค้กค่า วันนี้มี Coffee Chocolate Cake มานำเสนอ หน้าตาเค้กดู(เหมือนจะ)อะลัง จริงๆแล้วเป็นเค้กที่ทำง่ายๆ แต่ได้ macarons มาตกแต่งเค้กเลยหน้าตาดีขึ้นมาทันที อิอิ หนึ่งมีเปลือก macarons อบไว้นานแล้ว แช่ฟรีซไว้จนเกือบเป็นฟอสซิล รอบนี้สบโอกาสนำมาใช้(เสียที) แต่ถ้าใครไม่ชอบกิน macarons หรือ ไม่อยากตกแต่งด้วย macarons ก็สามารถตกแต่งแบบอื่นได้ตามใจชอบได้เลย สูตร macarons ยังไม่เคยลงเลย เดี๋ยวหาโอกาสเอามาลงให้ เป็นสูตรที่ใช้ประจำตอนนี้

กลับมาที่เค้กของเราวันนี้ ตัวเค้กเป็น sponge cake แบบใช้เอสพี ซึ่งปกติหนึ่งไม่ค่อยได้ทำเค้กที่ใส่สารเสริมยกเว้นมีคนสั่งว่าอยากกินเค้กเนื้อนี้ แต่รอบนี้ทำเพราะอยากกำจัดเอสพีที่ซื้อมานานมากแล้ว เกรงว่าจะหมดอายุขาดใจตายจากกันไปเสียก่อน
“เอสพี” คืออะไร คลิกอ่านได้ที่นี่ ตัวเค้กหนึ่งทำรสกาแฟ ส่วนตัวครีมเป็น Swiss Buttercream เพื่อกำจัดไข่ขาวที่มีมากมายตอนนี้หนึ่งเลือกทำรสชอกโกแลต แล้วราดด้วย chocolate glaze ตัว macarons เป็น chocolate passion fruit รสโปรดที่ส่วนตัวชอบกินมากกกก สูตรเดี๋ยวไว้โอกาสหน้านะคะ เพราะรายละเอียดเยอะ ตกแต่งเสร็จหน้าตาออกมาแบบนี้ ^_^
 

 
หนึ่งไม่ได้ทำสมบูรณ์แบบมากเพราะตอนทำแอบขี้เกียจไปนิด จริงๆแล้วปาดครีมเสร็จควรแช่เย็นก่อนแล้วค่อยราดเกลซแล้วแชาเย็นต่อแล้วค่อยมาตกแต่งด้วย macarons แต่หนึ่งทำทุกอย่างในขั้นตอนเดียว…ผลคือเละเบาๆ ฮ่าๆ ปาดครีมเสร็จราดเกลซเลยแถมเกลซอุ่นไปนิด ราดเสร็จไหลเป็นทาง ตัวครีมก็นิ่มมาก แทบจะรับน้ำหนัก macarons ที่ใหญ่และหนัก (จากการกระหน่ำใส่ไส้) เลยมีย้วยมีตกไปบ้าง ได้ขนมหน้าตามอมแมมหน่อยแต่อร่อยนะคะ ^_^ มีเพื่อนรุ่นพี่ปลอบใจว่ามันคือเสน่ห์ของดฮมเมดค่ะ ไม่เป๊ะเวอร์แต่อร่อย
 

 
มาดูสูตรกันดีกว่า บล็อกนี้ไม่ได้มีรูปรีวิวละเอียดนะคะเพราะสูตรดัดแปลงจากสูตรเก่าๆที่เคยลงไว้แล้ว เหตุผลอีกข้อคือตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนการทำไว้ด้วยแหละ อิอิ

Coffee cake

สูตรสำหรับเค้กสองปอนด์ ดัดแปลงจากสูตรเค้กส้ม คลิกเข้าไปชมขั้นตอนการทำละเอียดได้ได้ที่นี่

* แป้งเค้ก 100 กรัม

* น้ำตาลทรายละเอียด (caster sugar) 80 กรัม

* น้ำร้อน 40 กรัม

* นมเย็นๆ 40 กรัม

* เนยจืดละลาย 80 กรัม

* เกลือ 1/4 ช้อนชา

* ผงฟู 1 ช้อนชา

* เอสพี 10 กรัม

* กาแฟผง 2 ช้อนชา (หนึ่งใช้เอสเปรสโซ)

* ไข่ไก่เบอร์ 0 3 ฟอง*

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง ผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้ อุ่นเตาอบไว้รอ ไฟบน-ล่าง 175 องศา เตรียมพิมพ์ กรุกระดาษไขที่ก้นพิมพ์ ไม่ต้องทาไขมัน
2. ชงกาแฟในน้ำร้อน เทนมลงไปผสมให้เข้ากัน จะได้น้ำกาแฟที่ไม่ร้อนจัดจนเกินไป
3.น้ำตาล+เกลือ ไข่ น้ำกาแฟ แป้งที่ร่อนแล้ว ใส่รวมกันในอ่างผสม ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที (หนึ่งใช้ stand mixer ของ KitchenAid **)
4. ป้ายเอสพีที่หัวตระกร้อ*** แล้วตีด้วยความเร็วสูง 7 นาที ระหว่างนี้ปาดอ่างไปด้วย ลดความเร็วเป็นต่ำ 1 นาที ใส่เนยละลาย แล้วตีต่อด้วยความเร็วปานกลางอีก 2 นาที และเพิ่มความเร็วเป็นสูงอีก 20 วินาที ปิดเครื่อง ใช้พายปาดอ่างให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง แล้วเทลงพิมพ์สูงประมาณ 3/4 ของขอบพิมพ์ กระแทกพิมพ์เบาๆกับเคานท์เตอร์ครัวไล่ฟองอากาศ นำเข้าอบประมาณ 25-40 นาทีแล้วแต่เตา
5.เมื่อเค้กสุก นำออกจากเตา กระแทกก้นพิมพ์ขนมเบาๆ พักไว้ซักพักขนมจะแยกออกจากพิมพ์ ใช้สปาร์ตูลาร์หรือมีดช่วยแซะๆด้านข้างแล้วคว่ำไว้บนตระแกรงให้เย็นสนิทก่อนนำไปตกแต่ง

* – ไข่ไก่ควรใช้ไข่ไก่สดๆ จะตีได้ขึ้นฟูกว่าไข่ไก่เก่า ผลคือเค้กจะมีปริมาณมากขึ้นด้วย

*** ทำไมต้องป้ายเอสพีที่ตะกร้อ– เคยสงสัยไหมคะ หนึ่งก็สงสัย เลยไม่ป้ายที่ตะกร้อ ใส่ลงไปในส่วนผสมเลย ผลคือไม่แตกต่างกัน อบขนมออกมาได้สวยงามเหมือนป้ายเอสพีที่ตะกร้อเลยค่ะ เลยคิดว่า การป้ายเอสพีที่ตะกร้อน่าจะเป็นความสะดวกในการใส่เอสพีที่มีหนืดๆ มันๆ มันก้อนๆและมีปริมาณน้อยลงไป และตะกร้อก็เป็นใจกลางการตีด้วย แต่หลังๆมาหนึ่งไม่ได้ป้ายตะกร้อค่ะ

Chocolate Swiss Buttercream

เป็นบัตเตอร์ครีมที่ใช้ไข่ขาวแต่ทำง่าย ไม่ต้องมีเทอร์โมมิเตอร์วัดแต่อย่างใด หนึ่งทำแบบลูกทุ่งๆมาก ที่เลือกใช้บัตเตอร์ครีมสูตรนี้เพราะอยากกำจัดไข่ขาว ครั้นจะทำ Italian meringue ก็ขี้เกียจต้มน้ำเชื่อม สูตรนี้อร่อยค่ะ ไม่หวานมากและไม่เลี่ยนเลย

* ไข่ขาว 4 ฟอง
* น้ำตาล 5-6 ช้อนโต๊ะ
* เนยจืด 225 กรัม หั่นเต๋าเป็นชิ้นละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ทิ้งให้อ่อนตัวดีที่อุณหภูมิห้อง
* Dark chocolate 60-70% chocolate solid 85 กรัม
* เกลือหยิบมือ

วิธีทำ

1.ตุ๋นชอกโกแลตด้วยวิธี double boiler คนจนชอกโกแลตละลายหมดและเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงแล้วพักไว้

 

 
2. ไข่ขาว น้ำตาลและเกลือใส่อ่างผสม นำไปตั้งบนหม้อที่ต้มน้ำร้อน เปิดไฟปานกลางค่อนไปทางอ่อนนะคะ เอาอ่างผสมไปวางบนหม้อแล้วคนไปเรื่อยๆ เราต้องการความร้อนจากไอน้ำช่วยละลายน้ำตาลในไข่ขาวและช่วยฆ่าเชื่อโรค หนึ่งคนไปประมาณ 3-4 นาที น้ำตาลละลายหมดแล้วยกอ่างผสมลงมา ปิดเตาแล้วมาตีเมอแรงต่อ ตีไปเรื่อยๆจนเมอแรงเย็นตัวลง เอาแต่ก้นหรือขอบอ่างผสมแล้วไม่ร้อน ทยอยใส่ชิ้นเนยที่อ่อนตัวดี ลงผสมครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ตีส่วนผสมให้เข้ากันดีในแต่ละครั้งก่อนใส่เนยเพิ่ม พอเนยหมดใส่ชอกโกแลตละลาย ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากันดีพร้อมนำไปตกแต่งเค้ก
 

 

การประกอบร่างเค้ก

1. นำเค้กที่เย็นตัวลงแล้วมาสไลซ์ หนึ่งสไลซ์ 3 ชั้น โดยใช้ไม้จิ้มฟันทำเครื่องหมายในแต่ละชั้นให้ตรงกัน ไม่งั้นแต่ยกออกแล้วกลับมาใหม่ไม่อยู่ล็อคเดิม หนึ่งทำ 4 จุดเลย เพื่อความชัวร์ อิอิ
2.เพื่อให้แต่ละชั้นได้ปริมาณครีมไม่ต่างกันมาก หนึ่งใช้การบีบครีมจากหัวบีบหัวใหญ่หน่อย บีบเป็นวงกลมจากด้านในวนออกด้านนอก แล้วค่อยประกบเค้ก บีบครีมด้านข้างโดยรอบ รวมทั้งหน้าเค้กด้วย ก่อนจะใช้ที่ปาดเค้กปาดตกแต่งอีกครั้ง วิธีนี้เหมาะกับมือใหม่หัดปาดครีมมาก เพราะเร็วและง่าย ถึงกระนั้นหนึ่งก็แต่งหน้าเค้กให้เรียบกริบไม่เป็นนะคะ >_< นำเค้กที่ปาดครีมเสร็จแช่เย็น รอราเกลซ 3. เตรียมเกลซสำหรับราด Chocolate glaze

ดัดแปลงจาก Talita’s kitchen เป็นการทำแบบง่ายๆไม่ต้องใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ

* น้ำ 100 กรัม
* วิปปิ้งครีม 100 กรัม
* น้ำตาล 90 กรัม
* โกโก้ 40 กรัม
* เจลาตินผง 5 กรัม
* น้ำเย็น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. บลูมเจลาตินในน้ำเย็น 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำ+น้ำตาล ใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดยกลงจากเตา ใส่ผงโกโก้ คนจนโกโก้ละลาย ตามด้วยครีม คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่เจลาตินที่บลูมไว้ คนจะเจลาตินละลาย พักไว้จนส่วนผสมอยู่ที่อุณหภูมิห้องก่อนนำไปราดราดเค้ก แต่ถ้าไม่อยากรอนอน น้ำอ่างไปตั้งบนน้ำแข็งได้ แต่ต้องคนส่วนผสมตลอด คนไม่แรงนะคะเดี๋ยวเกิดฟองอากาศ เมื่อส่วนผสมเย็นตัวลง นำไปราดบนหน้าเค้กได้เลย วิธีราดเหมือดราดหน้าเค้กส้มเลยค่ะ ราดไม่ต้องเยอะมากนะคะ แค่ให้เต็มหน้าเค้ก จากนั้นนำไปแช่เย็นจนเกลซเซ้ทตัวก่อนตัด เกลซที่เหลือเก็บในตู้เย็นได้เป็นอาทิตย์

ได้เวลาตัดเค้กแล้วววว เค้กหนึ่งชิ้นมีมากาฮง 2 ชิ้น มันคือความฟินค่ะ บอกเลย อิอิ หนึ่งเป็นคนชอบมากาฮงที่มีไส้เยอะๆเพราะเวลากัดกินมันได้อารมณ์เต็มที่ ถ้าเลือกไส้ดีๆจะไม่หวานด้วย ตัวเค้กกาแฟหอมๆ กับครีมรสชอกโกแลตเข้มๆ เข้าได้อย่างอร่อย

 

 

 
enjoy eating กันไป แต่กินเสร็จแล้วอย่าลิมไปออกกำลังกายนะคะ คือไม่กล้าคำนวณแคลอรีเลย >_<   ***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***