Chocolate Custard Cake


Chocolate Custard Cake คัสตาร์ดเค้กรสช็อกโกแลตเข้นข้น

คัสตาร์ดเค้กน่าจะเป็นเค้กอีกตัวที่หลายคนชื่นชอบ ถ้าลองกูเกิ้ลดูจะพบว่าคัสตาร์ดเค้กทำกันเวิร์]ไวด์มากทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือใต้ก็มีสูตรคัสตาร์ดเค้ก บ่งบอกถึงความฮอทฮิต9และความอร่อย)ของขนมตัวนี้ บางประเทศ (ประเทศที่พูดภาษาเสปนและฝรั่งเศส) เรียก “flan” ซึ่งก็คือ “คัสตาร์ด” นั่นเอง คัสตาร์ดเค้กมีหลายสูตรมาก หนึ่งเคยทำ
คัสตาร์เค้กใบเตย และ Coffee Caramel Custard Cake ไปแล้วซึ่งตัวเค้กต่างกันทั้งรสและวิธีทำทำแต่ตัวคัสตาร์ดทำเหมือนกัน แต่วันนี้หนึ่งขอนำเสนอ Chocolate Custard Cake คัสตาร์ดเค้กเวอร์ชันชอกโกแลตที่คัสตาร์ดหนากว่าสูตรที่เคยทำมา เอาใจคนที่ชอบกินชั้นคัสตาร์ดหนาๆ
^_^ ส่วนตัวช็อกโกแลตนั้นเข้มข้น ขนมตัวนี้มีทั้ง คัสตาร์ด คาราเมล และช็อกโกแลต รวมดาวของอร่อย ^_^

 

 

พูดถึงช็อกโกแลตเค้ก หนึ่งชอบกินแบบที่ใช้ดาร์คช็อกโกแลตทำมากกว่าสูตรที่ใช้ผงโกโก้อย่างเดียว เพราะชอบให้เค้กรสเข้นข้น กลิ่นหอมๆ เนื้อแน่นหน่อยแต่ยังนุ่มและมีความฉ่ำมากกว่าเนื้อเค้กแบบนุ่มๆ เบาๆ ฟูๆ เบาๆแบบที่ใช้ผงโกโก้อย่างเดียว จริงๆแล้วหนึ่งลองทำทั้งสองแบบแล้ว แต่ขอลงสูตรที่ชอบดีกว่า ช็อกโกแลตเค้กตัวนี้เป็นครึ่งทางระหว่างบราวนี่และเค้ก มีความหอม ความเข้มข้น กินกับคัสตาร์ดและคาราเมลแล้วอร่อยค่า หนึ่งชอบอิๆ

หนึ่งทานพร้อมส้มโชกุนรสเปรี้ยมอมหวาน เข้ากันมักๆ อร่อย เข้มข้น สดชื่นนนน

 

 

มาดูสูตรกันค่า

Chocolate Custard Cake

สูตรสำหรับพิมพ์เค้กวงกลม 2 ปอนด์

a) คาราเมล

* น้ำตาล 60 กรัม
* น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ น้ำตาล + น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟปานกลาง ใช้ช้อนคนจนน้ำตาลละลาย รอจนน้ำตาลเป็นสีคาราเมลหรือเหลืองอำพัน (แล้วแต่ความชอบนะคะ ใครชอบสีอ่อน สีเข้มเลือกได้ แต่ถ้าสีเข้มมากๆ คาราเมลจะขม) หนึ่งรอจนสีอำพันเข้มนิดๆ เติมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะเพื่อละลายคาราเมลแล้วเทลงในพิมพ์ ใช้มือเอียงพิมพ์ให้คาราเมลเคลือบพิมพ์ให้ทั่ว

b) คัสตาร์ด

* นม (full fat) 400 มล
* วิปปิ้งครีม 150 มล
* น้ำตาล 110 กรัม
* ไข่ทั้งฟอง 3 ฟอง
* ไข่แดง 2 ฟอง
* เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1. ไมโครเวฟ (หรือตั้งไฟ) นม + วิปปิ้งครีม จนร้อนจัด
2. น้ำตาล + ไข่ + เกลือ ในอ่างผสม ตีด้วยตะกร้อมือจนน้ำตาลไม่เป็นเม็ดและส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ค่อยๆเทนมลงไปในส่วนผสมไข่ในขณะที่อีกมือยังผสมส่วนผสมอยู่ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน กรองผ่านกระชอน พักไว้

C) Chocolate Cake

* ดาร์คช็อกโกแลต (64-70%) 62 กรัม
* เนย 40 กรัม
* ไข่ 2 ฟอง แยกไข่แดง ไข่ขาว
* น้ำตาล 60 กรัม
* เกลือ 1 หยิบมือ
* แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
* โกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ละลายเนยในไมโครเวฟแล้วนำมาเทในอ่างช็อกโกแลต คนจนช็อกโกแลตละลายใส่ไข่แดงลงไปครั้งละฟอง ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมจนเข้ากัน ร่อนแป้ง + ผงโกโก้ + เกลือ ลงไป ผสมจนส่วนผสมเข้ากัน (ส่วนผสมจะเป็นก้อนๆ หน่อยไม่ต้องตกใจ)
2. วอร์มเตา 170 c ไฟล่าง ตีไข่ขาวจนขึ้นฟองหยาบ ทยอยใส่น้ำน้ำลงไปแล้วตีจนเมอแรงตั้งยอด “เฟิร์ม”
3. แบ่งเมอแรงประมาณ มาผสมกับส่วนผสมข้อ 1 สามครั้ง ครั้งแรกจะผสมกันยากหน่อย ใช้ตะกร้อมือผสมแรงๆให้เข้ากัน ครั้งที่สองและสาม ตะล่อมเบามือจนส่วนผสมเข้ากัน

เทส่วนผสมลงพิมพ์ โดนเทคัสตาร์ดก่อน เวลาเทค่อยๆเท จะได้ไม่มีฟองอากาศในคัสตาร์ด กระแทกพิมพ์เบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศแล้วตามด้วยส่วนผสมเค้กจะหนืดๆพยายามเทให้ทั่วพิมพ์แล้วใช้ spatula เกลี่ยให้เนื้อเค้กเท่ากัน นำเข้าเตาอบที่วอร์มแล้ว อบแบบ รองน้ำ หนึ่งอบที่ 170 C 1 ชม 20 นาที เช็คสุกด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเค้กแล้วแห้งดี นำขนมออกจากเตา พักจนเย็นแล้วนำขนมออกจากพิมพ์
 

 
Tips

1. สามารถทำคาราเมลในพิมพ์ที่จะอบขนมได้เลย ไม่ต้องต้มในหม้อแยก แต่หนึ่งถนัดต้มในหม้อแยกมากกว่า

2. ไม่จำเป็นต้องเคลือบคาราเมลให้ทั่วพิมพ์ที่เตรียมก็ได้ แต่ถ้าคาราเมลเคลือบทั่วพิมพ์ สีของหน้าขนมจะสม่ำเสมอดูสวยงามกว่า ถ้าคาราเมลเซ็ทตัวแห้งก่อนที่จะเคลือบพิมพ์โดยทั่ว นำพิมพ์ไปอังไฟอ่อนๆ แล้วเอียงให้คาราเมลเคลือบให้ทั่ว (ดูในคลิป)

3. ฟองอากาศค้างในคาราเมลที่เซ็ทตัวแล้วถ้าฟองใหญ่อาจจะทำให้หน้าขนมมีรอยฟองอากาศ แก้ไขรีบใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มรีบจิ้มตอนที่คารเมลยังไม่เซ็ทตัวหรือใช้ทอร์ช (blow torch) พ่นจนฟองอากาศหายไป แต่ถ้าฟองเล็กๆไม่เป็นไร

4. ก่อนอบสามารถสลับชั้นคัสตาร์ดและชั้นเค้กได้ พออบเสร็จขนมจะเรียงตัวเหมือนกันคือ คาราเมล คัสตาร์ด และชั้นเค้ก (จากล่างขึ้นบนเมื่อยังไม่กลับเค้ก) อเมซซิ่งใช่ไหมคะ ^_^ เหตุผลเพราะส่วนผสมเค้กมีฟองอากาศอยู่มากทำให้ลอยตัวบนส่วนผสมคัสตาร์ดซึ่งเป็นของเหลวและมีน้ำมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าจะเทเค้กก่อนแล้วเทคัสตารด์ตาม หรือเทคัสตาร์ดก่อนเทเค้ก เมื่ออบเสร็จ เค้กจะลอยเหนือคัสตาร์ดเสมอ

5.ในการอบแบบรองน้ำ การรองผ้าอีกชั้นก่อนวางถาดอบขนมจะช่วยกระจายความร้อนให้สม่ำเสมอทำให้หน้าขนมเนียนเรียบ ไม่มีรอยบุ๋มจากการที่บางจุดร้อนกว่าจุดอื่น

6. เมื่ออบขนมจนสุก เช็กเค้กสุกด้วยการจิ้มไม้จิ้มฟัน พอถึงขึ้นแล้วแห้งดี ลองกดชั้นเค้กเบาๆแล้วไม่มีน้ำกระเพื่อม หมายความว่าคัสตารด์สุกแล้ว นำเค้กออกจากเตาแล้วพักไว้ จนเย็น การใช้มีดแซะจะช่วยให้เอาขนมออกจากพิมพ์ง่ายกว่าโดยที่ชั้นคัสตาร์ดไม่เละหรือฉีก แต่ควรแซะให้ชิดขอบพิมพ์จริงๆ ไม่งั้นขอบคัสตาร์ดอาจะแหว่งได้นะคะ

7. พักขนมจนเย็นหรือแช่เย็นก่อนตัดสัก 2 ชัวโมงเพื่อให้ชั้นคัสตาร์ดเซ็ทตัวจะได้ชิ้นขนมที่สวยงามกว่าตัดตอนร้อนๆหรือถ้าจะให้อร่อยแช่ขนมในพิมพ์ค้างคืนเพื่อให้คาราเมลซึมเข้าไปในคัสตาร์ด ทำให้ได้รสชาติอร่อยมากขึ้น

8. น้ำคาราเมลที่ไหลออกมาจากขนมตอนคว่ำหน้าจะปล่อยให้ซึมเข้าเนื้อขนมเค้ก (ขนมจะได้ฉ่ำๆ)หรือใครไม่ชอบจะตักออกบ้างก็ได้ค่ะ

9. ENJOY!

 

 

 

 

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

YOU MIGHT ALSO LIKE

Lemon Raspberry Yogurt Cake
December 17, 2020
Nutella Swirl Banana Bread
August 03, 2020
รีวิวแป้งเค้ก super violet cake flour แป้งเค้กแบรนด์ Tomiz จากญี่ปุ่น
December 16, 2019
Candied Bael Fruit Madeleines แมดเดเลนมะตูม
December 03, 2019
Carrot Cake เค้กแครอท
November 05, 2019
มะตูมเอิร์ลเกรย์เค้ก Beal Fruits Earl Grey Cake
April 09, 2019
เค้กมะตูม Bael Cake
January 03, 2019
ube cupcakes
Purple Sweet Potato Cupcakes with Pandan Custard Cream คัพเค้กมันม่วงไส้ครีมใบเตยสังขยา
September 19, 2018
Snow White Roll Cake โรลเค้กปุยหิมะ
March 26, 2018

6 Comments

FUFY
Reply February 27, 2018

^_^

pat
Reply March 9, 2018

น่าทานมากๆคะ

NIYA
Reply June 11, 2018

น่ากินมากค่ะะะ <3
ถ้าใช้ dark chocolate 58% จะต้องลดน้ำตาลหรืออย่างอื่นลงหรือเปล่าคะ

    adrenalinerush
    Reply June 12, 2018

    ลองทำแบบไม่ลดดูก่อนนะคะ อาจจะชอบเพราะจริงๆสูตรนี้ไม่ค่อยหวานมาก ถ้าทำแล้วรู้สึกว่าหวานค่อยลดน้ำตาลในส่วนของเค้กลงเล็กน้อย

      NIYA
      Reply June 14, 2018

      ขอบคุณมากค่ะ >.<

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *