Meat Bar 31
บล็อกเอนทรีแรกของปี 2017 หนึ่งขอประเดิมด้วยรีวิวร้านอาหารที่ไปทานกับที่บ้านวันที่ 1 ม.ค 2560 Meat Bar 31 เป็นร้านอาหารสำหรับคนรักเนื้อ (steak house) แต่เมนูอื่นๆเค้าก็อร่อยใช้ได้เลยค่ะ หนึ่งเคยมากินร้านนี้ 3 แล้ว ทุกครั้งเน้นกินสเต็กความอร่อยเสมอต้นเสมอปลาย ครั้งนี้เลยเลือกเป็นร้านฉลองปีใหม่กับครอบครัวเพราะบ้านเราชอบทานสเต็กกันเกือบทุกคน
Meat Bar 31 อยู่ในคอนโดมิเนียม El Patio ซอยสุขุมวิท 31 ทางเข้าค่อนข้างซอกแซกนิดนึง แอบไปหาประวัติร้านมาแล้วแปลกใจนิดหน่อยเพราะตอนแรกเดาว่าเจ้าของร้านน่าจะเป็นต่างชาติ แต่ผิดค่ะ เชฟเจ้าของร้านเป็นคนไทย เชฟนิกุ อิทธิ วรเนตร จบปริญญาตรีคณะบัญชี แต่ด้วยใจรักจึงบินไปเรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu ประเทศอังกฤษ แล้วออกมาทำงานเก็บประสบการณ์กว่าสิบปีก่อนมาเปิดร้านนี้ เชฟอยากให้มีร้านสเต็กดีๆที่ไม่ต้องไปกินตามโรงแรมหรู สามารถกินได้บ่อยๆ
รู้จักกันพอประมาณแล้ว มาตะลุยกินกันค่ะ หนึ่งรู้จักร้านนี้จาก https://www.chope.co แล้วตามรอยมา ปรากฎว่าชอบมาก มาซ้ำหลายครั้งก็ยังอร่อย ในรูปอาหารดูเยอะเพราะหนึ่งรวบรวมเอาการไปกินที่ร้านนี้ทั้งหมด 4 ครั้งมารีวิวในบล็อกเดียวนะคะ
ร้านอยู่ริมซ้ายมือสุดของคอนโด El Patio มีป้ายบอกชัดเจน รูปเบลอไปนิดนะคะ แสงไม่พอ
ร้านไม่ใหญ่มาก ตกแต่งแบบสบายๆ บรรยากาศ cozy ไม่เป็นทางการมาก หนึ่งไม่ค่อยได้เก็บบรรยกาศร้านมาเท่าไหร่ เกรงใจแขกที่มานั่งทานอาหาร แต่เข้ามาแล้วยังไงก็ต้องสะดุดตากับน้องวัวตัวนี้แน่นอน 😉
ด้านหลังร้านมีเคาน์เตอร์บาร์ ด้านหลังบาร์เป็นครัวติดกระจกให้เราเห็นเชฟทำอาหาร มีเปียโนที่สามารถเล่นได้จริงด้วย น้องปริมหลานสาวไปโชว์ฝีมือมาแล้ว 😉 ปกติเค้าจะเปิดเพลงตลอดแต่ถ้าอยากเล่นก็สามารถบอกพนักงานได้
มาสั่งอาหารกันค่ะ ร้านเค้าแม้จะเป็น steak house แต่ก็มีเมนูอาหารอื่นๆให้เลือกทั้งซุป appetizer อาหารจานหลักที่ไม่ใช่สเต็ก พาสต้า ขนมหวาน ไอศครีม เรียกว่าครบแม้ตัวเลือกจะไม่มีเยอะมาก ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกทั้งเบียร์ ไวน์ ค็อกเทล ม็อกเทล ดูรายละเอียดเมนูและราคา ที่นี่
ก่อนไปกินอาหารขอชื่นชมพนักงานในร้านก่อนนะคะ แม้ร้านจะไม่เป็นทางการมากแต่พนักงานบริการดีมาก คอยดูแล คอยถามตลอดว่าขาดเหลืออะไร ที่สำคัญมีความรู้เรื่องเมนูของร้านและสามารถแนะนำเราได้ ไปกี่ครั้งก็รู้สึกประทับใจ
เริ่มที่ซุป Lobster Bisque with Floating Cavia ครีมซุปกุ้งมังกร กลิ่นหอมๆ โปรยคาเวียร์มาเบาๆ ถ้วยหายวับในพริบตา คืออร่อย จริงๆ หลานชายสั่ง Cream of Mushroom Soup มาทานด้วย บอกว่าอร่อยมากแต่หนึ่งไม่ได้ถ่ายรูปไว้
Lobster Macaroni & Cheese เมนู appetizer สุดฮิตของทางร้านเป็นจานแนะนำด้วย ชีสเค้าแน่นและยืดดดดดดีมาก หอมด้วยค่ะ มีเนื้อกุ้งมังกรโรยหน้าสวยงาม แนะนำว่าควรรีบกินตอนร้อนๆ ฟินค่ะ
appetizer อีกจาน เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน Roasted Bone Marrow served with Garlic Toast ไขกระดูกอบเสิร์ฟกับขนมปังกระเทียม หนึ่งไม่เคยกินแต่ลองสั่งมา ไขกระดูกก็ไขมันนี่เอง รสจืดหน่อยแต่ทาบนขนมปังกระเทียมแล้วหม่ำ ตัวไขกระดูกละลายในปากเลย ขนมปังกระเทียมเค้าอร่อยมากค่ะ กรอบ หอมทั้งเนยและกระเทียม ต้องสั่งเฉพาะขนมปังกระเทียมมากินอีกรอบแต่ตัวไขกระดูกไม่เป็นที่โปรดปรานของสมาชิกที่ไปเท่าไหร่นัก
มาจานสลัดบ้าง เริ่มที่สลัดจานโปรด คือต้องสั่งทุกครั้งที่ไป Classic Caesar Salad with 63°C Onsen Egg ร้านใช้ผักโรเมนกรอบ สด เนื้อหวานนิดๆเข้ากับน้ำสลัดที่มีความเค็มและเปรี้ยวนิดๆ มีแอนโชวีมาให้เป็นตัวๆเลย หนึ่งชอบมาก ส่วนไข่ออนเซนฟูฟีชอบมาก คลุกไปพร้อมสลัดเลย
สลัดจานโปรดอีกจาน Grilled portobello salad เห็ดพอร์ทโตเบลโลขนาดใหญ่ ย่างมาหอมๆ โรยชีสกับถั่วน่าจะเป็นอัลมอนด์ ผักสด น้ำสลัดหวานนำ เปรี้ยว มีเค็มตาม อร่อยมากค่ะ
Foie gras salad and berry sauce จริงๆหนึ่งไม่ได้เป็นแฟนคลับของฟัวกราส์ แต่ฟูฟีเธออยากกินเลยสั่งมาลอง ฟัวการส์ชิ้นกำลังดีย่างมาแบบกรอบนอกนุ่มใน ราดเบอร์รีซอสรสหวาน เปรี้ยว กินกับผักสดที่คลุกน้ำสลัดรสคล้ายน้ำสลัดบัลซามิก อร่อยดีค่ะ
Smoked Duck Breast Salad, Fig and Almond with Passion Fruit Dressing เนื้ออกเป็ดรมควันกับน้ำสลัดที่มีรสหวานนำ มีเปรี้ยวและเค็มตาม เสาวรสให้รสสดชื่นขึ้น ใครที่ชอบน้ำสลัดรสหวานนำน่าจะชอบ
มาจานสเต็ก ดาราเด่นของร้านบ้าง หนึ่งมากิน 4 ครั้ง สั่งอยู่ 2 เมนูซ้ำไปมา แบบว่าติดใจ ^_^ เนื้อเค้ามีให้เลือกจากทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย วากิวจากญี่ปุ่น เนื้อพรีเมียมของไทยและใช้การย่างแบบ Lava Grill คือ การใช้หินลาวาซึ่งเป็นหินที่สามารถทนความร้อนได้สูงมาก สเต็กจึงเนื้อด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มและหอมมากกกก ถ้าใครชอบกินเนื้อได้กลิ่นแล้วฟินเลยค่ะ ถ้าใครไม่มีไอเดียว่าอยากสั่งอะไร ในเมนูเค้ามีไกด์ให้ว่าเนื้อแต่ละแบบรสชาติกี่ดาว ความนุ่มกี่ดาว
ไปครั้งแรกสั่งเมนูนี้มาลอง Australian Grain-Fed, bone-in Tomahawk Cut เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เนื้อทอมะฮอว์คเป็นเนื้อส่วนซี่โครงที่ตัดเอากระดูซี่โครงยาวๆมาด้วย หน้าตาคล้ายขวานทอมะฮอว์ค จริงๆเมนูนี้หนัก 1 กิโลกรัมรวมกระดูกด้วย เหมาะสำหรับ 3-4 คนแต่เราไป 2 คนเท่านั้น…กล้าสั่งเนอะ อิอิ ไปครั้งแรกสเต็กเสิร์ฟบนจานเหล็กร้อนฉ่ามาเลยค่ะ กลิ่นเนื้อและเครื่องเทศที่โรยมาหอมมากกกกก เค้ามี Sea salt, radish, mustard & whole grain mustard มาให้จิ้มเนื้อด้วย แต่เนื้อมีรสเค็มอยู่แล้ว แต่ลองจิ้มเปลี่ยนรสชาติได้ค่ะ หนึ่งลองทุกอย่างแล้วพบว่าไม่จิ้มอะไรดีที่สุด ได้รสเนื้อเต็มๆ ถามว่ากินสองคนหมดไหม…ไม่หมดค่ะ กินไปได้ครึ่งเดียวที่เหลือห่อกลับบ้าน 555 เอามาอุ่นกินวันรุ่งขึ้นยังอร่อย
มารอบสองรู้สึกถาดเหล็กที่รองมาไม่ร้อนเท่าครั้งแรกกลิ่นหอมเลยลดลงไปแต่ก็ยังอร่อย เห็นเนื้อแดงๆแบบนี้เพราะหนึ่งสั่ง medium rare ไปวางไว่สักพักเนื้อที่อยู่ด้านติดถาดเหล็กจะสุกขึ้นมาอีกเพราะมันร้อน แต่ถ้าคิดว่าอย่ากให้เนื้อที่สั่งสุกขึ้นมาอีกบอกพนักงานให้นำกลับไปย่างได้ หนึ่งไม่ชอบทานสุกมากเพราะเนื้อจะนุ่มลดลง ส่วนตัวหนึ่งโอเคกับทอมะฮอว์ค เนื้อหอม นุ่ม มีไขมันไม่มากนัก
มาถึงเมนูสุดโปรดของหนึ่ง Miyazaki Wagyu, Rib Eye เป็นสเต็กเนื้อวากิวอย่างดีและมีไขมันแทรกในเนื้อเยอะ(A4 Grade, Marble Score 7-8) เห็นเกรดแล้วนึกภาพออกเลยว่าคงนุ่มละลายในปาก ขนาด 400 กรัม กินสองคนกำลังดีเลยค่ะ เนื้อย่างมาแบบที่ขอคือ medium rare เนื้อด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม ละลายในปาก จิบไวน์ตาม…คือฟินมากกก ส่วนตัวหนึ่งชอบกินสเต็กที่มีมันแทรกเยอะหน่อย เพราะมันจะยิ่งนุ่ม เวลาย่างจะหอม ยิ่งเป็นวากิวที่เกรดดี marble score สูงๆจะยิ่งอร่อย ควสต กินกับไวน์อร่อยเหาะ แต่กินเยอะแล้วมันจะเลี่ยนได้ ดังนั้น 400 กรัม 2 คนหนึ่งว่ากำลังดีเลย
สามารถสั่งมาหั่นเองหรือให้ที่ร้านหั่นให้ รอบนี้ให้ร้านหั่นมาให้ เห็นรูปแล้วอยากไปกินอีก ไม่ต้องบินไปกินที่ญี่ปุ่นแล้ว 😉
สเต็กที่นี่เสิร์ฟแต่เนื้อมาเลย ถ้าอยากได้ side dishes เช่น มันฝรั่งบด มันฝรั่งทอด น้ำเกรวีหรือซอสพิเศษต้องสั่งเพิ่ม ปกติหนึ่งไม่ค่อยสั่ง side dish ถ้าสั่งเป็นตัวนี้ค่ะ baby carrot อร่อย
เครื่องดื่มสั่งเหมือนเดิมทุก ไวน์แดง Cabernet Sauvignon สั่งเป็นแก้ว ถ้าไปหลายคนก็สั่งเป็นขวด ไวน์แดงและสเต็กเค้าเหมือนเกิดมาคู่กัน ช่วยเสริมรสชาติกันและกันดีมาก ลดความเลี่ยนและดึงรสเนื้อให้อร่อยขึ้นมาด้วยค่ะ กินน้อยๆช่วยลดคลอเลสเตอรอลด้วย ดีต่อใจและต่อ(สุขภาพ)หัวใจด้วย 😉
จบคาวแล้วมาต่อหวานกันบ้าง ไม่ได้คาดหวังกับขนมเค้ามากแต่รสชาติใช้ได้เลยค่ะ
1. Earl grey ice cream ไอติมรสชาเอิร์ลเกรย์ หอมกลิ่นชาเอิร์ลเกรย์มาก อร่อย
2. Scopino Yuzu เป็นเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไป Gin และมีกลิ่นส้มยูซุด้วย เหมือนไอติมเกล็ดหิมะค่ะ กินแล้วหอมๆรสเข้มๆ สดชื่นมาก กินแล้วหายเลี่ยนเนย มันเนื้อเลยล่ะ
3. Yogurt panna cotta อร่อยดีค่ะ ฟูฟีชอบมาก ความน่ารักอยู่ที่เพิร์ลไขมุกที่กัดแล้วกรอบ อร่อย ตัวครัมเบิลเป็นเนื้อเค้กผสมน้ำผึ้งแต่ไม่กรอบเหมือนครัมเบิ้ลที่เคยกิน
สุดท้ายคือ brownie เสิร์ฟพร้อมไอติมวานิลา บราวนีเค้ารสเข้มมาก กินกับไอติมและซอสคารมเมล โดยรวมแล้วอร่อยดี
อิ่มอร่อย สาวๆคอนเฟิร์มค่ะ ^_^ ใครชอบกินเนื้อหรือชอบสเต็กไปลองดูนะคะ
ความเห็นส่วนตัว เป็นร้านอาหารที่หนึ่งชอบ จริงๆแล้วเป็นหนึ่งในร้านโปรด ชอบทั้งบรรยากาศ รสชาติอาหารที่เสมอต้นเสมอปลาย ส่วนตัวเป็นคนชอบกินสเต็กแต่ขอเนื้อติดมันและหลงรักวากิวสเต็กของร้านนี้มากกกก ราคาไวน์ไม่แพงมาก ราคาสเต็กอาจจะสูงแต่ส่วนตัวคิดว่าคุ้ม
About Meat bar 31
อาหาร: steak house, international เวลาเปิด-ปิด: วันธรรมดา 16:00 – 23:00 ราคา: เฉลี่ย 1,000 บาทต่อหัวขึ้นไป ที่อยู่ : EL Patio ซอยสุขุมวิท 31 กทม Tel: 095 778 2617 การเดินทางและที่จอดรถ: ขับรถไปสะดวกที่สุด มีที่จอดรถฟรีหน้าร้าน จอดได้หลายคัน facebook: https://www.facebook.com/meatbar31/ |
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
FUFY
July 7, 2017Meat Bar อร่อยที่สุดในโลกกกกก ^_^