Jellyfish lake@Palau



ถ้าพูดถึงประเทศพาเลา สำหรับคนที่ไม่ได้ดำน้ำอาจจะ..เอ…มันอยู่ส่วนไหนของโลกกันนะ มารู้จักประเทศนี้แบบคร่าวๆก่อนนะคะ

Republic of Palau เป็นประเทศหมู่เกาะทางตะวันตกของทะเลแปซิฟิค มีเขตน่านน้ำติดกับอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ทั้งประเทศมีประชากรอยู่ไม่ถึง 50,000 คน (ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่า 21,000 คน) ประชากรเค้าอาศัยอยู่ตามเกาะเล็กเกาะน้อย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองหลวง มีภาษาพูดเป็นของตัวเองแต่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง พูดแบบคล่องเลยค่ะเพราะเคยเป็นประเทศอาณานิคมของอเมริกามาก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ตอนนี้จะเป็นอิสระแล้วแต่อเมริกายังให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆรวมทั้งด้านการเงินด้วย

แล้วประเทศเล็กๆแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจ….ประเทศหมูเกาะแห่งนี้มีภูมิประเทศที่สวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ตัดกับท้องเลสีสวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก ในทะเลยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการัง สัตว์น้อยใหญ่ โดยเฉพาะฉลาม นอกจากนี้ยังมีซากเรือสงครามโลกครั้งที่สองจมและเป็นจุดดำน้ำหลายจุด ดังนั้นที่นี่จึงเป็นจุดน้ำน้ำระดับโลกที่นักดำน้ำทั่วโลกอยากมา และนอกจากนี้ยังมี Jellyfish lake ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งในโลกบล็อกนี้หนึ่งขอนำเสนอสถานที่ที่หนึ่งชอบที่สุดก่อน…นั่นคือ Jellyfish lake นั่นเอง

Jellyfish lake อยู่ที่เกาะ Eil Malk การเดินทาง ต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปประมาณ 40-45 นาที และเดินเท้าเข้าไปประมาณ 10-15 นาทีแต่การเดินอาจจะต้องออกแรงเล็กน้อย เพราะต้องเดินขึ้น/ลงเขาเล็กๆ บางช่วงมีบันไดให้อย่างดี

ขอยืมรูปจากวิกิมาให้ชมนะคะ

จะเห็นว่าไม่มีทางเปิดติดต่อกับทะเลแต่ตัวละเลสาบติดต่อกับทะเลโดยผ่านช่องหรือรูเล็กๆของหินภูเขา ดังนั้นน้ำจึงยังเป็นน้ำเค็ม และเป็นที่อาศัยของ Golden jellyfish มากมายหลายแสนตัว แมงกะพรุนเหล่านี้ไม่มีพิษเพราะอาศัยอยู่ในทะเลสาบปิดที่ไม่มีศัตรู ใช้ชีวิตด้วยการลอยตัวสวยๆขึ้นไปรับแสงอาทิตย์ แมงกะพรุนได้รับอาหารจากสาหร่ายที่อยู่ในเนื้อเยื่อของมัน และสาหร่ายเหล่านี้สังเคราะห์แสง เป็นการใช้ชิวิตแบบได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ win-win ทั้งสองฝ่าย

การชมแมงกะพรุนเหล่านี้ทำได้ด้วยการ snorkeling และ free diving เ่ท่านั้น ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวดำน้ำแบบ Scuba และมีกฏที่ต้องปฏิบัติตามและสิ่งที่ต้องรู้คือ

1. ดูและกล้องให้ดี ถ้ากล้องหลุดจากมือ ถือว่าจบกัน ไม่มีการดำน้ำหาให้
2. ตี fins หรือตีนกบเบาๆ เพื่อลดการบาดเจ็บต่อตัวแมงกระพรุนอันแสนจะบอบบาง
3. ห้ามดำลงไปลึกกว่า 15 เมตร เพราะที่ความลึกมากกว่า 15 เมตรเป็นชั้นที่ไม่มีออกซิเจนและมีก๊าซพิษ สามารถซึมผ่านผิวหนังได้

พร้อมแล้วกระโดดเลยค่า ปล หนึ่งว่ายน้ำไม่แข็ง แต่การใส่ตีนกบและก๊อกเกิ้ลทำให้ชีวิตสบายขึ้นมากๆ สามารถแหวกว่ายได้โดยไม่ต้องกลัวจมเลย

อุ้ย มาให้เห็นแล้ว สีทองสมชื่อจริงๆค่ะ

 
 

 
 

เริ่มเห็นเยอะขึ้น แต่ละตัวจะว่ายน้ำขึ้นมาบนผิวเพื่อให้สาหร่ายที่อยู่ในเนื้อเยื่อมันสังเคราะห์แสง

 
 

 
 

 
 

ว่ายไปสักพักเริ่มเห็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ

 
 

 
 

ความรู้สึกแรกที่ว่ายน้ำไปโดนแมงกะพรุนน้อย ตื่นเต้นๆ เค้าจะตัวนิ่มๆเด้งๆ

 
 

 
 

 
 

ถ่ายลงไปด้านล่าง เรืองแสงอยู่ด้านล่าง

 
 

 
 

นอกจากแมงกะพรุนก็มีปลาตัวเล็กตัวน้อยนะคะ 🙂

 
 

 
 

การชมแมงกะพรุน จะชมบนผิวน้ำสวยๆแบบนี้ก็ได้
 
 

 
 
หรือจะดำลงไปลึกหน่อยก็สนุกนะคะ 🙂

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 
เจ้าพ่อแมงกะพรุนของทริป 😉
 
 

 
 

เราเล่นกันที่นี่เกือบ 2 ชม จริงๆเค้าให้เวลาแค่ 45 นาทีค่ะ อยู่กันแบบจัดเต็มเลยทีเดียว
ปิดท้ายบล็อกด้วยภาพนี้

บล็อกหน้าจะพาไปดำน้ำแบบ scuba นะคะ
 
 

 
 
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม ” share” ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***

adrenalinerush
About me

Deeply in love with traveling, cooking and baking. Also love to write and like to share. Join me in traveling and kitchen adventures!

1 Comments

FUFY
Reply May 24, 2016

เห็นแล้วอยากไปอีก

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *